Skip to content

Commit

Permalink
Apply news
Browse files Browse the repository at this point in the history
  • Loading branch information
wannaphong authored and actions-user committed Oct 13, 2023
1 parent 9f6ecdb commit 8e91956
Show file tree
Hide file tree
Showing 28 changed files with 381 additions and 1 deletion.
Original file line number Diff line number Diff line change
@@ -0,0 +1,15 @@
รัฐบาลไทย-ข่าวทำเนียบรัฐบาล-Thailand and Singapore to reinforce cooperation in energy, financial sector, and food security


วันศุกร์ที่ 13 ตุลาคม 2566
Thailand and Singapore to reinforce cooperation in energy, financial sector, and food security
Thailand and Singapore to reinforce cooperation in energy, financial sector, and food security
October 12, 2023, at 1100hrs (Singapore local time), at the Istana (office of the President of the Republic of Singapore), Prime Minister and Minister of Finance Srettha Thavisin attended an official welcoming ceremony before paying a courtesy call on H.E. Mr. Tharman Shanmugaratnam, President of the Republic of Singapore, and having a bilateral meeting with H.E. Mr. Lee Hsien Loong, Singaporean Prime Minister. Government Spokesperson Chai Wacharonke disclosed gist of the meetings as follows:
During the courtesy call on Singaporean President, the Prime Minister mentioned tightening of cooperation in mutually potential areas, such as energy, food and agro products, finance and investment. Thailand would like to invite Singaporean businesses to invest in Thailand in Data Center, which would contribute to the country’s economic advancement. Singapore is Thailand’s good friend and close partner, and the latter stands ready to further strengthen friendship and cooperation in all areas of mutual interest through leveraging existing bilateral cooperation mechanisms.
In his discussion with the Prime Minister of Singapore, the following agendas were raised:
The Prime Minister hoped to expand bilateral trade and investment cooperation, as well as the cooperation in new economies, i.e., digital economy, green industry, the Green Bond, and hi-tech industries. He also congratulated post-COVID-19 recovery, as the two countries are vying for economic advancement, especially in tourism. Thailand and Singapore committed to work together to push forward economic growth and national development. The Singaporean Prime Minister also congratulated the success of PromptPay – PayNow linkage.
Both parties agreed on the need to reinforce cooperation in energy, financial sector, and food security. Thailand affirmed its commitment to support Singapore in food security, and to facilitate export of Thai food and agro products to the country.
The two Prime Ministers also came to terms with new forms of business development cooperation, such as green economy and trade, to keep up with global changes. ASEAN is already supported with development infrastructures, and the Thai private sector is also keen to venture into new areas of investment, and to build on existing businesses. Nevertheless, traditional cooperation remains important to both Thailand and Singapore. The Prime Minister was of the view that the ASEAN-GCC meeting be held to discuss wide-ranging topics, including security and economic development.
The Prime Minister also took the opportunity to invite the Singaporean Prime Minister to visit Thailand at their first convenient opportunity.

ที่มา : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/73324
Original file line number Diff line number Diff line change
@@ -0,0 +1,14 @@
รัฐบาลไทย-ข่าวทำเนียบรัฐบาล-“รัดเกล้า” ย้ำ รัฐบาลเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหา และลดสัดส่วนหนี้ครัวเรือน โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาหนี้สินให้กับประชาชนรายย่อย ตั้งเป้าลดสัดส่วนหนี้ครัวเรือนให้ลดต่ำกว่าระดับ ร้อยละ 80”


วันศุกร์ที่ 13 ตุลาคม 2566
13/10/2566
พิมพ์
“รัดเกล้า” ย้ำ รัฐบาลเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหา และลดสัดส่วนหนี้ครัวเรือน โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาหนี้สินให้กับประชาชนรายย่อย ตั้งเป้าลดสัดส่วนหนี้ครัวเรือนให้ลดต่ำกว่าระดับ ร้อยละ 80”
“รัดเกล้า” ย้ำ รัฐบาลเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหา และลดสัดส่วนหนี้ครัวเรือน โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาหนี้สินให้กับประชาชนรายย่อย ตั้งเป้าลดสัดส่วนหนี้ครัวเรือนให้ลดต่ำกว่าระดับ ร้อยละ 80”
วันนี้ (13 ตุลาคม 2566) นางรัดเกล้า อินทวงศ์ สุวรรณคีรี รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ธนาคารออมสิน ซึ่งกำกับดูแลโดยกระทรวงการคลัง เดินหน้าแก้ไขปัญหา และลดสัดส่วนหนี้ครัวเรือน โดยเฉพาะปัญหาหนี้สินของประชาชนรายย่อย ตลอดจนให้ความรู้ทางการเงิน และพัฒนากำลังคน เพื่อรองรับการทำงานตามนโยบายรัฐบาลในอนาคต ตามที่นายกรัฐมนตรีได้ให้นโยบายและย้ำถึงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ทั้งการเพิ่มรายได้ ลดรายจ่าย แก้ปัญหาหนี้ภาคประชาชน โดยให้ดำเนินการให้ได้เร็วที่สุด
นางรัดเกล้า กล่าวว่า เพื่อเป็นการขานรับนโยบายของรัฐบาล ธนาคารออมสินจึงได้จัด “โครงการเฉลิมพระเกียรติเนื่องในวันนวมินทรมหาราช วันที่ 13 ตุลาคม 2566” มาตรการแก้ไขหนี้ตามนโยบายรัฐบาลเพื่อลูกหนี้รายย่อยธนาคารออมสิน เพื่อช่วยเหลือลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจต่อเนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 จากการผ่อนชำระ และลูกหนี้บางส่วนที่มีสถานะ NPLs จากผลกระทบดังกล่าว โดยจะเปิดให้เข้าร่วมโครงการได้จนถึงวันที่ 30 ธันวาคม 2566
สำหรับมาตรการแก้ไขหนี้ดังกล่าว เพื่อช่วยเหลือลูกค้ารายย่อยสินเชื่อธนาคารออมสิน ด้วยการให้พักชำระเงินต้น และให้ทางเลือกจ่ายดอกเบี้ยตั้งแต่ 25% - 100% แล้วแต่กรณี ตามเงื่อนไขธนาคารและสถานะของลูกหนี้แต่ละราย เมื่อสามารถผ่อนชำระได้ตามเงื่อนไขของมาตรการ ธนาคารจะยกเว้นดอกเบี้ยค้างชำระก่อนเข้ามาตรการให้ รวมถึงลูกหนี้ที่มีสถานะ NPLs อยู่ก่อนวันที่ 30 ธันวาคม 2565 ธนาคารจะชะลอกระบวนการดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยไม่ฟ้อง ไม่ยึดทรัพย์ ไม่ขายทอดตลาด และไม่ฟ้องล้มละลาย แล้วแต่กรณี โดยให้ผ่อนชำระได้สูงสุด 10 ปี และคิดอัตราดอกเบี้ยพิเศษตามเงื่อนไขธนาคาร ทั้งนี้ ลูกหนี้ที่ประสงค์เข้าร่วมมาตรการ สามารถติดต่อธนาคารออมสินสาขาเจ้าของบัญชีเงินกู้ หรือสาขาที่สะดวกได้ถึงวันที่ 30 ธันวาคม 2566
“รัฐบาลผลักดันนโยบายไปสู่การดำเนินการเพื่อแก้ไขปัญหา พลิกฟื้นเศรษฐกิจ และยกระดับชีวิตประชาชน โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เร่งเตรียมความพร้อมดำเนินมาตรการต่างๆ ในการแก้ไขปัญหาอย่างตรงจุดและยั่งยืน ให้สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัว ซึ่งจะช่วยสนับสนุนให้สถานการณ์หนี้ครัวเรือนคลี่คลายขึ้นได้ในระยะต่อไป โดยมีเป้าหมายที่จะลดหนี้ภาพรวมให้ลดลงอยู่ในระดับที่ยั่งยืน หรือต่ำกว่า 80% ต่อจีดีพี” นางรัดเกล้า กล่าว

ที่มา : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/73321
Original file line number Diff line number Diff line change
@@ -0,0 +1,17 @@
รัฐบาลไทย-ข่าวทำเนียบรัฐบาล-นายกรัฐมนตรีกล่าวประกาศสำนักนายกฯ กำหนดให้วันที่ 13 ตุลาคม ของทุกปี เป็น “วันนวมินทรมหาราช” เชิญชวนชาวไทย ร่วมน้อมรำลึกถึงพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร


วันพฤหัสบดีที่ 12 ตุลาคม 2566
12/10/2566
พิมพ์
นายกรัฐมนตรีกล่าวประกาศสำนักนายกฯ กำหนดให้วันที่ 13 ตุลาคม ของทุกปี เป็น “วันนวมินทรมหาราช” เชิญชวนชาวไทย ร่วมน้อมรำลึกถึงพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร
นายกรัฐมนตรีกล่าวประกาศสำนักนายกฯ กำหนดให้วันที่ 13 ตุลาคม ของทุกปี เป็น “วันนวมินทรมหาราช” เชิญชวนชาวไทย ร่วมน้อมรำลึกถึงพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ
วันที่ 12 ตุลาคม 2566 นายสัตวแพทย์ชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีกล่าวประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง การกำหนดให้วันที่ 13 ตุลาคม ของทุกปี เป็น “วันนวมินทรมหาราช” ดังนี้
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช
บรมนาถบพิตร มีพระมหากรุณาธิคุณล้นเกล้าล้นกระหม่อมแก่อาณาประชาราษฎร์ ตลอดรัชสมัยของพระองค์ ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจน้อยใหญ่นานัปการ เพื่อความวิวัฒน์พัฒนาของชาติบ้านเมือง เป็นคุณประโยชน์อเนกอนันต์ และยังความผาสุกร่มเย็น แก่ผองพสกนิกรชาวไทย พระเกียรติคุณเป็นที่แซ่ซ้องก้องประจักษ์ ทั้งแก่ปวงชนชาวไทยและนานาอารยประเทศ
แม้การเสด็จสวรรคตเมื่อวันที่ 13 ตุลาคม พุทธศักราช 2559 จะล่วงเลยมาจนถึงปัจจุบัน พสกนิกรทุกหมู่เหล่ายังล้วนคำนึงถึงด้วยความสำนึกซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณอย่างไม่รู้ลืมเลือน  เพื่อให้วันคล้ายวันสวรรคตเป็นวันแห่งการร่วมรำลึกและน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้แห่งพระมหากษัตริย์ผู้ทรงมีคุณูปการอันยิ่งใหญ่แก่แผ่นดิน ประกอบกับวันที่ 13 ตุลาคม  พุทธศักราช 2566 จะเป็นวันแห่งการเสด็จสวรรคตครบ 7 ปี หรือ “สัตตมวรรษ”
รัฐบาลจึงได้นำความกราบบังคมทูลพระกรุณาขอพระราชทานพระบรมราชวินิจฉัย เกี่ยวกับการกำหนดชื่อวันคล้ายวันสวรรคต พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระอริยวงตาคตญาณสมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก มีพระดำริประทานชื่อวันดังกล่าวเพื่อประกอบพระบรมราชวินิจฉัยว่า “วันนวมินทรมหาราช” แปลว่า วันที่ระลึกถึงพระมหาราชรัชกาลที่ 9 ผู้ยิ่งใหญ่
การนี้ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้กำหนดชื่อวันคล้ายวันสวรรคตพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ว่า “วันนวมินทรมหาราช” ตามที่รัฐบาลได้ขอพระราชทานพระมหากรุณา จึงกำหนดให้วันที่ 13 ตุลาคม ของทุกปี เป็น  “วันนวมินทรมหาราช” บัดนี้ คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 26 กันยายน 2566 รับทราบการกำหนดให้วันที่ 13 ตุลาคม  ของทุกปี  เป็น “วันนวมินทรมหาราช”
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนชาวไทยทุกท่าน ร่วมน้อมรำลึกถึงพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ โดยขอให้หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนทั่วประเทศ ร่วมจัดกิจกรรมเพื่อเทิดพระเกียรติและถวายเป็นพระราชกุศลตามที่เห็นสมควรและเหมาะสม เนื่องในโอกาสพิเศษดังกล่าว

ที่มา : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/73304
Loading

0 comments on commit 8e91956

Please sign in to comment.