-
Notifications
You must be signed in to change notification settings - Fork 1
Commit
This commit does not belong to any branch on this repository, and may belong to a fork outside of the repository.
- Loading branch information
1 parent
3ad97c8
commit b052688
Showing
48 changed files
with
1,129 additions
and
1 deletion.
There are no files selected for viewing
13 changes: 13 additions & 0 deletions
13
data/2023/03/21/Government News_1_5ddd52c9-e126-45d3-a32e-a1e1b51becf7.txt
This file contains bidirectional Unicode text that may be interpreted or compiled differently than what appears below. To review, open the file in an editor that reveals hidden Unicode characters.
Learn more about bidirectional Unicode characters
Original file line number | Diff line number | Diff line change |
---|---|---|
@@ -0,0 +1,13 @@ | ||
รัฐบาลไทย-ข่าวทำเนียบรัฐบาล-The National Elderly Council supported 5,500 elderly occupational loans with total 165 million baht | ||
|
||
|
||
วันอังคารที่ 21 มีนาคม 2566 | ||
21/03/2566 | ||
พิมพ์ | ||
The National Elderly Council supported 5,500 elderly occupational loans with total 165 million baht | ||
The National Elderly Council supported 5,500 elderly occupational loans with total 165 million baht | ||
March 20, 2023, Deputy Government Spokesperson Ratchada Thanadirek disclosed that Deputy Prime Minister and Minister of Commerce Jurin Laksanawisit chaired a meeting of National Commission of the Elderly to follow up on the implementations related to elderly affairs. | ||
The meeting approved organization of the 2023 National Assembly of the Elderly for the Aging Society, to be held on April 4, 2023 at TK Hotel, Bangkok. Approval was also made on the budget of 165 million Baht under Elderly Fund Loan for Occupational Capital to 5,500 elderly people, and the budget of 20 million Baht for the implementation of 200 elderly promotion projects/activities. | ||
The meeting also approved to bestow the title of “2023 National Elderly” to Mr. Prayong Ronarong, 79, local philosopher in agriculture from Nakhon Si Thammarat province. | ||
|
||
ที่มา : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/66397 |
13 changes: 13 additions & 0 deletions
13
data/2023/03/21/ข่าวคณะโฆษก_10_f7ebdeb6-2700-452a-8fb5-bbd9713364a6.txt
This file contains bidirectional Unicode text that may be interpreted or compiled differently than what appears below. To review, open the file in an editor that reveals hidden Unicode characters.
Learn more about bidirectional Unicode characters
Original file line number | Diff line number | Diff line change |
---|---|---|
@@ -0,0 +1,13 @@ | ||
รัฐบาลไทย-ข่าวทำเนียบรัฐบาล-ครม.รับทราบคืบหน้าการดำเนินการส่งเสริมภาพลักษณ์ประเทศผ่านสื่อบันเทิง ในลักษณะ Soft Power หวัง ใช้สื่อบันเทิงเป็นเครื่องมือในการประชาสัมพันธ์และขับเคลื่อนเศรษฐกิจ สินค้าและบริการ | ||
|
||
|
||
วันอังคารที่ 21 มีนาคม 2566 | ||
21/03/2566 | ||
พิมพ์ | ||
ครม.รับทราบคืบหน้าการดำเนินการส่งเสริมภาพลักษณ์ประเทศผ่านสื่อบันเทิง ในลักษณะ Soft Power หวัง ใช้สื่อบันเทิงเป็นเครื่องมือในการประชาสัมพันธ์และขับเคลื่อนเศรษฐกิจ สินค้าและบริการ | ||
ครม.รับทราบคืบหน้าการดำเนินการส่งเสริมภาพลักษณ์ประเทศผ่านสื่อบันเทิง ในลักษณะ Soft Power หวัง ใช้สื่อบันเทิงเป็นเครื่องมือในการประชาสัมพันธ์และขับเคลื่อนเศรษฐกิจ สินค้าและบริการของประเทศ และมาตรการด้านภาษี จูงใจผู้ประกอบการ | ||
น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 21 มีนาคม 2566 ว่า ที่ประชุมครม. มีมติรับทราบรายงานความคืบหน้าการดำเนินงานตามมติคณะรัฐมนตรี : การนำเสนอวัฒนธรรมของประเทศในลักษณะ Soft Power ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ เพื่อให้เกิดการเพิ่มพูนผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจให้กับประเทศไทย | ||
น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า ความคืบหน้าการดำเนินการในด้านการส่งเสริมภาพลักษณ์ประเทศผ่านสื่อบันเทิงในลักษณะ Soft Power โดยแต่งตั้งคณะอนุกรรมการส่งเสริมภาพลักษณ์ประเทศฯ (ในคณะกรรมการภาพยนตร์และวีดิทัศน์แห่งชาติ) เพื่อศึกษา วิเคราะห์ เสนอนโยบาย แผน และยุทธศาสตร์ รวมถึงกำหนดมาตรการและแนวทางสนับสนุนการดำเนินงาน และจัดทำ (ร่าง) แผนปฏิบัติการส่งเสริมภาพลักษณ์ประเทศผ่านสื่อบันเทิงฯ เพื่อใช้สื่อบันเทิงเป็นเครื่องมือในการประชาสัมพันธ์และขับเคลื่อนเศรษฐกิจ สินค้าและบริการของประเทศ รวมทั้งจัดให้มีมาตรการด้านภาษี โดยเตรียมมาตรการการลดหย่อนภาษีหรือมาตรการทางการเงินในการจูงใจให้ผู้ประกอบการภาคเอกชนในอุตสาหกรรมการผลิตสินค้า บริการ และกำหนดกลยุทธ์การส่งเสริมภาพลักษณ์ประเทศ โดย (ร่าง) แผนดังกล่าวเข้าข่ายเป็นแผนระดับที่ 3 ซึ่งคณะกรรมการภาพยนตร์และวีดิทัศน์แห่งชาติ และคณะกรรมการนโยบายส่งเสริมภาพลักษณ์ประเทศด้วย Soft Power มีมติเห็นชอบในหลักการแล้วในคราวประชุมเมื่อวันที่ 10 พ.ย. 65 และ 29 พ.ย. 65 ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการดำเนินการเสนอ ครม. ต่อไป | ||
สำหรับความคืบหน้าด้านการขับเคลื่อน Soft Power ด้วยมิติวัฒนธรรม นั้น ได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการขับเคลื่อน Soft Power (ในคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ) เพื่อกำหนดนโยบาย เป้าหมาย และยุทธศาสตร์การขับเคลื่อน Soft Power เพื่อเพิ่มคุณค่าทางสังคมและมูลค่าทางเศรษฐกิจของสินค้าและบริการทางวัฒนธรรมให้สามารถแข่งขันได้ในตลาดโลก ยกระดับสถานะทางอาชีพทางสังคมและเศรษฐกิจ รวมถึงคุณภาพชีวิตของบุคลากรในภาคศิลปวัฒนธรรมและชุมชนท้องถิ่น และจัดทำ (ร่าง) แผนการขับเคลื่อน Soft Power ด้วยมิติทางวัฒนธรรมเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมไทย (พ.ศ. 2566-2570) เพื่อใช้เป็นแกนกลางในการขับเคลื่อนโดยมีกรอบแนวทางที่สำคัญ เช่น การศึกษาและจัดทำจุดยืนของประเทศในการขับเคลื่อน Soft Power เพื่อให้เกิดการจดจำในสายตาประชาคม โดยจะดำเนินการสำรวจความคิดเห็นเกี่ยวกับไทยในความคิดของชาวต่างชาติทั่วโลก และศึกษาแนวโน้มและสภาพการตลาดของสินค้าและบริการทางวัฒนธรรมไทยที่มีศักยภาพ | ||
|
||
ที่มา : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/66420 |
16 changes: 16 additions & 0 deletions
16
data/2023/03/21/ข่าวคณะโฆษก_11_651b6b46-587f-45de-be44-e475347f6fd4.txt
This file contains bidirectional Unicode text that may be interpreted or compiled differently than what appears below. To review, open the file in an editor that reveals hidden Unicode characters.
Learn more about bidirectional Unicode characters
Original file line number | Diff line number | Diff line change |
---|---|---|
@@ -0,0 +1,16 @@ | ||
รัฐบาลไทย-ข่าวทำเนียบรัฐบาล-รัฐบาลเดินหน้าความสัมพันธ์ไทย-UAE คาดสร้างมูลค่าการค้าระหว่างกันกว่า 3.1 หมื่นล้านบาท | ||
|
||
|
||
วันอังคารที่ 21 มีนาคม 2566 | ||
21/03/2566 | ||
พิมพ์ | ||
รัฐบาลเดินหน้าความสัมพันธ์ไทย-UAE คาดสร้างมูลค่าการค้าระหว่างกันกว่า 3.1 หมื่นล้านบาท | ||
รัฐบาลเดินหน้าความสัมพันธ์ไทย-UAE คาดสร้างมูลค่าการค้าระหว่างกันกว่า 3.1 หมื่นล้านบาท | ||
นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2566 ว่า ครม.รับทราบผลการเยือนสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (United Arab Emirates : UAE) ของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ระหว่างวันที่ 6 - 8 กุมภาพันธ์ 2566 ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ การเดินทางครั้งนี้ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้หารือกับรัฐมนตรีแห่งรัฐประจำกระทรวงเศรษฐกิจสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ด้านการค้าต่างประเทศในประเด็นต่าง ๆ อาทิ | ||
1.ไทยและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เห็นพ้องที่จะจัดทำความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจ (Comprehensive Economic Partnership Agreement: CEPA) ระหว่างกัน โดยไทยจะผลักดันให้การเจรจาแล้วเสร็จภายใน 6 เดือน ทั้งนี้ ปัจจุบัน สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์มีความตกลงลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจที่ได้ข้อสรุปแล้ว 3 ประเทศ ได้แก่ อินเดีย อิสราเอล อินโดนีเซีย และอยู่ระหว่างเจรจากับหลายประเทศ อาทิ ตุรกี กัมพูชา และเกาหลีใต้ | ||
2.ส่งเสริมการค้าการลงทุนระหว่างกัน อาทิ การจัดตั้งกลไกสภาธุรกิจไทย-สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เพื่อสนับสนุนการค้า การลงทุน และการดำเนินธุรกิจ โดยสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์สนใจที่จะลงทุนในไทยด้านอุตสาหกรรมโครงสร้างพื้นฐาน ดิจิทัล และความมั่นคงทางอาหาร | ||
3.ไทยขอให้สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์สนับสนุนจังหวัดภูเก็ตเป็นเจ้าภาพจัดงาน Specialised Expo 2028 หรืองานเอ็กซ์โปวาระพิเศษ ซึ่งเป็นงานมหกรรมระดับโลกภายใต้ลิขสิทธิ์ขององค์การนิทรรศการนานาชาติ เพื่อการส่งเสริมภาพลักษณ์ด้านต่าง ๆ ของประเทศเจ้าภาพ ทั้งนี้ องค์การนิทรรศการนานาชาติจะมีการเลือกประเทศเจ้าภาพจัดงานในเดือนมิถุนายน 2566 | ||
นอกจากนี้ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ยังได้เป็นสักขีพยานในการลงนามสัญญาซื้อขายสินค้าและบันทึกความเข้าใจระหว่างภาคเอกชนไทยและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ดังนี้ 1.การลงนามสัญญาซื้อขายสินค้าระหว่างบริษัทไทยและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์จ้านวน 5 คู่ ใน 4 กลุ่มสินค้าได้แก่ อาหาร สุขภัณฑ์และกระเบื้องเซรามิค ชิ้นส่วนยานยนต์ และผลิตภัณฑ์เมลามีน มูลค่ารวม 1,330 ล้านบาท 2.การลงนามจัดตั้งกลไกสภาธุรกิจไทย-สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งคาดว่าจะขับเคลื่อนให้เกิดมูลค่าการค้าระหว่างไทยและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 30,000 ล้านบาท และ 3.การลงนามบันทึกความเข้าใจระหว่าง DP World บริษัทด้านโลจิสติกส์ของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ กับภาคเอกชนไทยเกี่ยวกับความร่วมมือด้านโลจิสติกส์ภายใต้โครงการ World Logistics Passport ซึ่งเอกชนจะได้รับสิทธิประโยชน์ เช่น ลดต้นทุนโลจิสติกส์ ประหยัดเวลาขนส่งสินค้าจากการลดขั้นตอนพิธีการศุลกากร และใช้ประโยชน์จากเครือข่ายการขนส่งระหว่างประเทศของ DP World ได้ | ||
นางสาวรัชดา กล่าวด้วยว่า การเดินทางเยือนสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ในครั้งนี้ จะก่อให้เกิดมูลค่าการค้าระหว่างไทยและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ จำนวน 31,330 ล้านบาท ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์กำลังดำเนินการศึกษาความเป็นไปได้ในการจัดทำความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจ (CEPA) ระหว่างไทยและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่ง ครม.มีมติเห็นชอบแล้วเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2566 โดยให้ไทยเข้าร่วมเจรจาจัดทำความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจ (Comprehensive Economic Partnership Agreement: CEPA) กับสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) คาดว่า จะศึกษาแล้วเสร็จภายในไตรมาสที่ 4 ของปี 2566 นี้ | ||
|
||
ที่มา : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/66421 |
Oops, something went wrong.