Skip to content

Commit

Permalink
Apply news
Browse files Browse the repository at this point in the history
  • Loading branch information
wannaphong authored and actions-user committed Mar 30, 2024
1 parent 00379c0 commit 048faa5
Show file tree
Hide file tree
Showing 17 changed files with 246 additions and 1 deletion.
Original file line number Diff line number Diff line change
@@ -0,0 +1,13 @@
รัฐบาลไทย-ข่าวทำเนียบรัฐบาล-“เกณิกา”เผย “รมว. พล.ต.อ.พัชรวาท’ สั่งคุมเข้มฝุ่น PM2.5 ภาคเหนือ ช่วงสงกรานต์ ห่วงกระทบการท่องเที่ยว-เศรษฐกิจ พร้อมจับมือ BOI ดึงภาคธุรกิจเอกชนร่วมแก้ปัญหาไฟป่าหมอกควันอย่างยั่งยืน


วันเสาร์ที่ 30 มีนาคม 2567
30/03/2567
พิมพ์
“เกณิกา”เผย “รมว. พล.ต.อ.พัชรวาท’ สั่งคุมเข้มฝุ่น PM2.5 ภาคเหนือ ช่วงสงกรานต์ ห่วงกระทบการท่องเที่ยว-เศรษฐกิจ พร้อมจับมือ BOI ดึงภาคธุรกิจเอกชนร่วมแก้ปัญหาไฟป่าหมอกควันอย่างยั่งยืน
“เกณิกา”เผย “รมว. พล.ต.อ.พัชรวาท’ สั่งคุมเข้มฝุ่น PM2.5 ภาคเหนือ ช่วงสงกรานต์ ห่วงกระทบการท่องเที่ยว-เศรษฐกิจ พร้อมจับมือ BOI ดึงภาคธุรกิจเอกชนร่วมแก้ปัญหาไฟป่า หมอกควัน อย่างยั่งยืน
วันนี้ (30 มี.ค. 67) น.ส.เกณิกา อุ่นจิตร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง มีความห่วงใยสุขภาพของประชาชนเกี่ยวกับสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 ในพื้นที่ภาคเหนือในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ประชาชนจะออกมาร่วมกิจกรรมกลางแจ้ง โดยพล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (รมว.ทส.)ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่หลายฝ่ายเพื่อวางแนวทางการแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 อย่างจริงจัง เตรียมพร้อมรับมือและปฏิบัติการเชิงรุกในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ ป้องกัน จับกุมการเผาป่า และควบคุมเฝ้าระวังสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ไม่ให้เกินค่ามาตรฐาน เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลสงกรานต์แล้ว
น.ส.เกณิกา กล่าวต่อว่า กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ยังได้ร่วมมือกับคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) มุ่งหวังให้เกิดการแก้ไขปัญหาไฟป่าและลดปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 อย่างยั่งยืน โดยได้เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมสนับสนุนในโครงการจัดการป่า เพื่อลดปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 ตามมาตราการส่งเสริมการลงทุนเพื่อพัฒนาชุมชนและสังคม อาทิ การสนับสนุนการก่อสร้างแนวกันไฟป่าเปียก การก่อสร้างฝ่ายชะลอความชุ่มชื้น การสนับสนุนค่าเครื่องมือและอุปกรณ์ดับไฟป่า ค่าฝึกอบรมด้านการป้องกันและควบคุมไฟป่า สำหรับผู้ประกอบการภาคเอกชนที่สนใจสนับสนุนโครงการฯ จะได้รับการพิจารณาสิทธิประโยชน์จากทาง BOI เช่น การยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล กรณีกิจการที่ดำเนินการอยู่เดิม ระยะเวลา 3 ปี นับจากวันออกบัตร กรณีโครงการลงทุนใหม่ เพิ่มวงเงินจากโครงการที่ได้รับยกเว้นอยู่เดิม วงเงินยกเว้นภาษีฯ 200% นับจากเงินลงทุนที่จ่ายจริงในการสนับสนุนองค์กรท้องถิ่นตามที่ BOI กำหนด
“รัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน ได้ให้ความสำคัญกับการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละออง PM2.5 โดยให้ทำงานร่วมกันทุกภาคส่วน ทั้งภายในและภายนอกกระทรวงฯ ไปจนถึงระดับกรมต่าง ๆ ในส่วนกลาง และลงถึงระดับพื้นที่ โดยประสานงานร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อเชื่อมโยงไปสู่ประชาชน และดูแลผู้ได้รับผลกระทบอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด” น.ส.เกณิกา กล่าว

ที่มา : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/81077
Original file line number Diff line number Diff line change
@@ -0,0 +1,14 @@
รัฐบาลไทย-ข่าวทำเนียบรัฐบาล-​โฆษกฯ เผย รัฐบาลเร่งแก้ไขปัญหา กยศ. ปรับโครงสร้างลูกหนี้ กว่า 3.5 ล้านราย เก็บดอกเบี้ยไม่เกิน 1% ต่อปี ลดเบี้ยปรับไม่เกินร้อยละ 0.5% ต่อปี ไม่ต้องมีผู้ค้ำทุกกรณี


วันเสาร์ที่ 30 มีนาคม 2567
30/03/2567
พิมพ์
​โฆษกฯ เผย รัฐบาลเร่งแก้ไขปัญหา กยศ. ปรับโครงสร้างลูกหนี้ กว่า 3.5 ล้านราย เก็บดอกเบี้ยไม่เกิน 1% ต่อปี ลดเบี้ยปรับไม่เกินร้อยละ 0.5% ต่อปี ไม่ต้องมีผู้ค้ำทุกกรณี
​โฆษกฯ เผย รัฐบาลเร่งแก้ไขปัญหา กยศ. ปรับโครงสร้างลูกหนี้ กว่า 3.5 ล้านราย เก็บดอกเบี้ยไม่เกิน 1% ต่อปี ลดเบี้ยปรับไม่เกินร้อยละ 0.5% ต่อปี ไม่ต้องมีผู้ค้ำทุกกรณี
วันนี้ (30 มีนาคม 2567) นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผยความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาหนี้สินจากกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ซึ่งนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้ความสำคัญ เพราะเป็นปัญหาที่เรื้อรังมายาวนานของระบบการศึกษาไทย และต้องแก้ไขเร่งด่วน จึงได้แต่งตั้งคณะกรรมการแก้ไขหนี้สินประชาชนรายย่อย ซึ่งกลุ่มลูกหนี้ กยศ. จะเป็นกลุ่มแรก ๆ ที่ได้รับการแก้ไข
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ลูกหนี้ กยศ. ในปัจจุบันที่อยู่ระหว่างการชำระหนี้มีกว่า 3.5 ล้านราย คิดเป็นเงินมูลค่าจำนวน 454,645 ล้านบาท ในส่วนของหนี้ที่คงค้างอยู่ในขณะนี้ 5 ล้าน 3 แสนราย ผิดนัด 49% มีผู้ถูกดำเนินคดีไปแล้ว ตั้งแต่ปี 2547 จำนวน 5 ล้านคน โดยนายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้ดูแล และให้บูรณาการความร่วมมือกัน ซึ่ง กยศ. ได้ปรับเปลี่ยนกระบวนการที่รองรับกฎหมายหลายประเด็น รวมทั้งออกประกาศปรับปรุงยอดหนี้ กองทุน หลักเกณฑ์วิธีการเกี่ยวกับการคืนเงิน ส่วนที่ชำระเงินที่ปรับปรุงใหม่ รวมถึงระเบียบกองทุนที่งดบังคับคดีชั่วคราว สำหรับผู้กู้ยืมเงินและผู้ค้ำประกัน
ทั้งนี้ คณะกรรมการกำกับการแก้ไขหนี้สินประชาชนรายย่อย ได้มีมติเห็นชอบแนวทางแก้ไขหนี้ด้วยการให้คำนวณภาระหนี้ของลูกหนี้ที่มีอยู่ในปัจจุบันใหม่ ให้สอดคล้องตามพระราชบัญญัติกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2566 คือ อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ไม่เกิน 1% ต่อปี กรณีผิดนัดชำระลดอัตราเบี้ยปรับเหลือไม่เกิน 0.5% ต่อปี และไม่ต้องมีผู้ค้ำประกันในทุกกรณี รวมทั้งปรับเปลี่ยนวิธีการปรับชำระหนี้ มีการนำยอดหนี้มาคำนวณใหม่ที่ตัดเงินต้นก่อนค่อยไปตัดดอกเบี้ย ผู้กู้ยืมบางรายสามารถปิดบัญชีได้ทันที มีการคืนเงินผู้ที่ชำระเกินหลังจากปรับเกณฑ์ นอกจากนี้ กองทุนฯ ยังได้เปิดลงทะเบียนปรับโครงสร้างหนี้ทั่วประเทศตั้งแต่ 15 ก.พ. 2567 ทุกวันไม่เว้นวันหยุด ตั้งแต่เวลา 09.00 - 20.00 น.
“รัฐบาลให้ความสำคัญ และเร่งแก้ไขปัญหาหนี้สินให้ประชาชนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งรวมถึงปัญหาหนี้ กยศ. ที่เป็นเรื่องเร่งด่วนที่นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญ และสั่งการให้แก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง โดยแนวทางในการปรับโครงสร้างหนี้ดังกล่าว จะส่งผลให้ผู้กู้สามารถกลับมาชำระหนี้ได้ตามปกติ ปลดภาระผู้ค้ำประกัน รวมถึงลดกระบวนการดำเนินคดี/บังคับคดี ซึ่งกองทุนฯ จะมีเงินกลับเข้ามาอย่างต่อเนื่อง สามารถนำไปหมุนเวียนเพื่อส่งต่อโอกาสทางการศึกษาให้แก่นักเรียน นักศึกษา รุ่นต่อไป” นายชัย กล่าว

ที่มา : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/81078
Loading

0 comments on commit 048faa5

Please sign in to comment.