diff --git "a/data/2024/03/29/Government News\t_1_ac75f036-3001-49ea-85c7-ffefc69fe21d.txt" "b/data/2024/03/29/Government News\t_1_ac75f036-3001-49ea-85c7-ffefc69fe21d.txt" new file mode 100644 index 000000000..344bc8ee1 --- /dev/null +++ "b/data/2024/03/29/Government News\t_1_ac75f036-3001-49ea-85c7-ffefc69fe21d.txt" @@ -0,0 +1,15 @@ +รัฐบาลไทย-ข่าวทำเนียบรัฐบาล-​Bangkok named best city in Asia Pacific + + +วันศุกร์ที่ 29 มีนาคม 2567 +29/03/2567 +พิมพ์ +​Bangkok named best city in Asia Pacific +​Bangkok named best city in Asia Pacific +March 25, 2024, Government Spokesperson Chai Wacharonke disclosed that Thailand continues to be a popular destination for tourists across the world, following an announcement of the DestinAsian, a travel and lifestyle magazine focused on the Asia-Pacific region, on its 17th annual Readers’ Choice Awards (https://destinasian.com/readers-choice-awards/2024-winners/best-cities) which named Bangkok as the region’s best city, followed by Tokyo, Singapore, Kuala Lumpur, Hong Kong, Seoul, Sydney, Shanghai, Taipei, and Ho Chi Minh City. +DestinAsian’s Readers’ Choice Awards has annually given its readers the chance to cast their votes and recognize the best destinations in the Asia-Pacific region under various categories, including best cities, islands, hotels and resorts, airlines, airports, and cruise lines. Under the best island category, Thailand’s Phuket and Koh Samui ranks 3rd, and 4th respectively. Top 2 islands according to DestinAsian’s 17th annual Readers’ Choice Awards are Bali and Maldives. +Suvarnabhumi International Airport ranks 2nd under the best airport category, which is topped by Singapore Changi Airport. Hong Kong International Airport ranks 3rd. +As for the best airline category, THAI Airways International ranks 3rd behind Singapore Airlines and Emirates. The best low-cost airline goes to Air Asia, followed by Bangkok Airways. +According to the Government Spokesperson, Prime Minister and Minister of Finance Srettha Thavisin has placed great importance on the development of tourism industry through implementation of various measures, i.e., visa-free scheme, revision of related rules and regulations, and tourist safety provision, in a bid to boost their confidence. The Government also sets tourism as one of the eight areas to be promoted under Thailand Vision 2030, which includes also tourism-related industries, i.e., logistics and aviation, food, and wellness & medical. The Government Spokesperson added that the Government commits to promote Thai tourism to ensure that the country remains a popular tourist destination among the global community. + +ที่มา : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/81046 \ No newline at end of file diff --git a/data/2024/03/29/_1_23b56794-c069-4559-8bbe-df00cb9d6365.txt b/data/2024/03/29/_1_23b56794-c069-4559-8bbe-df00cb9d6365.txt new file mode 100644 index 000000000..746158405 --- /dev/null +++ b/data/2024/03/29/_1_23b56794-c069-4559-8bbe-df00cb9d6365.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +รัฐบาลไทย- + + +วันพฤหัสบดีที่ 1 มกราคม 2513 + +ที่มา : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/81050 \ No newline at end of file diff --git "a/data/2024/03/29/\340\270\202\340\271\210\340\270\262\340\270\247\340\270\204\340\270\223\340\270\260\340\271\202\340\270\206\340\270\251\340\270\201_1_4f18c0a5-1f7e-4944-8654-35c4e8b08ed3.txt" "b/data/2024/03/29/\340\270\202\340\271\210\340\270\262\340\270\247\340\270\204\340\270\223\340\270\260\340\271\202\340\270\206\340\270\251\340\270\201_1_4f18c0a5-1f7e-4944-8654-35c4e8b08ed3.txt" new file mode 100644 index 000000000..dfb2dd051 --- /dev/null +++ "b/data/2024/03/29/\340\270\202\340\271\210\340\270\262\340\270\247\340\270\204\340\270\223\340\270\260\340\271\202\340\270\206\340\270\251\340\270\201_1_4f18c0a5-1f7e-4944-8654-35c4e8b08ed3.txt" @@ -0,0 +1,15 @@ +รัฐบาลไทย-ข่าวทำเนียบรัฐบาล-​โฆษกฯ เผยรัฐบาลบูรณาการความร่วมมือระหว่างภาครัฐ และเอกชน ส่งเสริมการเข้าถึงแหล่งเงินทุนให้กับ SME ไทย ผ่านการจัดงานมหกรรมทรัพย์หลักประกันทางธุรกิจ + + +วันศุกร์ที่ 29 มีนาคม 2567 +29/03/2567 +พิมพ์ +​โฆษกฯ เผยรัฐบาลบูรณาการความร่วมมือระหว่างภาครัฐ และเอกชน ส่งเสริมการเข้าถึงแหล่งเงินทุนให้กับ SME ไทย ผ่านการจัดงานมหกรรมทรัพย์หลักประกันทางธุรกิจ +​โฆษกฯ เผยรัฐบาลบูรณาการความร่วมมือระหว่างภาครัฐ และเอกชน ส่งเสริมการเข้าถึงแหล่งเงินทุนให้กับ SME ไทย ผ่านการจัดงานมหกรรมทรัพย์หลักประกันทางธุรกิจ +วันนี้ (29 มีนาคม 2567) นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้ความสำคัญในการร่วมกันบูรณาการความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐ และเอกชน เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้ผู้ประกอบการ SME ไทย และส่งเสริมโอกาสให้ผู้ประกอบการ SME เข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่ายขึ้น โดยได้จัดงานมหกรรมทรัพย์หลักประกันทางธุรกิจ เมื่อระหว่างวันที่ 27-28 มีนาคม 2567 ณ กระทรวงพาณิชย์ +โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า รัฐบาลโดยกระทรวงพาณิชย์มองเห็นถึงความสำคัญของ เงินทุน ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างความเข้มแข็งให้ผู้ประกอบการ SME จึงได้เชิญสถาบันการเงิน และหน่วยงานพันธมิตรร่วมออกบูธวิชาการในงานมหกรรมทรัพย์หลักประกันทางธุรกิจครั้งนี้ เพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับทรัพย์หลักประกัน รวมถึงให้คำปรึกษา แนะนำ และปล่อยสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยพิเศษ รวมถึงเปิดโอกาสให้เครือข่ายธุรกิจผู้ประกอบการ SME เข้าร่วมแสดงและจำหน่ายสินค้าภายในงาน เพื่อขยายฐานลูกค้าและตลาดครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น +ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ยังสนับสนุนให้ผู้ประกอบการ SME ใช้ประโยชน์จาก พ.ร.บ.หลักประกันทางธุรกิจ พ.ศ. 2558 ซึ่งให้ผู้ประกอบธุรกิจสามารถนำทรัพย์สินที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจ หรือทรัพย์สินที่ใช้ประกอบธุรกิจอยู่แล้ว มาเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันการชำระหนี้ได้ โดยทรัพย์หลักประกันทางธุรกิจที่นำมาประเมินได้ อาทิ เครื่องจักรอุตสาหกรรม รถยนต์ ไม้ยืนต้น โดยไม่ต้องส่งมอบกรรมสิทธิ์ สิทธิเรียกร้องจากสัญญาเช่า สิทธิในเครื่องหมายทรัพย์สินทางปัญญา เป็นต้น โดยสถาบันการเงินที่มาในงานคิดอัตราดอกเบี้ยพิเศษ +โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวเพิ่มเติมว่า ในงานมหกรรมทรัพย์หลักประกันทางธุรกิจ ครั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ยังได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) 5 หน่วยงาน ระหว่าง กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กรมทรัพย์สินทางปัญญา กรมเจ้าท่า กรมโรงงานอุตสาหกรรม และกรมการขนส่งทางบก เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนในการทำธุรกรรมเกี่ยวกับทรัพย์มีทะเบียน สามารถตรวจสอบข้อมูลการติดหลักประกันได้จากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า และหน่วยงานที่ร่วมลงนาม MOU ได้อย่างรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ +“รัฐบาลให้ความสำคัญกับธุรกิจ SME ไทย เพราะเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ โดยมีนโยบายส่งเสริมการลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ขยายโอกาส เน้นสร้างความเข้มแข็งให้ผู้ประกอบการ SME รวมถึงมีเป้าหมายผลักดันการเพิ่มสัดส่วน GDP SME ของไทยจาก 35.2% เป็น 40% ภายในปี 2570 การบูรณาการความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐและเอกชน เพื่อส่งเสริมการเข้าถึงแหล่งเงินทุนให้กับ SME จะช่วยให้ SME ไทย มีความแข็งแกร่งภายใต้สถานการณ์ความเสี่ยงต่าง ๆ และความท้าทายรอบด้านได้” นายชัย กล่าว + +ที่มา : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/81033 \ No newline at end of file diff --git "a/data/2024/03/29/\340\270\202\340\271\210\340\270\262\340\270\247\340\270\204\340\270\223\340\270\260\340\271\202\340\270\206\340\270\251\340\270\201_2_33a7c7e5-22b6-4e6b-8056-fb9ff1906431.txt" "b/data/2024/03/29/\340\270\202\340\271\210\340\270\262\340\270\247\340\270\204\340\270\223\340\270\260\340\271\202\340\270\206\340\270\251\340\270\201_2_33a7c7e5-22b6-4e6b-8056-fb9ff1906431.txt" new file mode 100644 index 000000000..50daf77f8 --- /dev/null +++ "b/data/2024/03/29/\340\270\202\340\271\210\340\270\262\340\270\247\340\270\204\340\270\223\340\270\260\340\271\202\340\270\206\340\270\251\340\270\201_2_33a7c7e5-22b6-4e6b-8056-fb9ff1906431.txt" @@ -0,0 +1,14 @@ +รัฐบาลไทย-ข่าวทำเนียบรัฐบาล-โฆษกรัฐบาลเผย รัฐบาลกระตุ้นส่งเสริมการลงทุนจัดงานมหกรรมดนตรี และเทศกาลนานาชาติ จุดประกายให้ไทยเป็นเป้าหมายการจัดงานระดับโลก + + +วันศุกร์ที่ 29 มีนาคม 2567 +29/03/2567 +พิมพ์ +โฆษกรัฐบาลเผย รัฐบาลกระตุ้นส่งเสริมการลงทุนจัดงานมหกรรมดนตรี และเทศกาลนานาชาติ จุดประกายให้ไทยเป็นเป้าหมายการจัดงานระดับโลก +โฆษกรัฐบาลเผย รัฐบาลกระตุ้นส่งเสริมการลงทุนจัดงานมหกรรมดนตรี และเทศกาลนานาชาติ จุดประกายให้ไทยเป็นเป้าหมายการจัดงานระดับโลก หลังแถลงย้ำผลสำเร็จการลงทุน 6 เดือน ขอรับการส่งเสริมการลงทุนแล้วกว่า 8.5 แสนล้านบาท สูงสุดในรอบ 9 ปี +วันนี้ (29 มีนาคม 2567) นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่า จากความสำเร็จด้านการลงทุน ซึ่งรัฐบาลได้แถลงผลความสำเร็จจากการดำเนินการอย่างมียุทธศาสตร์ดังกล่าว ทำให้ 6 เดือนที่ผ่านมาของรัฐบาล เอกชนยื่นขอรับการส่งเสริมการลงทุนปี 2566 กว่า 8.5 แสนล้านบาท สูงสุดในรอบ 9 ปี รัฐบาลยังดำเนินการเพื่อดึงดูดการลงทุน การจัดกิจกรรมระดับโลก โดยที่ประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บอร์ด BOI) เห็นชอบให้เปิดการส่งเสริมการลงทุนใน “กิจการจัดงานมหกรรมดนตรี กีฬา และเทศกาลนานาชาติ” เพื่อยกระดับประเทศไทยให้เป็นจุดหมายปลายทางในการจัดงานระดับโลก (World Class Events) และเป็นศูนย์กลางเมืองท่องเที่ยวของภูมิภาค (Tourism Hub) +โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ภายหลังจากที่ หม่อมหลวง ชโยทิต กฤดากร ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีและประธานผู้แทนการค้าไทย และ นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ได้แถลงถึงผลการดำเนินงานของรัฐบาลด้านการลงทุนและความร่วมมือกับภาคเอกชนต่างชาติเมื่อวันอังคารที่ 26 มีนาคม 2567 โดยได้ชี้แจงว่า ในรอบ 6 เดือนที่ผ่านมา การเดินทางของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แม้ว่าจะเป็นการเยือนอย่างเป็นทางการ หรือการเดินทางเพื่อร่วมประชุมระหว่างประเทศ นายกรัฐมนตรีได้พบปะหารือกับบริษัทชั้นนำจากทั่วโลกกว่า 60 แห่ง นายกรัฐมนตรีใช้ทุกโอกาสในการเจรจาด้านความร่วมมือทวิภาคีกับผู้นำประเทศต่างๆ ร่วมเวทีสำคัญระดับโลก นำเสนอวิสัยทัศน์ ตลอดจนจัดกิจกรรมเจรจาธุรกิจและจับคู่ผู้ประกอบการไทยและต่างประเทศ และพบภาคธุรกิจต่างชาติ เพื่อสร้างความเชื่อมั่น ชักชวนการลงทุน และกระชับความร่วมมือกับประเทศไทย +โดยในส่วนของการส่งเสริมการลงทุนใน “กิจการจัดงานมหกรรมดนตรี กีฬา และเทศกาลนานาชาติ” รัฐบาลได้สนับสนุนให้ปลดล็อคข้อจำกัด ความท้าทายของการจัดงานมหกรรมดนตรี กีฬา และเทศกาลนานาชาติจะต้องเป็นงานมหกรรมขนาดใหญ่ที่มีเงินลงทุนหรือค่าใช้จ่ายในการจัดงานไม่น้อยกว่า 100 ล้านบาทต่องาน เช่น รับสิทธิประโยชน์ยกเว้นอากรขาเข้าเครื่องจักรและอุปกรณ์ที่ใช้ในการจัดงาน อำนวยความสะดวกด้านวีซ่าและใบอนุญาตทำงานสำหรับศิลปินและบุคลากรต่างชาติที่เข้ามาจัดงาน ผ่านศูนย์บริการวีซ่าและใบอนุญาตทำงาน (One Stop Service) ที่เกิดจากการบูรณาการการทำงานร่วมกันของ BOI สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และกระทรวงแรงงาน เชื่อมั่นว่าจะ ดึงดูดการจัดกิจกรรมระดับโลก ให้ไทยเป็นศูนย์กลางการจัดมหกรรมเทศกาลนานาชาติ สร้างตัวเลขทางเศรษฐกิจได้มหาศาล +“นายกรัฐมนตรีดำเนินการทำงานอย่างมีแผน พัฒนาเศรษฐกิจโครงสร้างภายในที่พร้อมเติบโตเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน เจรจาดึงดูดการลงทุน ต่อเนื่องปูทางมายังการอำนวยความสะดวก ยกระดับมาตรการภายในส่งเสริม อำนวยความสะดวกให้ไทยเป็นจุดหมายปลายทางในการจัดงานระดับโลก (World Class Events) และเป็นศูนย์กลางเมืองท่องเที่ยวของภูมิภาค (Tourism Hub) และมุ่งมั่นจะดำเนินการต่อไป ตามที่ท่านนายกฯ ได้ประกาศวิสัยทัศน์พัฒนาศักยภาพอุตสาหกรรม 8 ด้าน เพื่อยกระดับให้ไทยก้าวเป็นที่ 1 ของภูมิภาค” นายชัย กล่าว + +ที่มา : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/81034 \ No newline at end of file diff --git "a/data/2024/03/29/\340\270\202\340\271\210\340\270\262\340\270\247\340\270\204\340\270\223\340\270\260\340\271\202\340\270\206\340\270\251\340\270\201_3_4a586867-11c3-4451-b2fa-c6122ffe94a0.txt" "b/data/2024/03/29/\340\270\202\340\271\210\340\270\262\340\270\247\340\270\204\340\270\223\340\270\260\340\271\202\340\270\206\340\270\251\340\270\201_3_4a586867-11c3-4451-b2fa-c6122ffe94a0.txt" new file mode 100644 index 000000000..8ecf809ff --- /dev/null +++ "b/data/2024/03/29/\340\270\202\340\271\210\340\270\262\340\270\247\340\270\204\340\270\223\340\270\260\340\271\202\340\270\206\340\270\251\340\270\201_3_4a586867-11c3-4451-b2fa-c6122ffe94a0.txt" @@ -0,0 +1,13 @@ +รัฐบาลไทย-ข่าวทำเนียบรัฐบาล-​รัฐบาลเชิญชวน ปชช. ร่วมสัปดาห์การให้บริการประชาชน "เพื่อคนหางาน" มีตำแหน่งว่างรองรับกว่า 1,000 อัตรา ตั้งแต่วันที่ 30 มี.ค. - 7 เม.ย 67 ณ กระทรวงแรงงาน บริการฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย + + +วันศุกร์ที่ 29 มีนาคม 2567 +29/03/2567 +พิมพ์ +​รัฐบาลเชิญชวน ปชช. ร่วมสัปดาห์การให้บริการประชาชน "เพื่อคนหางาน" มีตำแหน่งว่างรองรับกว่า 1,000 อัตรา ตั้งแต่วันที่ 30 มี.ค. - 7 เม.ย 67 ณ กระทรวงแรงงาน บริการฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย +​รัฐบาลเชิญชวน ปชช. ร่วมสัปดาห์การให้บริการประชาชน "เพื่อคนหางาน" มีตำแหน่งว่างรองรับกว่า 1,000 อัตรา ตั้งแต่วันที่ 30 มี.ค. - 7 เม.ย 67 ณ กระทรวงแรงงาน บริการฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย +วันนี้ (29 มีนาคม 2567) นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาล โดยกรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน กำหนดจัดกิจกรรมการให้บริการใน "สัปดาห์การให้บริการประชาชน" รวม 9 วัน ภายในงานมีกิจกรรมการให้บริการรับสมัครงาน สัมภาษณ์งานกับบริษัทชั้นนำกว่า 20 บริษัท มีตำแหน่งงานว่างกว่า 1,000 อัตรา อาทิ ตำแหน่งผู้จัดการร้าน บัญชี การเงิน สินเชื่อ ช่างเทคนิค ธุรการ พนักงานขาย พนักงานบริการลูกค้า พนักงานรักษาความปลอดภัย แม่บ้าน บริการรับขึ้นทะเบียนและรายงานตัวผู้ประกันตนกรณีว่างงาน บริการแนะแนวอาชีพ และเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารตลาดแรงงาน +นอกจากนี้ ยังมีการสาธิตและทดลองปฏิบัติอาชีพอิสระที่กำลังเป็นที่นิยม ในวันเสาร์และวันอาทิตย์ วันละ 2 อาชีพ ได้แก่ งานไม้กระถางเป็นรูปหน้าสุนัขและแมว สร้อยข้อมือถักจากเชือกเทียน สานกระเป๋าจากเชือกพลาสติก สร้อยคอถักจากเชือกเทียน พวงมาลัยมะลิจากกระดาษทิชชู่ ตกแต่งกระเป๋ากระจูดด้วยไม้ประดิษฐ์ เทียนหอมแฟนซีจากต้นโสนหางไก่ บริการทดสอบความพร้อมทางอาชีพ รวมถึงบริการให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการเดินทางไปทำงานในต่างประเทศ บริการรับสมัครงานเพื่อเดินทางไปทำงานในต่างประเทศ โดยกรมการจัดหางานเป็นผู้จัดส่ง (รัฐจัดส่ง) พร้อมทั้งแจกของที่ระลึกมากมาย +“ประชาชน สามารถเข้ารับบริการฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย ตั้งแต่วันที่ 30 มีนาคม - 7 เมษายน 2567 เวลา 08.30 – 16.30 น. ไม่เว้นวันหยุดราชการ ณ อาคารศูนย์บริการจัดหางานเพื่อคนไทย ชั้น 1 กระทรวงแรงงาน ทั้งนี้ สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1 - 10 สำนักงานจัดหางานจังหวัดทุกจังหวัด หรือที่สายด่วนกระทรวงแรงงาน โทร. 1506 กด 2 กรมการจัดหางาน หรือสายด่วนกรมการจัดหางาน โทร. 1694” นายคารม กล่าว + +ที่มา : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/81035 \ No newline at end of file diff --git "a/data/2024/03/29/\340\270\202\340\271\210\340\270\262\340\270\247\340\270\204\340\270\223\340\270\260\340\271\202\340\270\206\340\270\251\340\270\201_4_6a6669c2-400b-4da4-b8f3-00cc1dd92295.txt" "b/data/2024/03/29/\340\270\202\340\271\210\340\270\262\340\270\247\340\270\204\340\270\223\340\270\260\340\271\202\340\270\206\340\270\251\340\270\201_4_6a6669c2-400b-4da4-b8f3-00cc1dd92295.txt" new file mode 100644 index 000000000..f90ad2645 --- /dev/null +++ "b/data/2024/03/29/\340\270\202\340\271\210\340\270\262\340\270\247\340\270\204\340\270\223\340\270\260\340\271\202\340\270\206\340\270\251\340\270\201_4_6a6669c2-400b-4da4-b8f3-00cc1dd92295.txt" @@ -0,0 +1,13 @@ +รัฐบาลไทย-ข่าวทำเนียบรัฐบาล-รองโฆษกฯ รัดเกล้าฯ เผย "พิมพ์ภัทรา" ไม่ดูดาย กำชับ เร่งรัดการทำงานกระทรวงอุตสาหกรรมอำนวยความสะดวก ขจัดขั้นตอนความล่าช้า ซับซ้อน และยุ่งยาก เอื้อต่อการลงทุนให้ภาคธุรกิจเติบโตในไทย + + +วันศุกร์ที่ 29 มีนาคม 2567 +29/03/2567 +พิมพ์ +รองโฆษกฯ รัดเกล้าฯ เผย "พิมพ์ภัทรา" ไม่ดูดาย กำชับ เร่งรัดการทำงานกระทรวงอุตสาหกรรมอำนวยความสะดวก ขจัดขั้นตอนความล่าช้า ซับซ้อน และยุ่งยาก เอื้อต่อการลงทุนให้ภาคธุรกิจเติบโตในไทย +รองโฆษกฯ รัดเกล้าฯ เผย "พิมพ์ภัทรา" ไม่ดูดาย กำชับ เร่งรัดการทำงานกระทรวงอุตสาหกรรมอำนวยความสะดวก ขจัดขั้นตอนความล่าช้า ซับซ้อน และยุ่งยาก เอื้อต่อการลงทุนให้ภาคธุรกิจเติบโตในไทยได้ง่ายขึ้น +วันนี้ (29 มี.ค. 67) นางรัดเกล้า อินทวงศ์ สุวรรณคีรี รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังย้ำเสมอให้ทุกหน่วยงานภาครัฐ อำนวยความสะดวก ให้ผู้ใช้บริการและผู้ประกอบการสามารถมาใช้บริการอย่างสะดวกมากขึ้น เชื่อมโยงหน่วยงานภาครัฐและภาคธุรกิจ เพื่อให้ง่ายต่อภาคธุรกิจ (Ease of doing Business) +รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า โดยในส่วนของกระทรวงอุตสาหกรรม นางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม​  ให้นโยบายที่จะผลักดันมาตรฐานการประกอบกิจการต่างๆ ให้การบริการ การขออนุมัติอนุญาต และการปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ การให้บริการต้องเข้าถึงและใช้งานง่าย มีความโปร่งใส ขจัดขั้นตอนความล่าช้า ซับซ้อน และยุ่งยาก โดยเฉพาะกลุ่มที่ครบถ้วนถูกต้อง เพื่อลดอุปสรรคและอำนวยความสะดวกแก่ผู้ประกอบการ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และประชาชน +“หนึ่งในภารกิจหลักของกระทรวงอุตสาหกรรม คือการส่งเสริมและพัฒนาภาคอุตสาหกรรมไทย ให้เติบโตอย่างยั่งยืน มุ่งเน้นอำนวยความสะดวกและสนับสนุนผู้ประกอบการในทุกด้าน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและตอบโจทย์ความต้องการของนักลงทุนและผู้ประกอบการ โดยท่านรัฐมนตรีฯ ได้เน้นย้ำและเร่งรัดให้ทุกส่วนงานที่เกี่ยวข้อง เร่งดำเนินการทุกคำขอที่ค้างท่อ ไม่ให้เป็นปัญหาและอุปสรรคต่อการลงทุนในประเทศไทย” รองโฆษกฯ​ รัดเกล้า กล่าว + +ที่มา : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/81037 \ No newline at end of file diff --git "a/data/2024/03/29/\340\270\202\340\271\210\340\270\262\340\270\247\340\270\231\340\270\262\340\270\242\340\270\201\340\270\243\340\270\261\340\270\220\340\270\241\340\270\231\340\270\225\340\270\243\340\270\265_1_f153f115-7098-4417-9bc7-dc947c45e2d4.txt" "b/data/2024/03/29/\340\270\202\340\271\210\340\270\262\340\270\247\340\270\231\340\270\262\340\270\242\340\270\201\340\270\243\340\270\261\340\270\220\340\270\241\340\270\231\340\270\225\340\270\243\340\270\265_1_f153f115-7098-4417-9bc7-dc947c45e2d4.txt" new file mode 100644 index 000000000..904c07303 --- /dev/null +++ "b/data/2024/03/29/\340\270\202\340\271\210\340\270\262\340\270\247\340\270\231\340\270\262\340\270\242\340\270\201\340\270\243\340\270\261\340\270\220\340\270\241\340\270\231\340\270\225\340\270\243\340\270\265_1_f153f115-7098-4417-9bc7-dc947c45e2d4.txt" @@ -0,0 +1,15 @@ +รัฐบาลไทย-ข่าวทำเนียบรัฐบาล-นายกฯ เป็นประธานสักขีพยานพิธีลงนาม บันทึกข้อตกลงความร่วมมือการสนับสนุนสมาคมกีฬาฯ ขอบคุณทุกหน่วยงานในความร่วมมือ สนับสนุนด้านกีฬาของประเทศให้พัฒนาต่อไป + + +วันศุกร์ที่ 29 มีนาคม 2567 +29/03/2567 +พิมพ์ +นายกฯ เป็นประธานสักขีพยานพิธีลงนาม บันทึกข้อตกลงความร่วมมือการสนับสนุนสมาคมกีฬาฯ ขอบคุณทุกหน่วยงานในความร่วมมือ สนับสนุนด้านกีฬาของประเทศให้พัฒนาต่อไป +นายกฯ เป็นประธานสักขีพยานพิธีลงนาม บันทึกข้อตกลงความร่วมมือการสนับสนุนสมาคมกีฬาฯ ขอบคุณทุกหน่วยงานในความร่วมมือ สนับสนุนด้านกีฬาของประเทศให้พัฒนาต่อไป ย้ำดูแลวงการกีฬาเต็มความสามารถ +วันนี้ (29 มี.ค. 67) เวลา 10.00 น. ณ ตึกสันติไมตรี (หลังนอก) ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน  นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานสักขีพยานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการสนับสนุนสมาคมกีฬาจากหน่วยงานรัฐวิสาหกิจและภาคเอกชน โดยมีนางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา  ผู้แทนสมาคมกีฬา ผู้บริหารหน่วยงานรัฐวิสาหกิจและภาคเอกชนที่ร่วมสนับสนุนสมาคมกีฬาครั้งนี้เข้าร่วมด้วย นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยสาระสำคัญสรุป ดังนี้ +นายกฯ กล่าวว่าวันนี้เป็นวันที่สำคัญในประวัติศาสตร์วันหนึ่ง โดยนโยบายโครงการ 1 รัฐวิสาหกิจ 1 กีฬา เป็นนโยบายสำคัญที่รัฐบาลนี้ให้การสนับสนุนในการขับเคลื่อน ขณะที่นายกฯ ก็ชื่นชอบกีฬาอย่างมาก รวมถึงให้ความสำคัญกับกีฬาและเข้าใจถึงหัวใจของคนรักกีฬา โดยชื่นชมองค์ประกอบในการทำงานเรื่องนี้ซึ่งมีผู้ช่วยศาสตราจารย์พิมล ศรีวิกรณ์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี และประธานอนุกรรมการพิจารณาจัดการสนับสนุนสมาคมกีฬาจากหน่วยงานรัฐวิสาหกิจและภาคเอกชน นายกองเอก ชัยภักดิ์ ศิริวัฒน์ ประธานอนุกรรมการกำหนดหลักเกณฑ์และกลั่นกรองการสนับสนุนสมาคมกีฬา ที่ดำเนินการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการพัฒนาสมาคมกีฬาให้มีผลงานดีเลิศ +พร้อมย้ำว่าเรื่องกีฬานั้นรัฐบาลนี้และคณะรัฐมนตรีให้ความสำคัญและให้ความสนใจ โดยนายกฯ ได้กล่าวถึงการได้ไปชมการแข่งขันฟุตบอลทีมชาติไทยที่ลงสนามศึกฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก (โซนเอเชีย กลุ่ม C นัดที่ 4) พบกับทีมชาติเกาหลีใต้ ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน เมื่อวันที่ 26 มี.ค.2567 ที่ผ่านมา ว่า บรรยากาศที่เกิดขึ้นเป็นไปอย่างคึกคักมีประชาชนมาชมกันจำนวนมาก ซึ่งต้องชื่นชมคุณนวลพรรณ ล่ำซำ นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ที่มีการจัดทำและบริหารให้เกิดการแข่งขันในวันนั้นขึ้นมา เป็นสิ่งที่น่ายินดีที่ทำให้หัวใจคนไทยพองโต เรายังมีสิทธิที่จะเข้ารอบ แม้ผลการแข่งขันจะออกมา 3-0 แต่สิ่งสำคัญคือเสียงเชียร์ที่กระหึ่ม และรอยยิ้มบนใบหน้าของคนไทย ตรงนี้ถือเป็นเรื่องที่สำคัญเรื่องหนึ่ง ซึ่งอยากให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับทุกวงการกีฬาเช่นกัน ทั้งนี้การแข่งขันโอลิมปิกฤดูร้อน 2024 ณ ประเทศฝรั่งเศส ก็กำลังจะเกิดขึ้นในเร็ว ๆ นี้ ดังนั้นการที่เรามาอยู่ที่นี่จึงถือเป็นเวลาที่เหมาะสม และการที่สมาคมกีฬาต่าง ๆ ได้รับการอุดหนุนจากรัฐวิสาหกิจและเอกชน จะทำให้อย่างน้อยในขณะนี้เราสามารถวางแผนของประเทศไทยได้ โดยเหตุการณ์เหล่านี้ที่เกิดขึ้นได้ไม่ใช่เพราะนายกฯ เพียงคนเดียวแต่เกิดจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง และคณะทำงาน ที่ทำงานด้วยความโปร่งใสและมีความเป็นธรรมในการที่จะคัดเลือก รวมถึงการเข้าไปดูแลเยาวชนต่าง ๆ เพื่อให้มีพื้นที่ในการออกกำลังกายโดยไม่ไปหมกมุ่นกับอบายมุขทั้งหลายนั้น ถือว่าเรื่องที่มีความลงตัว ซึ่งรัฐวิสาหกิจก็เห็นความสำคัญกับเรื่องนี้และให้การสนับสนุนงบประมาณมา จึงขอขอบคุณทุกหน่วยงานจากใจจริงในความร่วมมือกันสนับสนุนด้านกีฬา +นายกฯ กล่าวถึงงบประมาณสนับสนุนด้านการกีฬาว่าได้รับทราบจากผู้ที่อยู่ในวงการด้านกีฬาว่างบฯ ที่ได้รับการสนับสนุนก็จะลดน้อยลงไปทุก ๆ ปี แต่ตราบใดที่นายกฯ ยังเป็นนายกรัฐมนตรีอยู่จะไม่ให้วงการกีฬาต้องขาดงบฯ เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องที่สำคัญมาก โดยจะดูแลวงการกีฬาอย่างเต็มความสามารถ เพื่อให้เกิดความสมดุลกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจ การใช้งบประมาณถูกต้องปราศจากการทุจริตประพฤติมิชอบ อย่างไรก็ตามความสำคัญไม่ใช่แค่เรื่องเงินอัดฉีดและงบประมาณอย่างเดียวเท่านั้น แต่เรื่องของนโยบายก็เป็นเรื่องสำคัญ เพราะการเป็นนักกีฬามีช่วงอายุที่จำกัด ซึ่งสิ่งที่นักกีฬาทุกคนมีความกังวลคือเรื่องของอนาคต ดังนั้นเราต้องดูแลบุคลากรที่ทำชื่อเสียงมาให้แก่ประเทศชาติ ถือเป็นหน้าที่ของรัฐบาล ขณะเดียวกันภาคเอกชนได้มีการช่วยกันอย่างมากในเรื่องการจ้างผู้พิการและผู้ด้อยโอกาสให้มาทำงานด้วยในตำแหน่งหน้าที่ที่เหมาะสม ซึ่งในส่วนของหน่วยงานรัฐยังสามารถที่จะทำเรื่องนี้ได้ดีกว่านี้ ทั้งนี้การดำเนินการต่าง ๆ เหล่านี้ก็เพื่อให้นักกีฬาได้มีความสบายใจในฐานะเป็นตัวแทนประเทศชาติที่ได้ไปปฏิบัติหน้าที่ให้ธงไตรรงค์ไปโบกสะบัดทั่วโลก เมื่อหมดหน้าที่การเป็นนักกีฬาแล้ว นักกีฬาเหล่านี้สามารถมีการงานที่มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี จึงต้องเป็นหน้าที่ของกระทรวง ทบวงกรมทั้งหลายที่ต้องมาพิจารณาในการที่จะต้องจ้างบุคลคลเหล่านี้เข้ามาทำงานด้วย +นายกฯ กล่าวขอบคุณคณะทำงานทุกคนที่ทำงานด้วยความชัดเจน โปร่งใส ทำงานด้วยใจรักอย่างแท้จริง ส่งผลให้สามารถเพิ่มทั้งจำนวนสมาคมและจำนวนเงินเข้ามาสนับสนุนจากรัฐวิสาหกิจและภาคเอกชนต่าง ๆ ทั้งนี้นอกจากเรื่องเงินสนับสนุนแล้วเชื่อว่าทุกคนยังสามารถช่วยวงการกีฬาในด้านอื่นได้ด้วย ถ้ามีการใส่ใจ  ใส่นโยบายเพิ่มเติมเข้าไป และหลายคนที่อยู่ที่นี้ก็เป็นผู้ที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งเรื่องของกีฬาเป็นเรื่องที่เราต้องช่วยกันดูแลเยาวชนและเด็กที่ต้องพัฒนาต่อไป + +ที่มา : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/81044 \ No newline at end of file diff --git "a/data/2024/03/29/\340\270\202\340\271\210\340\270\262\340\270\247\340\270\231\340\270\262\340\270\242\340\270\201\340\270\243\340\270\261\340\270\220\340\270\241\340\270\231\340\270\225\340\270\243\340\270\265_2_4f0784f9-f9b2-4e69-bb71-2aecf05adb99.txt" "b/data/2024/03/29/\340\270\202\340\271\210\340\270\262\340\270\247\340\270\231\340\270\262\340\270\242\340\270\201\340\270\243\340\270\261\340\270\220\340\270\241\340\270\231\340\270\225\340\270\243\340\270\265_2_4f0784f9-f9b2-4e69-bb71-2aecf05adb99.txt" new file mode 100644 index 000000000..e3f7af7fd --- /dev/null +++ "b/data/2024/03/29/\340\270\202\340\271\210\340\270\262\340\270\247\340\270\231\340\270\262\340\270\242\340\270\201\340\270\243\340\270\261\340\270\220\340\270\241\340\270\231\340\270\225\340\270\243\340\270\265_2_4f0784f9-f9b2-4e69-bb71-2aecf05adb99.txt" @@ -0,0 +1,16 @@ +รัฐบาลไทย-ข่าวทำเนียบรัฐบาล-​นายกฯ ปาฐกถา “นักธุรกิจรุ่นใหม่กับโอกาสในการสร้างธุรกิจ และการมีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศ” เผยมีนายกฯ Pro Business ที่เข้าใจ และมีความตั้งใจจริง จะพยายามทำให้ดีที่สุด + + +วันศุกร์ที่ 29 มีนาคม 2567 +29/03/2567 +พิมพ์ +​นายกฯ ปาฐกถา “นักธุรกิจรุ่นใหม่กับโอกาสในการสร้างธุรกิจ และการมีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศ” เผยมีนายกฯ Pro Business ที่เข้าใจ และมีความตั้งใจจริง จะพยายามทำให้ดีที่สุด +​นายกฯ ปาฐกถา “นักธุรกิจรุ่นใหม่กับโอกาสในการสร้างธุรกิจ และการมีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศ” เผยมีนายกฯ Pro Business ที่เข้าใจ และมีความตั้งใจจริง จะพยายามทำให้ดีที่สุด ให้การทำธุรกิจมีความคล่องตัวขึ้น +วันนี้ (29 มีนาคม 2567) เวลา 13.30 น. ณ โรงแรม แบงค็อก แมริออท เดอะสุรวงศ์ กรุงเทพมหานคร นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวปาฐกถาพิเศษ ในหัวข้อ “นักธุรกิจรุ่นใหม่กับโอกาสในการสร้างธุรกิจและการมีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศ” โดยมีผู้อำนวยการหลักสูตร The NEXT Real นักธุรกิจรุ่นใหม่ นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ศิษย์เก่า The NEXT Real และ The NEXT Tycoon ผู้บริหารภาคเอกชน และสื่อมวลชนเข้าร่วม นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สรุปสาระสำคัญ ดังนี้ +นายกฯ กล่าวปาฐกถาฯ ตอนหนึ่งว่า วันนี้สับสนหน่อยว่ามาในฐานะอะไร ในฐานะอสังหาริมทรัพย์ ในฐานะศิษย์เก่า หรือมาในฐานะนายกฯ แต่ไม่ว่าในฐานะอะไรจะพยายามทำให้ดีที่สุด เพราะมีหลายเรื่องที่ต้องพูดกัน และอยากเล่าสู่กันฟัง ซึ่งหลาย ๆ ท่านได้ติดตามเรื่องวิสัยทัศน์หลาย ๆ อย่างไปแล้ว วันนี้พยายามที่จะสรุปให้ได้ใจความและเรื่องที่อาจจะมีความใกล้ชิดกับพวกเรามาก ในเรื่องของอสังหาฯ โดยที่ไม่เป็นการเปิดเผยความลับของประเทศ แต่เรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องที่สำคัญสำหรับหลายท่านที่รู้อยู่เรื่องอสังหาริมทรัพย์ ไม่ใช่จบมาแล้วมาทำอสังหาริมทรัพย์ บางคนครอบครัวทำหลายอย่างประสบความสำเร็จในอดีต และหลายท่านประสบความสำเร็จทำได้ดีมาก เพราะมีวินัยโฟกัสในสิ่งที่ทำ จึงทำได้ดี วันนี้การทำธุรกิจของทุกประเทศไม่ใช่อสังหาริมทรัพย์อย่างเดียว ต้องมาช่วยสังคมกันบ้าง เรื่องสำคัญคือทำให้วงการอุตสาหกรรมดีด้วยการแข่งขัน เพราะมีคู่แข่งที่ดีมีคุณภาพ ตนเองคิดว่าการแข่งขันเป็นเรื่องที่ดีทำให้พัฒนาไปในอนาคต แต่ขอให้ไปแข่งขันที่ถูกต้อง และพัฒนาคุณภาพด้วยยึดผลประโยชน์ของลูกค้าเป็นที่ตั้ง หลาย ๆ ท่านที่นั่งอยู่ตรงนี้เป็นนักพัฒนาอสังหาฯ ก็ขอให้ทำอย่างจริงจังอาจจะก้าวตัวออกมาช่วยเหลือ +นายกฯ กล่าวยืนยันว่า หากจะทำอสังหาริมทรัพย์ต้องเป็นงานจริง ๆ โดยเฉพาะสถานการณ์ที่เปราะบางในปัจจุบันที่อัตราดอกเบี้ยค่อนข้างแพง ในฐานนะที่ตนเองเป็นนายกรัฐมนตรีที่เป็นคนทำอสังหาฯ ค่อนข้างจะลำบากใจ หากเรียกร้องมากเกินไป จะถูกกล่าวหาว่าทำเพื่อตัวเอง จะทำอะไรต้องรอบคอบ ต้องระมัดระวัง ยึดผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นสำคัญ ซึ่งตนเองเคยพลาดมาแล้วและถูกทัวร์ลง เช่น เรื่องของการครอบครองที่ดิน 1 ไร่ ที่ให้ชาวต่างชาติสามารถครอบครองได้นั้น มีความเป็นกังวลว่าเรื่องดังกล่าวจะทำให้คนไทยเข้าถึงที่อยู่ได้ลำบากขึ้น ซึ่งพื้นที่ 1 ไร่ สำหรับคอนโดหรือบ้านที่อยู่อาศัย มูลค่าเป็นประมาณ 50 ล้านบาท ถึง 100 ล้านบาท ถือเป็นมูลค่าที่สูงมาก ไม่ถือว่าเป็นการแย่งที่อยู่อาศัย คนที่จะซื้อได้ต้องมีฐานะที่ดี ตนเองขอเน้นย้ำว่า ชาตินั้นขายไม่ได้ คือจิตวิญญาณของพวกเรา ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชน ไม่ใช่ที่ดิน สิ่งนี้เอากลับไปไม่ได้ ทั้งนี้ ที่ผ่านมารัฐบาลโดยการนำของ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกฯ มีเจ้าหน้าที่หลายคนระดับสูงที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจ เข้ามาปรึกษาผมว่าทำอย่างไรจะกระตุ้นเศรษฐกิจ ทำอย่างไรให้ต่างชาติเข้ามาถือที่ดินได้ ตนเองบอกว่าต่อให้มี 749 เสียงกับ 750 เสียงในสภาฯ ตนเองก็ไม่มีทางให้ต่างชาติมาถือที่ดิน เพราะอย่างไรก็ไม่ผ่าน และจิตใจคนไทยสังคมไทยรับไม่ได้ให้ต่างชาติมาถือที่ดิน อย่าพูดด้วยเหตุผล เป็นความรู้สึกมากกว่า ที่เขายอมไม่ได้ อย่างไรก็ยอมไม่ได้ +นายกฯ กล่าวต่อว่า ฉะนั้นกฎหมายเหล่านี้จะต้องมาแก้ไขให้ถูกต้องให้เหมาะสม เพื่อให้การทำธุรกรรมผ่านไปได้ ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายในฐานะที่เคยทำธุรกิจมาก่อน จะพยายามทำกฎข้อบังคับเหล่านี้ เพื่อให้กฎหมายลูกที่มารองรับสามารถทำงานได้ง่ายและสะดวกสบายขึ้น รัฐบาลคำนึงถึงหลาย ๆ เรื่อง กำลังทำอยู่และทำอย่างใส่ใจ และที่สำคัญต้องมีการกระตุ้นเศรษฐกิจ ผ่านโครงการต่าง ๆ ของรัฐบาล เช่น เรื่องของดิจิทัลวอลเล็ต ประเทศไทย 10 ปีที่ผ่านมาเศรษฐกิจโตเพียง 1.8% ภาคอสังหาฯ ไม่มีอะไรดีขึ้นใน 10 ปีที่ผ่านมา ซึ่งการทำดิจิทัลวอลเล็ต ขอเน้นย้ำว่าไม่มีการทุจริต ยืนยันเป็นการส่งตรงจากภาครัฐผ่านเทคโนโลยี เทคโนโลยีการจัดเก็บข้อมูล สามารถตรวจสอบได้ รัฐบาลรับฟังความเห็นจากทุกภาคส่วนอย่างเหมาะสม ตนเองพยายามรับฟังจากทุกคนทั้งสถาบันการเงิน ฝ่ายปกครอง ฝ่ายความมั่นคง ฝ่ายดิจิทัล รัฐบาลพยายามทำให้ดีที่สุด สำหรับคำถามว่าทำไมถึงต้องเป็นดิจิทัลวอลเล็ต ทำไมถึงต้อง 10,000 บาท และทำไมถึงต้อง 5 แสนล้านบาท ตนเองได้อธิบายไปแล้ว และเชื่อว่าจะมีการจ้างงานมีการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ 5 แสนล้านบาทประมาณ 17% ของงบประมาณประจำปี ยืนยันไม่มีการทุจริต +นายกฯ กล่าวว่า จุดยืนของประเทศไทยคือเราเป็นกลาง วันนี้ความเป็นกลางของเราจะนำให้ประเทศพ้นจากวิกฤตทางด้านเศรษฐกิจ เป็นความต้องการอย่างสูงจากทุกประเทศที่ต้องการมาพูดคุย มาลงทุนใช้ประเทศไทยเป็นเวทีกลางในการเจรจา โดยไม่ต้องสงสัยทำไมไทยมีทุก ๆ ประเทศมาลงทุน เพราะความเป็นกลางทางด้านการเมืองของเรา หากเราฝักใฝ่กับชาติใดชาติหนึ่ง ไม่เป็นกลาง ทั่วโลกจะไม่มั่นใจในการลงทุนกับเรา ส่วนด้านโลจิสติกส์จะลดการซื้ออาวุธ ส่งผลดีต่อทางด้านเศรษฐกิจ และความมั่นคงของประเทศไทย ซึ่งประเทศไทยมีเรื่องดี ๆ อีกมากที่ซ่อนอยู่ สิ่งสำคัญเหนือสิ่งอื่นใดจริง ๆ แล้ว ประเทศเราต้องยอมรับว่ากำลังมีปัญหาทางความมั่นคง แต่ปัจจุบันดีขึ้นเยอะ เสถียรภาพทางด้านการเมืองก็ดีขึ้นมาก แต่เศรษฐกิจมีปัญหาทางด้านการลงทุน +“บางทีรักใครชอบใครเยอะเกินไป เป็นเรื่องของแต่ละคน แต่เรื่องบางเรื่องไม่เกี่ยวข้องกับการรักใครชอบใคร แต่เกี่ยวข้องกับความน่าจะเป็นทางด้านเศรษฐกิจ การกระตุ้นเศรษฐกิจเป็นความจำเป็น ผมไม่ได้หมายถึงเรื่องดิจิทัลวอลเล็ตอย่างเดียว แต่อีกหลายเรื่องที่จะต้องทำ ซึ่งเราจะทำต่อไป แต่ผลที่จะเกิดขึ้นคงต้องอีกพอสมควร คิดว่าประมาณ 18 เดือน แต่อย่าลืมตลาดอสังหาริมทรัพย์ ตลาดหุ้นมีความไวต่อสัญญาณที่ดี หาก 6 เดือนหรือ 12 เดือนตลาดจะเด้งแรงมาก ข่าวดีอันหนึ่งหมดปีงบประมาณไปแล้ว 6 เดือน ยังไม่ได้ใช้งบประมาณสักบาท ในวันที่  1 พ.ค.ใช้ได้ เหลืออีกแค่ 5 เดือน งบประมาณตัวนี้บวกกับงบประมาณตัวหน้า 24 เดือน ก็ใช้ไปแค่ 16 เดือน ฉะนั้นจะมีการลงทุนเยอะมาก อันนี้เป็นเรื่องของข่าวดี และข่าวดีอีกเรื่องคือมีนายกฯ Pro Business ที่เข้าใจ และมีความตั้งใจจริง ที่จะทำให้ทุกภาคส่วนไม่ว่าจะเป็นเรื่องการผลิตการลงทุน การจัดซื้อจัดจ้าง เราจะดูทั้งหมด เพราะเราทราบดี เคยทำมาก่อน ก็จะพยายามทำให้ดีที่สุด และขอเป็นกำลังใจและขอให้มีความอดทนต่อไป” นายกฯ กล่าว + +ที่มา : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/81065 \ No newline at end of file diff --git "a/data/2024/03/29/\340\270\202\340\271\210\340\270\262\340\270\247\340\270\243\340\270\255\340\270\207 \340\270\231\340\270\243\340\270\241 \340\270\243\340\270\241\340\270\225\340\270\231\340\270\243_1_4950821c-13d1-4765-86a5-56978a95d6e6.txt" "b/data/2024/03/29/\340\270\202\340\271\210\340\270\262\340\270\247\340\270\243\340\270\255\340\270\207 \340\270\231\340\270\243\340\270\241 \340\270\243\340\270\241\340\270\225\340\270\231\340\270\243_1_4950821c-13d1-4765-86a5-56978a95d6e6.txt" new file mode 100644 index 000000000..2794df66e --- /dev/null +++ "b/data/2024/03/29/\340\270\202\340\271\210\340\270\262\340\270\247\340\270\243\340\270\255\340\270\207 \340\270\231\340\270\243\340\270\241 \340\270\243\340\270\241\340\270\225\340\270\231\340\270\243_1_4950821c-13d1-4765-86a5-56978a95d6e6.txt" @@ -0,0 +1,14 @@ +รัฐบาลไทย-ข่าวทำเนียบรัฐบาล-​พวงเพ็ชร ชวนชม “ดนตรีในสวน” ทุกวันที่ 28 ตลอดปีมหามงคล เพื่อเฉลิมพระเกียรติในหลวง ร.10 + + +วันศุกร์ที่ 29 มีนาคม 2567 +29/03/2567 +พิมพ์ +​พวงเพ็ชร ชวนชม “ดนตรีในสวน” ทุกวันที่ 28 ตลอดปีมหามงคล เพื่อเฉลิมพระเกียรติในหลวง ร.10 +​พวงเพ็ชร ชวนชม “ดนตรีในสวน” ทุกวันที่ 28 ตลอดปีมหามงคล เพื่อเฉลิมพระเกียรติในหลวง ร.10 +วันนี้ (29 มีนาคม 2567) ดร.พวงเพ็ชร ชุนละเอียด รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดกิจกรรมดนตรีในสวนเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567  ณ สวนเบญจกิติ โดยมี นางสุดฤทัย เลิศเกษม อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ นางวันทนีย์ วัฒนะ ปลัดกรุงเทพมหานคร คณะผูับริหารกรมประชาสัมพันธ์และกรุงเทพมหานคร รวมถึงประชาชนทั่วไปร่วมติดตามดนตรีชมอย่างคับคั่ง +กิจกรรมดนตรีในสวนจัดขึ้นโดยความร่วมมือของกรมประชาสัมพันธ์และกรุงเทพมหานคร เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนได้ร่วมรับบทเพลงอันไพเราะและทรงคุณค่า เช่น เพลงพระราชนิพนธ์ ในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และบทเพลงทั่วไป ในบรรยากาศสวนสวยใจกลางกรุงเทพมหานคร เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวตลอดปีมหามงคล และเป็นการแสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อสถาบันกษัตริย์ ซึ่งเป็นสถาบันหลักของชาติ +ดร.พวงเพ็ชร กล่าวว่า กิจกรรมในครั้งนี้เป็นการใช้บทเพลงเป็นสื่อกลาง สร้างความสามัคคีกลมเกลียวของคนในชาติ ช่วยส่งเสริมความรัก ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ทำให้ประเทศไทยเกิดความสงบสุขภายใต้ร่มพระบารมีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ ขณะเดียวกันดนตรีและบทเพลง นับเป็น Soft Power ใน 11 สาขาที่รัฐบาลขับเคลื่อน เพื่อต่อยอดสู่ทรัพย์สินทางปัญญาเชิงสร้างสรรค์ ที่ช่วยเพิ่มขีดความสามารถของประเทศไทย ซึ่งกิจกรรม “ดนตรีในสวน” จะจัดทุกวันที่ 28 ของทุกเดือน ตลอดปีมหามงคลนี้ +ทั้งนี้ บรรยากาศภายในงานเต็มไปด้วยความสนุกสนาน และได้รับความสนใจจากชาวต่างชาติ ประชาชนส่วนมากที่มาร่วมชมดนตรีพร้อมใจสวมใส่เสื้อสีเหลือง สีประจำวันพระราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ขณะที่ ดร.พวงเพ็ชร สวมผ้าบาติกสีเหลือง ของกลุ่มยาริงบาติก จ.ปัตตานี ที่ซื้อมาเมื่อครั้งลงพื้นที่ จ.ปัตตานี + +ที่มา : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/81039 \ No newline at end of file diff --git "a/data/2024/03/29/\340\270\202\340\271\210\340\270\262\340\270\247\340\270\243\340\270\255\340\270\207 \340\270\231\340\270\243\340\270\241 \340\270\243\340\270\241\340\270\225\340\270\231\340\270\243_2_6dd0e75e-5685-4b9c-bb78-5970b0c1c7f6.txt" "b/data/2024/03/29/\340\270\202\340\271\210\340\270\262\340\270\247\340\270\243\340\270\255\340\270\207 \340\270\231\340\270\243\340\270\241 \340\270\243\340\270\241\340\270\225\340\270\231\340\270\243_2_6dd0e75e-5685-4b9c-bb78-5970b0c1c7f6.txt" new file mode 100644 index 000000000..ef4bcdb4d --- /dev/null +++ "b/data/2024/03/29/\340\270\202\340\271\210\340\270\262\340\270\247\340\270\243\340\270\255\340\270\207 \340\270\231\340\270\243\340\270\241 \340\270\243\340\270\241\340\270\225\340\270\231\340\270\243_2_6dd0e75e-5685-4b9c-bb78-5970b0c1c7f6.txt" @@ -0,0 +1,14 @@ +รัฐบาลไทย-ข่าวทำเนียบรัฐบาล-“รองนายกฯสมศักดิ์” ปิ๊งไอเดีย ขอให้หน่วยปราบทุจริต ทบทวนการประมูลงานใหม่ แนะ ให้แข่งกันด้วยเวลาสร้าง ไม่ต้องแข่งด้วยเงิน ป้องกันเรียกรับสินบน หวังช่วยเพิ่มคะแนน CPI ให้ดีขึ้น + + +วันศุกร์ที่ 29 มีนาคม 2567 +29/03/2567 +พิมพ์ +“รองนายกฯสมศักดิ์” ปิ๊งไอเดีย ขอให้หน่วยปราบทุจริต ทบทวนการประมูลงานใหม่ แนะ ให้แข่งกันด้วยเวลาสร้าง ไม่ต้องแข่งด้วยเงิน ป้องกันเรียกรับสินบน หวังช่วยเพิ่มคะแนน CPI ให้ดีขึ้น +“รองนายกฯสมศักดิ์” ปิ๊งไอเดีย ขอให้หน่วยปราบทุจริต ทบทวนการประมูลงานใหม่ แนะ ให้แข่งกันด้วยเวลาสร้าง ไม่ต้องแข่งด้วยเงิน ป้องกันเรียกรับสินบน หวังช่วยเพิ่มคะแนน CPI ให้ดีขึ้น ชี้ การแก้ปัญหาต้องคิดนอกกรอบ เพราะกรอบที่มีคือกับดัก +วันที่ 29 มีนาคม 2567 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมหารือเกี่ยวกับมาตรการในการแก้ไขปัญหาการทุจริตแบบบูรณาการ ประจำปีงบประมาณ 2568 โดยมี นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. นายเอกชัย เกษมสุขธวัช รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. และผู้แทนกระทรวงต่างๆ เข้าร่วมประชุม ที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ทำเนียบรัฐบาล +โดยนายสมศักดิ์ กล่าวว่า ในฐานะรองนายกรัฐมนตรี ที่ได้รับมอบหมายให้กำกับดูแลสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปรามปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ ป.ป.ท. จึงขอเน้นย้ำว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการป้องกันและแก้ไขปัญหาการทุจริต โดยเฉพาะการยกระดับดัชนีรับรู้การทุจริต CPI (Corruption Perceptions Index) ซึ่งประเมินโดย องค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ (Transparency International - TI) เช่น เวิล์ด จัสติส โปรเจค และ เวิล์ด อีโคโนมิก ฟอรั่ม โดยประเทศไทย ในปี 2566 ได้คะแนนรวมลดลงจาก ปี 65 จำนวน 1 คะแนน จาก 36 คะแนน เป็น 35 คะแนน และมีอันดับลดลงจาก อันดับที่ 101 ในปี 2565 เป็น 108 ในปี 2566 จาก 180 ประเทศ ทำให้การประชุมวันนี้ จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อหารือเกี่ยวกับมาตรการในการแก้ไขปัญหาการทุจริตแบบบูรณาการ ประจำปีงบประมาณ 2568 +“มาตรการฯฉบับนี้ คือ กรอบการดำเนินงานของหน่วยงาน ที่มีสาระสำคัญคือ การให้ความสำคัญกับการผลักดันการแก้ไขปัญหาทุจริตเรื่องสินบนอย่างจริงจัง พร้อมการพัฒนาคนและระบบความร่วมมือเพื่อต่อต้านการทุจริต ได้แก่ สอนเด็กเยาวชนเรื่องการต่อต้านการทุจริต พัฒนาเครือข่ายเฝ้าระวังแจ้งเบาะแส เครื่องมือการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในภาครัฐ เน้นการออกมาตรการและข้อเสนอแนะเพื่อป้องกันการทุจริต เน้นการดำเนินคดีอย่างรวดเร็ว โปร่งใส และเป็นธรรม โดยการแก้ไขปัญหาการทุจริตและการยกระดับค่าคะแนน CPI ไม่สามารถดำเนินการให้สำเร็จได้ด้วยหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง จึงจำเป็นต้องบูรณาการร่วมกัน และที่สำคัญเพื่อให้การขับเคลื่อนเป็นไปอย่างมีเอกภาพ จึงได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาร่วมกันหารือและพูดคุยหาข้อสรุปร่วมกันในวันนี้” รองนายกรัฐมนตรี กล่าว +นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า ที่ประชุมได้อธิบายคะแนน CPI โดยมาจากการสำรวจข้อมูล 9 แหล่งข้อมูล ซึ่งที่ประเทศไทย มีคะแนนต่ำ คือ ประเด็นเรียกรับสินบน และเจ้าหน้าที่ใช้อำนาจหน้าที่ไม่ถูกต้อง ตนจึงเสนอให้มีการทบทวนวิธีการประมูลแบบใหม่ โดยไม่ต้องต่อสู้ด้วยราคา จะได้ไม่ต้องมีการเรียกรับสินบน แต่ให้ต่อสู้กันด้วยระยะเวลา หากใครทำได้น้อยกว่า ก็ให้ชนะการประมูลงาน ซึ่งตนมองว่า หากปรับเปลี่ยนวิธีประมูลใหม่ ไม่มีการใช้เงิน ก็มั่นใจว่า คะแนน CPI จะดีขึ้นอย่างแน่นอน จึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นำข้อเสนอของตนไปทบทวน พร้อมแนะนำขอให้คิดนอกกรอบ เพราะกรอบที่มี ต้องยอมรับว่า ส่วนหนึ่งคือกับดักด้วย + +ที่มา : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/81043 \ No newline at end of file diff --git "a/data/2024/03/29/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\270\201\340\270\262\340\270\243\340\270\250\340\270\266\340\270\201\340\270\251\340\270\262\340\270\257_1_d2b13049-7287-47bf-8728-e319405e8f43.txt" "b/data/2024/03/29/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\270\201\340\270\262\340\270\243\340\270\250\340\270\266\340\270\201\340\270\251\340\270\262\340\270\257_1_d2b13049-7287-47bf-8728-e319405e8f43.txt" new file mode 100644 index 000000000..e7fd6fa29 --- /dev/null +++ "b/data/2024/03/29/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\270\201\340\270\262\340\270\243\340\270\250\340\270\266\340\270\201\340\270\251\340\270\262\340\270\257_1_d2b13049-7287-47bf-8728-e319405e8f43.txt" @@ -0,0 +1,12 @@ +รัฐบาลไทย-ข่าวทำเนียบรัฐบาล-องคมนตรี ย้ำ “การศึกษาช่วยสร้างคนดีให้บ้านเมือง” เร่งแก้ปัญหาเด็กพื้นที่ห่างไกล ขณะที่กระทรวง อว.ส่งเครือข่ายมหาวิทยาลัยพี่เลี้ยงลงพื้นที่ช่วยจัดการเรียนการสอน ผลิตสื่อการเรียนรู้ + + +วันศุกร์ที่ 29 มีนาคม 2567 +องคมนตรี ย้ำ “การศึกษาช่วยสร้างคนดีให้บ้านเมือง” เร่งแก้ปัญหาเด็กพื้นที่ห่างไกล ขณะที่กระทรวง อว.ส่งเครือข่ายมหาวิทยาลัยพี่เลี้ยงลงพื้นที่ช่วยจัดการเรียนการสอน ผลิตสื่อการเรียนรู้ +องคมนตรี ย้ำ “การศึกษาช่วยสร้างคนดีให้บ้านเมือง” เร่งแก้ปัญหาเด็กพื้นที่ห่างไกล ขณะที่กระทรวง อว.ส่งเครือข่ายมหาวิทยาลัยพี่เลี้ยงลงพื้นที่ช่วยจัดการเรียนการสอน ผลิตสื่อการเรียนรู้ ทำให้ครูมีนวัตกรรมไป ... +เมื่อวันที่ 22 มี.ค.67 กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม(อว.) จัดการประชุมโครงการการแสดงผลการดำเนินโครงการพัฒนาคุณภาพการศึกษาและการพัฒนาท้องถิ่นโดยมีสถาบันอุดมศึกษาเป็นพี่เลี้ยง โดยมี พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา องคมนตรี เป็นประธาน มี น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี รมว.กระทรวง อว. น.ส.สุชาดา แทนทรัพย์  เลขานุการ รมว.กระทรวง อว. นายพันธุ์เพิ่มศักดิ์ อารุณี ผอ.กองขับเคลื่อนและพัฒนาการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม สำนักงานปลัดกระทรวง อว.และผู้บริหารเข้าร่วม +พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา องคมนตรี ปาฐกถาพิเศษหัวข้อ “การศึกษาขั้นพื้นฐานกับความมั่นคงของชาติ” ว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมอบหมายให้องคมนตรีมีหน้าที่ดูแลเรื่องการศึกษา ในโครงการพัฒนาการศึกษาในพื้นที่ห่างไกล โรงเรียนโครงการกองทุนการศึกษา โรงเรียนพระดาบส โรงเรียนตำรวจตระเวณชายแดน และโรงเรียนในโครงการพัฒนาชุมชนในเขตรักษาพันธ์ุสัตว์ป่าและอุทยานแห่งชาติฯ จ.กาญจนบุรี ภายใต้มูลนิธิภูบดินทร์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ นอกจากนี้ ได้โปรดเกล้าฯ ให้ดูแลโครงการกองทุนการศึกษาอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งลงพื้นที่ ตรวจเยี่ยม ติดตาม ให้กำลังใจ และให้ความช่วยเหลือสถานศึกษา โดยมุ่งเน้น “การสร้างคนดีให้บ้านเมือง” ทั้งนี้ ตนพบว่า นักเรียนที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกลประสบปัญหาทางด้านสภาพแวดล้อมทางกายภาพ เช่น อาคารเรียน อาคารฝึกปฏิบัติการต่าง ๆ รวมทั้งหอพักนอนสำหรับนักศึกษาที่พักอาศัยอยู่ห่างไกล นอกจากนี้ยังมีปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม สิ่งอำนวยความสะดวกในการเรียนการสอน รวมทั้งบุคลากรทางการศึกษาที่มีจำนวนจำกัด ในฐานะที่ทุกท่านในที่นี้เป็นบุคลากรที่ปฏิบัติงานเกี่ยวกับการศึกษา จึงจำเป็นต้องแก้ไขปัญหาดังกล่าวโดยเร็ว เพื่อทำให้การศึกษาของไทยพัฒนาอย่างยั่งยืน และเกิดคุณภาพทัดเทียมกับนานาประเทศ อันจะนำมาซึ่งความมั่นคงของชาติต่อไป +ขณะที่ น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี รมว.กระทรวว อว.กล่าวว่า โครงการพัฒนาคุณภาพการศึกษาและการพัฒนาท้องถิ่นโดยมีสถาบันอุดมศึกษาเป็นพี่เลี้ยงหรือโครงการมหาวิทยาลัยพี่เลี้ยง คือการนำอาจารย์ในมหาวิทยาลัยจาก 9 เครือข่ายทั่วประเทศไปเป็นพี่เลี้ยงให้กับครูในโรงเรียนต่างๆ ในชุมชนต่างจังหวัด เพื่อช่วยจัดการเรียนการสอน และผลิตสื่อในการเรียนรู้ เพื่อให้ครูในโรงเรียนมีองค์ความรู้ เทคโนโลยีและนวัตกรรม เพื่อนำไปสอนนักเรียนให้มีคุณภาพมากขึ้น ทำให้ครูมีนวัตกรรมที่จะนำไปสอนเด็กให้มีความทันสมัย ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกในยุคนี้ +“สิ่งที่โครงการมหาวิทยาลัยพี่เลี้ยงจะเน้นคือการเข้าไปช่วยพัฒนาโรงเรียนในชุมชนที่มีขนาดไม่ใหญ่ เป็นโรงเรียนที่ยังต้องการความช่วยเหลือและไม่ได้มีแค่อาจารย์จากมหาวิทยาลัยเข้าไป แต่ยังมีภาคเอกชนเข้าไปช่วยสอนช่วยพัฒนาด้วย  ซึ่งต่างได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจนเกิดผลสัมฤทธิ์มากมาย สำหรับในปี 2567 มีแผนที่จะขยายจำนวนโรงเรียนเครือข่าย ขยายความร่วมมือกับภาคเอกชนให้มากขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการของโรงเรียนทั่วประเทศให้ได้มากที่สุด เป็นการช่วยพัฒนาโรงเรียนให้ส่งต่อนักเรียนที่มีคุณภาพเข้าสู่ภาคอุดมศึกษา เด็กสามารถสอบเข้าในคณะที่ตนเองต้องการได้ ผลงานที่ผ่านมา ดิฉันพึงพอใจในระดับหนึ่ง แต่ต้องมีการพัฒนาขึ้นไปอีก โดยเฉพาะการพัฒนาสื่อการเรียนการสอนให้มีนวัตกรรมมากกว่านี้ เจาะลงไปในโรงเรียนขนาดเล็กได้มากขึ้น และสามารถเพิ่มองค์ความรู้ให้กับนักเรียน โดยเฉพาะนักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 6 ที่กำลังจะเข้าสู่ระดับอุดมศึกษา ซึ่งจะทำให้อัตราการสอบเข้ามหาวิทยาลัยมีมากขึ้นด้วย”​รมว.อว.กล่าว + +ที่มา : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/81049 \ No newline at end of file diff --git "a/data/2024/03/29/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\270\201\340\270\262\340\270\243\340\270\250\340\270\266\340\270\201\340\270\251\340\270\262\340\270\257_2_f030d428-2da0-49e8-bf10-ceee7df2590b.txt" "b/data/2024/03/29/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\270\201\340\270\262\340\270\243\340\270\250\340\270\266\340\270\201\340\270\251\340\270\262\340\270\257_2_f030d428-2da0-49e8-bf10-ceee7df2590b.txt" new file mode 100644 index 000000000..6147883ca --- /dev/null +++ "b/data/2024/03/29/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\270\201\340\270\262\340\270\243\340\270\250\340\270\266\340\270\201\340\270\251\340\270\262\340\270\257_2_f030d428-2da0-49e8-bf10-ceee7df2590b.txt" @@ -0,0 +1,13 @@ +รัฐบาลไทย-ข่าวทำเนียบรัฐบาล-“ศุภมาส” เปิดตัว “ชุดตรวจไมโครอัลบูมินในปัสสาวะ” ฝีมือคนไทย สามารถคัดกรองภาวะไตเสื่อมได้ด้วยตนเอง ‘ใช้งานง่าย-แม่นยำสูง’ ชูผลงานความสำเร็จรัฐร่วมเอกชน + + +วันศุกร์ที่ 29 มีนาคม 2567 +“ศุภมาส” เปิดตัว “ชุดตรวจไมโครอัลบูมินในปัสสาวะ” ฝีมือคนไทย สามารถคัดกรองภาวะไตเสื่อมได้ด้วยตนเอง ‘ใช้งานง่าย-แม่นยำสูง’ ชูผลงานความสำเร็จรัฐร่วมเอกชน +“ศุภมาส” เปิดตัว “ชุดตรวจไมโครอัลบูมินในปัสสาวะ” ฝีมือคนไทย สามารถคัดกรองภาวะไตเสื่อมได้ด้วยตนเอง ‘ใช้งานง่าย-แม่นยำสูง’ ชูผลงานความสำเร็จรัฐร่วมเอกชน โดยจุฬา-สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข-บ.บีเจซี เฮลท์แค ... +เมื่อวันที่ 25 มี.ค. นางสาวศุภมาส อิศรภักดี รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เป็นประธานเปิดตัววิจัยนวัตกรรม “ชุดตรวจคัดกรองโรคไตด้วยตนเอง” ต่อยอดเชิงพาณิชย์ เพื่อการเข้าถึงและความมั่นคงของระบบสุขภาพไทย ร่วมกับผู้บริหารภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐ และเอกชน รวมถึงทีมวิจัย โดยมี พญ.เพชรดาว โต๊ะมีนา ที่ปรึกษา รมว.อว. รศ.นพ.ฉันชาย สิทธิพันธุ์ ผอ.โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์และคณบดีคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ศ.ดร.นพ. ณัฐชัย ศรีสวัสดิ์ ผู้ช่วย ผอ.โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย และ ผอ.ศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ด้านโรคไตในภาวะวิกฤตแห่งโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ รศ.ดร.กิตตินันท์ โกมลภิส รอง ผอ.สถาบันวิจัยเทคโนโลยีชีวภาพและวิศวกรรมพันธุศาสตร์ ศ.ดร.ศิริรัตน์ เร่งพิพัฒน์ ผอ.ศูนย์ตรวจวินิจฉัยตามมาตรฐานสากล (Qualified Diagnostic Development Center) ดร.จุไรรัตน์ พรหมใจ ผู้จัดการงานวิจัย สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) คุณนริศา มันฑางกูร ผอ.โปรแกรมบริหารและพัฒนาเทคโนโลยีเครื่องมือแพทย์และหุ่นยนต์ทางการแพทย์ขั้นสูง ศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์ (องค์การมหาชน) (TCELS) และคุณอัศวิน เตชะเจริญวิกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มบีเจซี บิ๊กซี สื่อมวลชน เข้าร่วม ณ ห้อง 1202 อาคารภูมิสิริมังคลานุสรณ์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ +นางสาวศุภมาส กล่าวว่า ทีมวิจัยไทยจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) และบริษัท บีเจซี เฮลท์แคร์ จำกัด ประสบความสำเร็จในการพัฒนาการ “ชุดทดสอบไมโครอัลบูมินในปัสสาวะ” เพื่อตรวจคัดกรองโรคไตเรื้อรังในระยะเริ่มต้น โดยได้รับความร่วมมือจากเครือข่ายวิจัยและพัฒนาในหลายภาคส่วน และได้มีการทดสอบประสิทธิภาพที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ และขยายผลไปสู่การคัดกรองในระดับพื้นที่ที่มีขนาดใหญ่ขึ้น โดยชุดทดสอบไมโครอัลบูมินในปัสสาวะมีจุดเด่นคือ ผู้ใช้งานสามารถตรวจระดับการทำงานของไตเบื้องต้นได้ด้วยตนเอง ซึ่งง่ายต่อการใช้และการอ่านผล ทำให้เกิดประโยชน์ในแง่ของนโยบายเชิงรุกที่แพทย์และบุคลากรสาธารณสุขสามารถนำไปใช้ในการตรวจคัดกรองผู้ป่วยโรคไตในระยะเริ่มต้นได้ ซึ่งจะส่งผลให้ผู้ป่วยเกิดการตระหนักรู้และปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิต เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดโรคไตเรื้อรัง +รมว.อว.กล่าวต่อว่า งานวิจัยและนวัตกรรมดังกล่าวมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการขับเคลื่อนสังคมและเศรษฐกิจของประเทศให้ก้าวไปข้างหน้า ปัจจุบันเรามีงานวิจัยจำนวนมาก ที่รอการสนับสนุนและต่อยอดสู่การช่วยเหลือสังคม รวมทั้งแก้ไขปัญหาสำคัญอย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะงานวิจัยด้านการแพทย์ ที่จะช่วยลดความเหลื่อมล้ำและสร้างความมั่นคงทางด้านสุขภาพ สำหรับสถานการณ์ผู้ป่วยโรคไตในประเทศไทยนั้นมีจำนวนเพิ่มขึ้น และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มมากเกินกำลังในการดูแล ส่งผลต่อการบริการด้านสาธารณสุข อีกทั้งยังกระทบต่อการดำเนินชีวิตของผู้ป่วยและบุคคลใกล้ชิด หากเราสามารถนำงานวิจัยที่มีอยู่มาพัฒนาต่อยอด เพื่อใช้ในทางการแพทย์ได้ ก็จะช่วยลดปัญหาและก่อให้เกิดประโยชน์แก่ประชาชนและประเทศได้เป็นอย่างมาก +“งานนี้จึงเป็นส่วนหนึ่งที่แสดงถึงความสำเร็จจากความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน ซึ่งต้องการช่วยกันพัฒนาสังคมและคุณภาพชีวิต โดยให้ผู้ป่วยที่เป็นกลุ่มเสี่ยงได้มีโอกาสตรวจคัดกรองโรคไตเบื้องต้น ทำให้สามารถป้องกันและวางแผนการดูแลตนเองได้ตั้งแต่ระยะแรกเริ่ม สอดคล้องกับแนวทางของสาธารณสุข ที่ให้ความสำคัญกับการวางแผนเชิงป้องกันมากกว่าการรักษาเพียงอย่างเดียว” นางสาวศุภมาส กล่าว +ทั้งนี้ ภายในงานดังกล่าว ได้มีการจัดเสวนาจำนวน 5 เรื่อง ดังนี้ 1.สถานการณ์โรคไตประเทศไทยและผลวิจัย “ ชุดตรวจไมโครอัลบูมินในปัสสาวะ” โดย ศ.ดร.นพ. ณัฐชัย และ รศ.ดร. กิตตินันท์ 2.การควบคุมคุณภาพ “ชุดตรวจไมโครอัลบูมินในปัสสาวะ” โดย ศ.ดร. ศิริรัตน์ 3.วิกฤติค่าใช้จ่ายของระบบสุขภาพกับการสนับสนุนทุนวิจัยเพื่อความมั่นคงทางระบบสุขภาพและการเข้าถึงนวัตกรรมของคนไทย โดย ดร. จุไรรัตน์ 4.การขับเคลื่อนนโยบายและขยายผลนวัตกรรมการแพทย์และสุขภาพไทยสู่ตลาดภาครัฐ โดย คุณนริศา และ 5.ความร่วมมือจากเอกชนและการสนับสนุนภาครัฐเพื่อต่อยอดนวัตกรรมทางสุขภาพของไทย โดยผู้บริหาร บริษัท บีเจซี เฮแคร์ จำกัด + +ที่มา : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/81051 \ No newline at end of file diff --git "a/data/2024/03/29/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\270\201\340\270\262\340\270\243\340\270\250\340\270\266\340\270\201\340\270\251\340\270\262\340\270\257_3_ff001195-9514-4d1a-9435-10ee6b2e9e2d.txt" "b/data/2024/03/29/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\270\201\340\270\262\340\270\243\340\270\250\340\270\266\340\270\201\340\270\251\340\270\262\340\270\257_3_ff001195-9514-4d1a-9435-10ee6b2e9e2d.txt" new file mode 100644 index 000000000..4a8cdece2 --- /dev/null +++ "b/data/2024/03/29/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\270\201\340\270\262\340\270\243\340\270\250\340\270\266\340\270\201\340\270\251\340\270\262\340\270\257_3_ff001195-9514-4d1a-9435-10ee6b2e9e2d.txt" @@ -0,0 +1,11 @@ +รัฐบาลไทย-ข่าวทำเนียบรัฐบาล-"ศุภมาส" รัฐมนตรี อว. มอบวุฒิบัตรให้กับผู้เข้ารับการอบรมหลักสูตรส่งเสริมคุณภาพกรรมการสถาบันอุดมศึกษาและผู้บริหารระดับสูง รุ่นที่ 1 ประจำปีงบประมาณ 2567 + + +วันศุกร์ที่ 29 มีนาคม 2567 +"ศุภมาส" รัฐมนตรี อว. มอบวุฒิบัตรให้กับผู้เข้ารับการอบรมหลักสูตรส่งเสริมคุณภาพกรรมการสถาบันอุดมศึกษาและผู้บริหารระดับสูง รุ่นที่ 1 ประจำปีงบประมาณ 2567 +"ศุภมาส" รัฐมนตรี อว. มอบวุฒิบัตรให้กับผู้เข้ารับการอบรมหลักสูตรส่งเสริมคุณภาพกรรมการสถาบันอุดมศึกษาและผู้บริหารระดับสูง รุ่นที่ 1 ประจำปีงบประมาณ 2567 ส่งเสริมการนำหลักธรรมาภิบาลมาใช้ในการบริหารจัดการในสถาบันอุดมศึกษา +เมื่อวันที่ 27 มี.ค. น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เป็นประธานพิธีมอบวุฒิบัตรให้กับผู้เข้ารับการอบรมหลักสูตรส่งเสริมคุณภาพกรรมการสถาบันอุดมศึกษาและผู้บริหารระดับสูง รุ่นที่ 1 ประจำปีงบประมาณ 2567 โดยมี ศ.ดร.ศุภชัย ปทุมนากุล รองปลัดกระทรวง อว. และนายพันธุ์เพิ่มศักดิ์ อารุณี ผอ.กองขับเคลื่อนและพัฒนาการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม สำนักงานปลัด อว. เข้าร่วม ณ โรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ กรุงเทพ (รางน้ำ) +น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี กล่าวว่า นายกสภา อุปนายกสภา กรรมการสภา อธิการบดี และผู้บริหารระดับสูงในสถาบันอุดมศึกษา เป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญในการกำหนดนโยบายและสร้างกลไกการขับเคลื่อนนโยบายไปสู่การบริหารจัดการ และกำกับดูแลการบริหารจัดการของผู้บริหารทุกระดับ รวมทั้งการปฏิบัติงานของบุคลากรภายในสถาบันอุดมศึกษา ให้มีความเรียบร้อยถูกต้องเป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับของสถาบันอุดมศึกษาและเป็นไปตามหลักธรรมาภิบาล ดิฉันหวังเป็นอย่างยิ่งว่าผู้เข้ารับการอบรมจะนำประสบการณ์ ความรู้และข้อคิดเห็นที่ได้จากวิทยากร รวมถึงการนำหลักธรรมาภิบาลมาใช้ในการบริหารจัดการในสถาบันอุดมศึกษา เพื่อให้สถาบันอุดมศึกษามีการบริหารจัดการตามแนวปฏิบัติที่ดี โดยมีนายกสภา อุปนายกสภา กรรมการสภา อธิการบดีและผู้บริหารระดับสูงในสถาบันอุดมศึกษา เป็นผู้ที่มีคุณธรรมและจริยธรรม เป็นแบบอย่างที่ดีในการปฏิบัติหน้าที่และการครองตน เป็นที่ยอมรับให้แก่บุคลากร นิสิต นักศึกษาและสาธารณะ ซึ่งจะเป็นการเสริมสร้างธรรมาภิบาลแบบมีส่วนร่วมในสถาบันอุดมศึกษา +ด้าน นายพันธุ์เพิ่มศักดิ์ กล่าวว่า สำนักงานปลัดกระทรวง อว. ได้ดำเนินการจัดฝึกอบรมหลักสูตรส่งเสริมคุณภาพกรรมการสภาสถาบันอุดมศึกษาและผู้บริหารระดับสูง รุ่นที่ 1 ประจำปีงบประมาณ 2567 ในระหว่างวันที่ 5 – 27 มีนาคม 2567 เป็นการอบรมภาคบรรยาย จำนวน 8 วัน แบ่งเป็น 4 ช่วง ช่วงละ 2 วัน ณ โรงแรมเดอะ เบอเคลีย์ ประตูน้ำ กรุงเทพฯ และการศึกษาดูงานในต่างประเทศ จำนวน 6 วัน ระหว่างวันที่ 26 - 31 พฤษภาคม 2567 ณ สหราชอาณาจักร ซึ่งในการอบรมครั้งนี้ มีผู้เข้ารับการอบรม จำนวน 26 คน ประกอบด้วย กรรมการสภาสถาบันอุดมศึกษา อธิการบดีและผู้บริหารจากสถาบันอุดมศึกษาของรัฐ ในสังกัดและในกำกับ สถาบันอุดมศึกษาเอกชน รวมทั้งผู้บริหารจากหน่วยงานภายในกระทรวงการอุดมศึกษาฯ ได้แก่ กองกฎหมายและโครงการมหาวิทยาลัยไซเบอร์ไทย โดยผู้เข้ารับการอบรมได้มีการแลกเปลี่ยน เรียนรู้ประสบการณ์ร่วมกันจากกรณีศึกษาต่าง ๆ เพื่อจะได้นำไปบูรณาการและประยุกต์ใช้องค์ความรู้ที่ได้รับจากอบรมให้เหมาะสมกับบริบทของสถาบันอุดมศึกษาต้นสังกัด + +ที่มา : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/81052 \ No newline at end of file diff --git "a/data/2024/03/29/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\270\201\340\270\262\340\270\243\340\270\250\340\270\266\340\270\201\340\270\251\340\270\262\340\270\257_4_dbfb66e6-f926-4376-bc05-73f045ed8ba8.txt" "b/data/2024/03/29/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\270\201\340\270\262\340\270\243\340\270\250\340\270\266\340\270\201\340\270\251\340\270\262\340\270\257_4_dbfb66e6-f926-4376-bc05-73f045ed8ba8.txt" new file mode 100644 index 000000000..997a5ba75 --- /dev/null +++ "b/data/2024/03/29/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\270\201\340\270\262\340\270\243\340\270\250\340\270\266\340\270\201\340\270\251\340\270\262\340\270\257_4_dbfb66e6-f926-4376-bc05-73f045ed8ba8.txt" @@ -0,0 +1,15 @@ +รัฐบาลไทย-ข่าวทำเนียบรัฐบาล-“ศุภมาส” ประกาศเดินหน้านโยบายปฏิรูปอุดมศึกษา “2 ลด 2 เพิ่ม” ลดภาระ-ลดเหลื่อมล้ำ-เพิ่มทักษะ-เพิ่มโอกาส ลั่น! จะทำให้อุดมศึกษาเป็นของคนไทยทุกคน + + +วันศุกร์ที่ 29 มีนาคม 2567 +“ศุภมาส” ประกาศเดินหน้านโยบายปฏิรูปอุดมศึกษา “2 ลด 2 เพิ่ม” ลดภาระ-ลดเหลื่อมล้ำ-เพิ่มทักษะ-เพิ่มโอกาส ลั่น! จะทำให้อุดมศึกษาเป็นของคนไทยทุกคน +“ศุภมาส” ประกาศเดินหน้านโยบายปฏิรูปอุดมศึกษา “2 ลด 2 เพิ่ม” ลดภาระ-ลดเหลื่อมล้ำ-เพิ่มทักษะ-เพิ่มโอกาส ลั่น! จะทำให้อุดมศึกษาเป็นของคนไทยทุกคน ให้การศึกษาสร้างอนาคตของคน สร้างอนาคตของประเทศ +เมื่อวันที่ 27 มี.ค. 67 กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) จัดงาน "BETTER THAILAND การปฏิรูปอุดมศึกษา เพื่ออนาคตประเทศไทย" โดยมี น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี รมว.กระทรวง อว. เป็นประธานเปิดงาน และบรรยายพิเศษหัวข้อ "การปฏฺิรูปอุดมศึกษา เพื่ออนาคตประเทศไทย" พร้อมมีนายเพิ่มสุข สัจจาภิวัฒน์ ปลัดกระทรวง อว. น.ส.สุชาดา แทนทรัพย์ เลขานุการ รมว.กระทรวง อว. ศ.ดร.ศุภชัย ปทุมนากุล รองปลัดกระทรวง อว. นายพันธุ์เพิ่มศักดิ์ อารุณี ผอ.กองขับเคลื่อนและพัฒนาการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม สำนักงานปลัดกระทรวง อว. และผู้บริหารเข้าร่วม +น.ส.ศุภมาส กล่าวว่า ในปัจจุบันเราทุกคนกำลังเผชิญกับความท้าทายหลายด้าน เช่น ประเทศเข้าสู่สังคมสูงวัย คนในวัยทำงานลดลง คนในวัยเรียนก็ลดลง รวมถึงเทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว หากเราปรับตัวไม่ทันจะทำให้เสียโอกาสในการแข่งขัน  ความท้าทายเหล่านี้ส่งผลกระทบต่อการศึกษาของประเทศเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นเด็กจบมาแล้วมีทักษะไม่ตรงตามความต้องการของตลาด มีทักษะที่ไม่สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลง คนเข้าเรียนมหาวิทยาลัยลดลง รวมถึงความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงระบบการศึกษาของคนในประเทศ ถึงแม้ว่าที่ผ่านมา มหาวิทยาลัยมีการปรับตัวและพัฒนาดีขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง แต่ท่ามกลางความท้าทายที่เกิดขึ้นและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วนี้ จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องการปรับเปลี่ยนให้มากขึ้นและรวดเร็วขึ้น นี่จึงเป็นที่มาของการจัดทำการปฏิรูปอุดมศึกษาในครั้งนี้ ซึ่งได้แบ่งนโยบายการปฏิรูปออกเป็น 4 เป้าหมายสำคัญ หรือเรียกง่ายๆ ว่า 2 ลด 2 เพิ่ม คือ ลดภาระ ลดความเหลื่อมล้ำ เพิ่มทักษะ และเพิ่มโอกาส +รมว.อว. กล่าวต่อว่า ในการลดภาระ คือ ลดภาระของนักศึกษาและผู้ปกครอง ซึ่งจะทำใน 3 ประเด็น คือ 1. ปรับการจัดการศึกษา เพื่อให้นักศึกษาที่เก่งและมีศักยภาพ สามารถเรียนจบได้เร็วขึ้น อาจจะใช้เวลาเรียนจบเพียง 2 หรือ 3 ปี ได้อย่างมีคุณภาพ เช่น ให้นักศึกษาสามารถลงเรียนรายวิชาต่างๆได้มากขึ้น ในบางรายวิชาเช่น การศึกษาทั่วไป (General Education) อาจจะจัดการเรียนในแพลตฟอร์มออนไลน์ และให้ผู้เรียนสามารถเรียนได้ตั้งแต่มัธยมและสะสมการเรียนไว้ในระบบคลังหน่วยกิตและนำมาเทียบโอนเป็นหน่วยกิตเมื่อเข้าเรียนในมหาวิทยาลัย  2. สนับสนุนงบประมาณเพิ่มเติมให้กับมหาวิทยาลัยที่ผลิตบัณฑิตได้ตรงตามความต้องของประเทศได้อย่างรวดเร็ว มีคุณภาพ และ 3. การส่งเสริมให้นักศึกษามีงานทำในระหว่างเรียน ขณะที่การลดความเหลื่อมล้ำ คือการทำให้ทุกคนเข้าถึงการศึกษาได้ตลอดช่วงชีวิต โดยจะทำใน 6 ประเด็น คือ 1. ให้นักเรียนสมัครสอบ TCAS โดยไม่มีค่าใช้จ่าย 2.เปิดข้อสอบเก่า TCAS เพื่อให้นักเรียนฺทุกคนมีโอกาสฝึกทำข้อสอบ 3. ลดการสอบข้อเขียนและเพิ่มการวัดทักษะในรูปแบบอื่นในการสมัครเข้าเรียนมหาวิทยาลัย 4. สนับสนุนให้นักเรียนในกลุ่มเปราะบางและกลุ่มด้อยโอกาส สามารถเข้าเรียนมหาวิทยาลัยและจบการศึกษาอย่างมีคุณภาพ 5. สร้างระบบการเรียนรู้ออนไลน์ที่มี AI ช่วยสอน เพื่อให้ทุกคนสามารถเข้าถึงการเรียนรู้ได้ทุกที่ทุกเวลา และ 6. จัดทำระบบให้ความช่วยเหลือแก่ นักเรียนที่สอบเข้าได้แต่มีปัญหาในเรื่องค่าใช้จ่ายหรือเรื่องอื่นๆ ที่เป็นอุปสรรคต่อการเข้าเรียนในมหาวิทยาลัย +สำหรับการเพิ่มทักษะ จะเน้นการเพิ่มและพัฒนาทักษะให้นักศึกษาและคนไทยทุกคนใน 3 ประเด็น คือ 1. ส่งเสริมให้มีการเรียนทักษะการเป็นผู้ประกอบการ ทักษะทางด้านการเงิน ให้แก่นักศึกษาในทุกหลักสูตร  2. ส่งเสริมให้ใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ เช่น AI และ เมตาเวิร์ส (Metaverse) มาใช้ในการเรียนการสอนเพื่อเพิ่มทักษะสมัยใหม่ให้กับนักศึกษา และ 3. จัดทำระบบแนะนำการเรียนเพื่อเพิ่มและพัฒนาทักษะ (Upskill/Reskill) ให้แก่นักศึกษาให้มีทักษะตรงตามความต้องการของตลาด เพื่อให้ได้งานที่ดี มีรายได้สูงขึ้น +ในด้านการเพิ่มโอกาส โดยแนวทางที่จะเพิ่มโอกาสให้นักศึกษา มหาวิทยาลัยและประเทศไทยจะทำใน 4 ประเด็น คือ 1.การให้ภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมในการจัดการศึกษา ให้นักศึกษามีโอกาสเรียนรู้จากการทำงานจริงกับภาคเอกชน สร้างโอกาสให้นักศึกษาได้งานทำที่เหมาะสมหลังจบการศึกษา  2. ในการผลิตกำลังคนตามความต้องการของประเทศอย่างเร่งด่วน จะให้มีการจัดทำหลักสูตรที่ไม่อยู่ในรูปแบบปกติเพื่อให้สามารถผลิตบัณฑิตออกมาได้รวดเร็ว มีคุณภาพ เป็นการสร้างโอกาสให้กับประเทศ ในการเกิดอุตสาหกรรมใหม่ๆ เช่น EV หรือ เซมิคอนดักเตอร์ (Semiconductor) เป็นต้น 3. การทำงานวิจัยที่คมชัดตรงเป้าตามโจทย์ของประเทศ และ 4. การส่งเสริมให้มหาวิทยาลัยในประเทศไทยเป็นอุตสาหกรรมใหม่ ที่สร้างรายได้จากการดึงดูดผู้เรียนจากภายนอกประเทศเข้ามาเรียนระดับอุดมศึกษาในประเทศ +“ทั้งหมดนี้คือการทำให้การอุดมศึกษาเป็นของทุกคน ให้การศึกษาสร้างอนาคต +ของคน สร้างอนาคตของประเทศ ที่สำคัญ การปฏิรูปนี้จะเกิดขึ้นและสัมฤทธิ์ผลได้ต้องอาศัยความร่วมมืออย่างเต็มที่ของทุกฝ่าย ทั้งกระทรวง อว. มหาวิทยาลัย ภาคเอกชนและภาคส่วนอื่นๆ นำไปสู่การสร้างทักษะที่ทันสมัย สร้างโอกาสใหม่ๆ สร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิตให้กับคนไทยทุกคน” น.ส.ศุภมาส กล่าว + +ที่มา : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/81053 \ No newline at end of file diff --git "a/data/2024/03/29/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\270\201\340\270\262\340\270\243\340\270\250\340\270\266\340\270\201\340\270\251\340\270\262\340\270\257_5_3e047c01-fc77-4de2-bd63-d8e5a2c13d23.txt" "b/data/2024/03/29/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\270\201\340\270\262\340\270\243\340\270\250\340\270\266\340\270\201\340\270\251\340\270\262\340\270\257_5_3e047c01-fc77-4de2-bd63-d8e5a2c13d23.txt" new file mode 100644 index 000000000..39eab3c6a --- /dev/null +++ "b/data/2024/03/29/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\270\201\340\270\262\340\270\243\340\270\250\340\270\266\340\270\201\340\270\251\340\270\262\340\270\257_5_3e047c01-fc77-4de2-bd63-d8e5a2c13d23.txt" @@ -0,0 +1,12 @@ +รัฐบาลไทย-ข่าวทำเนียบรัฐบาล-”ศุภมาส“ รวมพลัง 170 มหาวิทยาลัย มุ่งสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ตอบโจทย์เป้าหมายประเทศ + + +วันศุกร์ที่ 29 มีนาคม 2567 +”ศุภมาส“ รวมพลัง 170 มหาวิทยาลัย มุ่งสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ตอบโจทย์เป้าหมายประเทศ +”ศุภมาส“ รวมพลัง 170 มหาวิทยาลัย มุ่งสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ตอบโจทย์เป้าหมายประเทศ +เมื่อวันที่ 28 มี.ค. น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เป็นประธานเปิดงานประชุมสัมมนาพร้อมกล่าวปาฐกถาพิเศษ “พลังมหาวิทยาลัยขับเคลื่อนการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ (Net Zero Campus)" จัดโดย กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม (สส.) สำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (สอวช.) สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) และที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) โดยมีมหาวิทยาลัยกว่า 170 แห่งเข้าร่วม ณ ห้องประชุมกมลทิพย์ 2-3 โรงแรม เดอะ สุโกศล กรุงเทพฯ +น.ส.ศุภมาส กล่าวว่า กระทรวง อว. มีพลังอย่างมากที่จะช่วยขับเคลื่อนเป้าหมายของประเทศ ในเรื่อง Net Zero Emission ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญของประเทศที่ผูกโยงทั้งมิติเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม สังคม เนื่องด้วย อว. มีทรัพยากรที่พร้อมจะเข้าหนุนการดำเนินงานในเรื่องนี้ อาทิ อว. มีบุคลากร นักวิจัย ที่จะเป็นทั้งที่ปรึกษา ผู้ทวนสอบคาร์บอนฟุตปริ้นท์องค์กรและผลิตภัณฑ์ และผู้ประเมินภายนอกสำหรับโครงการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้กับภาคเอกชน ชุมชน และภาครัฐ ที่จะทำให้บรรลุการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกขององค์กรในทุกภาคส่วน รวมทั้งนำไปสู่การลดค่าใช้จ่ายที่ต้องดำเนินการลงได้ อว. มีองค์ความรู้จากการทำวิจัยและนำไปสู่การพัฒนากระบวนการใหม่ๆ ที่สร้างนวัตกรรมและ Solution ที่ภาคเอกชนต้องการ พร้อมทั้งเป็นแหล่งดูดซับเทคโนโลยีเพื่อพัฒนาเป็นเทคโนโลยีที่เหมาะสมของประเทศไทยต่อไป +น.ส.ศุภมาส กล่าวต่อว่า ล่าสุด อว. ได้ขับเคลื่อนนโยบาย “อว. For EV” ที่มีมาตรการสำคัญ คือ EV Transformation โดยมีเป้าหมายให้มหาวิทยาลัยและหน่วยงานของ อว. ปรับเปลี่ยนรถที่ใช้งานเป็นรถ EV 30% ภายในปี 2030 ซึ่งหลาย ๆ มหาวิทยาลัยได้เริ่มมีการปรับเปลี่ยนมาใช้รถ EV แล้ว ทั้งนี้ หากบรรลุผลสำเร็จ ตามเป้าหมาย 5,000 คัน ภายในปี 2030 ก็จะช่วยประเทศไทยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ถึงปีละประมาณ 500,000 ตัน นี่ถือเป็นความร่วมมือของทุกมหาวิทยาลัยที่จะร่วมกันดำเนินการลดก๊าซเรือนกระจกในภายในมหาวิทยาลัย โดยเฉพาะในด้านพลังงาน และการจัดการของเสีย ซึ่งจะมีการพัฒนาฐานข้อมูลการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากรายสาขาต่าง ๆ และการพัฒนาแนวทางการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเพื่อไปสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในมหาวิทยาลัย นอกจากนี้ ยังมีการสนับสนุนชุมชนและพื้นที่ต่างๆ ร่วมลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ผ่านการทำงานวิจัยและใช้นวัตกรรม ซึ่งกิจกรรมเหล่านี้สามารถขยายไปสู่การสนับสนุนให้มีการเรียนการสอน การทำวิจัย และการจัดสรรทุนวิจัยที่เกี่ยวข้องและตรงตามความต้องการอย่างแท้จริงต่อไปได้ +“ความร่วมมือและการสัมมนาในครั้งนี้ เป็นการเริ่มต้นที่ดีที่เชิญภาคีสำคัญที่หลากหลาย และมีหน้าที่ที่แตกต่างกันมาเสริมกันและกัน เพื่อจะทำให้งานที่ตั้งเป้าหมายสำเร็จได้ ทั้งยังเป็นการเปิดแนวคิดและโครงการความร่วมมือของสิ่งที่จะดำเนินการ เพื่อสร้างการรับรู้และเข้าใจรายละเอียดไปพร้อม ๆ กัน โดยเฉพาะในการออกแบบและพัฒนาแพลตฟอร์มเครือข่ายที่มีคุณภาพ ทำให้เกิดการส่งเสริมการแลกเปลี่ยนความรู้ระหว่างมหาวิทยาลัย สังกัด ทปอ. ทั้ง 4 แห่ง และเครือข่ายมหาวิทยาลัยยั่งยืนแห่งประเทศไทย หรือ SUN Thailand (Sustainable University Network) เพื่อสร้างพลังมหาวิทยาลัยที่เข้มแข็งในการขับเคลื่อนการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ภายในมหาวิทยาลัยให้สำเร็จลุล่วง และขยายความร่วมมือไปยังภาคีต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ในการร่วมแรงร่วมใจกันขับเคลื่อนให้บรรลุเป้าหมายในอนาคตต่อไป” รมว.อว. กล่าวทิ้งท้าย + +ที่มา : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/81054 \ No newline at end of file diff --git "a/data/2024/03/29/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\270\201\340\270\262\340\270\243\340\270\250\340\270\266\340\270\201\340\270\251\340\270\262\340\270\257_6_aa4d22a8-c8e4-46e7-bf28-c369d48037f2.txt" "b/data/2024/03/29/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\270\201\340\270\262\340\270\243\340\270\250\340\270\266\340\270\201\340\270\251\340\270\262\340\270\257_6_aa4d22a8-c8e4-46e7-bf28-c369d48037f2.txt" new file mode 100644 index 000000000..2bf4f6215 --- /dev/null +++ "b/data/2024/03/29/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\270\201\340\270\262\340\270\243\340\270\250\340\270\266\340\270\201\340\270\251\340\270\262\340\270\257_6_aa4d22a8-c8e4-46e7-bf28-c369d48037f2.txt" @@ -0,0 +1,14 @@ +รัฐบาลไทย-ข่าวทำเนียบรัฐบาล-“สุชาดา” เลขา รมว.อว. ร่วมประกาศความสำเร็จ บพข. - ไทยยูเนี่ยน ลดการปล่อยน้ำทิ้งจากโรงงานอุตสาหกรรมอาหารทะเลสู่สาธารณะเป็นศูนย์ ชูเป็นโรงงานต้นแบบฝีมือคนไทยแห่งแรกของโลกที่ทำได้ + + +วันศุกร์ที่ 29 มีนาคม 2567 +“สุชาดา” เลขา รมว.อว. ร่วมประกาศความสำเร็จ บพข. - ไทยยูเนี่ยน ลดการปล่อยน้ำทิ้งจากโรงงานอุตสาหกรรมอาหารทะเลสู่สาธารณะเป็นศูนย์ ชูเป็นโรงงานต้นแบบฝีมือคนไทยแห่งแรกของโลกที่ทำได้ +“สุชาดา” เลขา รมว.อว. ร่วมประกาศความสำเร็จ บพข. - ไทยยูเนี่ยน ลดการปล่อยน้ำทิ้งจากโรงงานอุตสาหกรรมอาหารทะเลสู่สาธารณะเป็นศูนย์ ชูเป็นโรงงานต้นแบบฝีมือคนไทยแห่งแรกของโลกที่ทำได้ +เมื่อวันที่ 28 มี.ค. นางสาวสุชาดา แทนทรัพย์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ได้รับมอบหมายจากนางสาวศุภมาส อิศรภักดี  รมว.อว. ให้เป็นประธานงานแถลงข่าว “ความสำเร็จโครงการลดการปล่อยน้ำเสียสู่สาธารณะเป็นศูนย์ หรือ Zero Wastewater Discharge” ระหว่างหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพข.) และบริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เพื่อพัฒนาต้นแบบระบบบำบัดน้ำทิ้งเป็นศูนย์ ให้เกิดศูนย์การเรียนรู้ระบบการบำบัดน้ำเพื่อการหมุนเวียนน้ำทิ้งนำกลับมาใช้ประโยชน์ และการทิ้งน้ำเป็นศูนย์ในอุตสาหกรรมอาหาร พร้อมทั้งเยี่ยมชมกระบวนการบำบัดน้ำเสีย (WWTP) และกระบวนการผลิตน้ำ (UF-RO) โดยมี รศ.ดร.ธงชัย สุวรรณสิชณน์ ผู้อำนวยการ บพข. คุณสุทธิเดช อมรเกษมวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บมจ. ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป คุณอดัม เบรนนัน ผอ.กลุ่มด้านการพัฒนาที่ยั่งยืน บมจ. ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป คณะผู้บริหาร บมจ. ไทยยูเนียน กรุ๊ป และสื่อมวลชน เข้าร่วม ณ ห้องประชุม C201 ชั้น 2 บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) สำนักงานใหญ่ อำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร +นางสาวสุชาดา กล่าวว่า โครงการลดการปล่อยน้ำเสียสู่สาธารณะเป็นศูนย์ หรือ Zero Wastewater Discharge เป็นโครงการวิจัยภายใต้กระทรวง อว. โดย บพข. ร่วมกับบริษัทไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ในการพัฒนาต้นแบบระบบบำบัดน้ำเสียจากอุตสาหกรรมอาหารทะเล โดยไม่ปล่อยน้ำเสียสู่สาธารณะแม้แต่หยดเดียว ถือเป็นโรงงานอุตสาหกรรมอาหารทะเลแห่งแรกของโลกที่ทำสำเร็จ ทำให้สามารถลดต้นทุนในการบำบัดน้ำ และนำน้ำกลับมาใช้ประโยชน์ได้ อีกทั้งยังช่วยลดการปล่อยน้ำทิ้งลงสู่สิ่งแวดล้อม ซึ่งถือเป็นขับเคลื่อนเศรษฐกิจ BCG ของประเทศไทยตามยุทธศาสตร์ของกระทรวง อว. ที่นางสาวศุภมาส รมว.อว. มุ่งสนับสนุนการวิจัยและนวัตกรรมโดยเน้นประเด็นสำคัญของประเทศ ได้แก่ การเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและสังคมเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Go Green) ความพอเพียงและความยั่งยืน (sustainability) ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) พลังงานสะอาด เศรษฐกิจชีวภาพ และตามนโยบายของรัฐบาล ในการขับเคลื่อนประเทศไทยให้บรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน หรือ SDG (Sustainable Development Goals) ในปี พ.ศ. 2573 +“โครงการวิจัยจากทุน บพข. นี้ เป็นงานวิจัยที่ตอบโจทย์ ตรงต่อความต้องการของภาคเอกชนผู้ใช้ประโยชน์ และระบบบำบัดน้ำ Zero Wastewater Discharge ยังเตรียมพัฒนาเป็น “ระบบการบำบัดน้ำเพื่อการหมุนเวียนน้ำทิ้งนำกลับมาใช้ประโยชน์ การทิ้งน้ำเป็นศูนย์” ที่สามารถส่งต่อเทคโนโลยี และองค์ความรู้ไปสู่ผู้ประกอบการรายอื่น หรือ สนับสนุน SME ในอุตสาหกรรมอาหาร และอุตสาหกรรมที่มีการใช้น้ำในปริมาณมาก ขอขอบคุณ บพข. ทีมนักวิจัยทั้งจากไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป และมหาวิทยาลัยมหิดล ที่ร่วมกันขับเคลื่อนโครงการวิจัย จนเกิดเป็นผลงานที่โดดเด่น และส่งผลดีต่อสภาพแวดล้อมได้อย่างเป็นรูปธรรม” นางสาวสุชาดา กล่าว +รศ.ดร.ธงชัย กล่าวว่า โครงการนี้เป็นการให้ทุนผ่านแผนงานเศรษฐกิจหมุนเวียน (CE) ของ บพข. ซึ่งมุ่งเน้นการขับเคลื่อนประเทศไทยให้สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มจากเศรษฐกิจหมุนเวียนและเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำที่เติบโตขึ้นจากการใช้นวัตกรรมการผลิตที่สะอาด ลดการใช้ทรัพยากร เพิ่มการหมุนเวียนวัสดุและเพิ่มคุณค่าการใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุด โครงการนี้เป็นตัวอย่างของการนำนวัตกรรมไปสู่การใช้ประโยชน์ได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังเป็นตัวอย่างที่ดีของรูปแบบการถ่ายทอดเทคโนโลยีภายในประเทศ ให้ผู้ประกอบการทุกระดับ โดย “ศูนย์เรียนรู้ระบบการบำบัดน้ำเพื่อการหมุนเวียนน้ำทิ้งนำกลับมาใช้ประโยชน์ การทิ้งน้ำเป็นศูนย์” ที่กำลังจะเปิดให้บริการจะช่วยการพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง ตรงตามเจตนารมย์และภารกิจของ บพข. ในการขับเคลื่อนให้เกิดการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม รวมถึงสร้างความร่วมมือและร่วมลงทุนในการวิจัยและนวัตกรรมให้เกิดการใช้ประโยชน์ได้จริง เพื่อเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศต่อไป +นายสุทธิเดช กล่าวว่า โครงการนี้ใช้เงินลงทุนวิจัยและพัฒนารวม 12 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินทุนตั้งต้นจาก บพข. 3.6 ล้านบาท และไทยยูเนี่ยน 8.4 ล้านบาท โดยโครงการนำร่อง Zero Wastewater Discharge ของไทยยูเนี่ยน ตั้งอยู่ที่โรงงานไทยยูเนี่ยน สำนักงานใหญ่ จังหวัดสมุทรสาคร ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 155,000 ตารางเมตร เริ่มทดลองระบบมาตั้งแต่ปลายปี 2566 โดยสามารถบริหารจัดการน้ำที่ใช้ในกระบวนการผลิตจากวันละ 9 ล้านลิตร ปัจจุบันไทยยูเนี่ยนใช้น้ำเพียงวันละ 3 ล้านลิตรเท่านั้น ส่งผลให้สามารถลดต้นทุนการผลิตได้ถึงปีละประมาณ 27.8 ล้านบาท +“สำหรับแนวทางการดำเนินงานระบบบำบัดน้ำทิ้งให้เป็นศูนย์ของไทยยูเนี่ยนคือการใช้ระบบบริหารจัดการที่ต้นทางทั้งในส่วนวิศวกรรมและกระบวนการผลิตพร้อมปรับปรุงคุณภาพน้ำให้เทียบเท่าและใช้แทนน้ำประปาได้ เริ่มตั้งแต่การดูแลให้เกิดของเสียน้อยที่สุดก่อนนำมาบำบัด ด้วยการแยกเลือดปลาและน้ำนึ่งปลาจนสามารถลดไขมันและเลือดปลาที่ปะปนมาในน้ำทิ้งให้น้อยลงได้ และใช้การกรองโดยระบบ Ultra Filtration (UF) จากนั้นนำไปผ่านระบบ Reverse Osmosis (RO) เพื่อให้ได้น้ำสะอาดกลับออกมาเป็นน้ำใช้ในระบบทำความเย็นของโรงงานที่ต้องการคุณภาพน้ำสะอาดที่มากกว่าน้ำทั่วไป ส่วนน้ำทิ้งจากกระบวนการ RO ที่ยังมีคุณภาพน้ำที่ดีจะถูกนำไปล้างพื้น ทำความสะอาดรถบรรทุกหรือล้อรถบรรทุก โดยน้ำที่ถูกนำไปใช้ทำความสะอาดเสร็จแล้วจะถูกหมุนเวียนกลับเข้าระบบ UF และ RO ไปเรื่อย ๆ เพื่อไม่ให้เหลือทิ้งออกสู่ภายนอก” นายสุทธิเดช ระบุ + +ที่มา : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/81056 \ No newline at end of file diff --git "a/data/2024/03/29/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\270\201\340\270\262\340\270\243\340\270\250\340\270\266\340\270\201\340\270\251\340\270\262\340\270\257_7_408a6c09-cfc6-41f5-a63d-9a1305672ee1.txt" "b/data/2024/03/29/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\270\201\340\270\262\340\270\243\340\270\250\340\270\266\340\270\201\340\270\251\340\270\262\340\270\257_7_408a6c09-cfc6-41f5-a63d-9a1305672ee1.txt" new file mode 100644 index 000000000..c5deb7152 --- /dev/null +++ "b/data/2024/03/29/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\270\201\340\270\262\340\270\243\340\270\250\340\270\266\340\270\201\340\270\251\340\270\262\340\270\257_7_408a6c09-cfc6-41f5-a63d-9a1305672ee1.txt" @@ -0,0 +1,12 @@ +รัฐบาลไทย-ข่าวทำเนียบรัฐบาล-รัฐมนตรี อว. “ศุภมาส” ประชุมคณะกรรมการพัฒนาการจัดการศึกษาโดยสถาบันอุดมศึกษาที่มีศักยภาพสูงจากต่างประเทศ มุ่งส่งเสริมด้านการศึกษา ผลักดันให้ต่างประเทศหันมาเปิดตลาดการศึกษาไทย + + +วันศุกร์ที่ 29 มีนาคม 2567 +รัฐมนตรี อว. “ศุภมาส” ประชุมคณะกรรมการพัฒนาการจัดการศึกษาโดยสถาบันอุดมศึกษาที่มีศักยภาพสูงจากต่างประเทศ มุ่งส่งเสริมด้านการศึกษา ผลักดันให้ต่างประเทศหันมาเปิดตลาดการศึกษาไทย +รัฐมนตรี อว. “ศุภมาส” ประชุมคณะกรรมการพัฒนาการจัดการศึกษาโดยสถาบันอุดมศึกษาที่มีศักยภาพสูงจากต่างประเทศ มุ่งส่งเสริมด้านการศึกษา ผลักดันให้ต่างประเทศหันมาเปิดตลาดการศึกษาไทย +เมื่อวันที่ 28 มี.ค. น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เป็นประธานที่ประชุมคณะกรรมการพัฒนาการจัดการศึกษาโดยสถาบันอุดมศึกษาที่มีศักยภาพสูงจากต่างประเทศ (คพอต.) ครั้งที่ 1/2567 โดยมีปลัดกระทรวงการคลัง ผู้แทนปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ผู้แทนเลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ผู้แทนเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ผู้แทนประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ผู้แทนประธานที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย ผู้แทนนายกสมาคมสถาบันอุดมศึกษาเอกชนแห่งประเทศไทย กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ และผู้บริหารของ อว. เข้าร่วมประชุม +สำหรับวาระการประชุมที่สำคัญ +ได้แก่ การพิจารณาความก้าวหน้าการจัดการศึกษาโดยสถาบันอุดมศึกษาที่มีศักยภาพสูงจากต่างประเทศในประเทศไทย 3 แห่ง ได้แก่ มหาวิทยาลัยซีเอ็มเคแอล (CMKL University) สถาบันการจัดการธุรกิจบริการและการโรงแรมแห่งเอเชีย ด้วยความร่วมมือกับ เลส์ โรชส์ (Asian Institute of Hospitality Management , In Academic Association With Les Roches) และมหาวิทยาลัยอมตะ (Amata University) และการบริหารจัดการสถาบันอุดมศึกษาที่มีศักยภาพสูงจากต่างประเทศในประเทศไทย เพื่อเป็นการส่งเสริมและสนับสนุนการจัดการศึกษาโดยสถาบันอุดมศึกษาที่มีศักยภาพสูงจากต่างประเทศตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 29/2560 เรื่อง การส่งเสริมการจัดการศึกษาโดยสถาบันอุดมศึกษาที่มีศักยภาพสูงจากต่างประเทศ +น.ส.ศุภมาส รัฐมนตรีกระทรวง อว. กล่าวว่า คณะกรรมการฯ ชุดนี้มีความสำคัญในการขับเคลื่อนนโยบายท่านนายกรัฐมนตรีในการสนับสนุนให้สถาบันอุดมศึกษาที่มีศักยภาพสูงจากต่างประเทศมาจัดการศึกษาในประเทศไทย ซึ่งอาจต้องมีการพิจารณาทบทวนในเรื่องเขตพื้นที่ในการจัดการศึกษาและบริบทอื่นให้สอดคล้องกับสถานการณ์การจัดการอุดมศึกษาในประเทศไทย รวมทั้งมีการกำหนดแนวทางการบริหารจัดการสถาบันอุดมศึกษาดังกล่าวภายหลังการได้รับอนุญาตให้จัดการศึกษาในประเทศไทยโดยเพิ่มกลไกการติดตามประเมินผลการดำเนินการ เพื่อกำหนดกลยุทธ์ในการดำเนินงานเชิงรุกต่อไป + +ที่มา : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/81060 \ No newline at end of file diff --git "a/data/2024/03/29/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\270\204\340\270\247\340\270\262\340\270\241\340\270\241\340\270\261\340\271\210\340\270\231\340\270\204\340\270\207_10_c3d99413-72ae-47b3-b948-7c5625df2eb5.txt" "b/data/2024/03/29/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\270\204\340\270\247\340\270\262\340\270\241\340\270\241\340\270\261\340\271\210\340\270\231\340\270\204\340\270\207_10_c3d99413-72ae-47b3-b948-7c5625df2eb5.txt" new file mode 100644 index 000000000..0e11672a1 --- /dev/null +++ "b/data/2024/03/29/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\270\204\340\270\247\340\270\262\340\270\241\340\270\241\340\270\261\340\271\210\340\270\231\340\270\204\340\270\207_10_c3d99413-72ae-47b3-b948-7c5625df2eb5.txt" @@ -0,0 +1,19 @@ +รัฐบาลไทย-ข่าวทำเนียบรัฐบาล-ปลัดมหาดไทย มอบนโยบายการขับเคลื่อนภารกิจของกระทรวงมหาดไทย ให้กับสมาชิกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย ในการประชุมสมาคมแม่บ้านมหาดไทยสัญจร ครั้งที่ 4 พื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ + + +วันศุกร์ที่ 29 มีนาคม 2567 +29/03/2567 +พิมพ์ +ปลัดมหาดไทย มอบนโยบายการขับเคลื่อนภารกิจของกระทรวงมหาดไทย ให้กับสมาชิกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย ในการประชุมสมาคมแม่บ้านมหาดไทยสัญจร ครั้งที่ 4 พื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ +ปลัด มท. มอบนโยบายการขับเคลื่อนภารกิจของกระทรวงมหาดไทย ให้กับสมาชิกสมาคมแม่บ้าน มท. ในการประชุมสมาคมแม่บ้านมหาดไทยสัญจร ครั้งที่ 4 พื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มุ่งมั่นส่งเสริมให้เยาวชน ประชาชนทุกคนมีสุขภาพที่ดีทั้งร่างกายและจิตใจ เสริมสร้างครอบครัว +ปลัดมหาดไทย มอบนโยบายการขับเคลื่อนภารกิจของกระทรวงมหาดไทย ให้กับสมาชิกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย ในการประชุมสมาคมแม่บ้านมหาดไทยสัญจร ครั้งที่ 4 พื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มุ่งมั่นส่งเสริมให้เยาวชน ประชาชนทุกคนมีสุขภาพที่ดีทั้งร่างกายและจิตใจ เสริมสร้างครอบครัวและสังคมที่ดีมีสุขภาพแข็งแรงอย่างยั่งยืน +วันนี้ (29 มี.ค. 67) เวลา 09.00 น. ที่ห้องประชุมอำเภอเมือง โรงแรมเทพนคร จังหวัดบุรีรัมย์ นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย ร่วมมอบแนวทางการดำเนินงานของสมาคมแม่บ้านมหาดไทยสัญจร ครั้งที่ 4 พื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ภายใต้โครงการอบรมเพิ่มประสิทธิภาพผู้นำในการเสริมสร้างบทบาทของหมู่บ้านสู่การพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน ระหว่างวันที่ 28 - 29 มีนาคม 2567 โดยมี นายนฤชา โฆษาศิวิไลซ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ นางวาทิณี โฆษาศิวิไลซ์ ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดบุรีรัมย์ ผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงมหาดไทย คณะอุปนายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย คณะที่ปรึกษานายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย คณะที่ปรึกษาปลัดกระทรวงมหาดไทย ประธานแม่บ้านมหาดไทยและภาคีเครือข่ายในพื้นที่ 20 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่ จังหวัดกาฬสินธุ์ ขอนแก่น ชัยภูมิ นครพนม นครราชสีมา บึงกาฬ บุรีรัมย์ มหาสารคาม มุกดาหาร ยโสธร ร้อยเอ็ด เลย ศรีสะเกษ สกลนคร สุรินทร์ หนองคาย หนองบัวลำภู อำนาจเจริญ อุดรธานี และจังหวัดอุบลราชธานี รวม 300 คน ร่วมรับฟัง +นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า วันนี้เป็นโอกาสที่ดีที่พวกเราชาวมหาดไทยและสมาชิกสมาคมแม่บ้านมหาดไทยทุกคน ที่ได้มีโอกาสรับฟังสิ่งที่มีประโยชน์กับชีวิต โดยเป็นการรับฟังเทปบันทึกการบรรยายพิเศษจาก แพทย์หญิง พักตร์พิไล ทวีสิน ประธานกรรมการคณะคู่สมรสคณะรัฐมนตรี มาบรรยายให้ความรู้ให้กับผู้เข้าร่วมการประชุมสมาคมแม่บ้านมหาดไทยสัญจร ครั้งที่ 4 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในหัวข้อ “ส่งเสริมสร้างสุขอนามัยให้แก่แม่และเด็ก เติบโตอย่างถูกต้องตามหลักเกณฑ์มาตรฐานสุขลักษณะ” ซึ่งเป็นการแนะนำให้ความรู้ว่าจะทำอย่างไรให้เรามีอายุยืนยาว ทำให้ทุกท่านจะได้รับความรู้ที่เป็นประโยชน์ ทั้งชายหญิง ทุกเพศ ทุกวัย ซึ่งสิ่งที่ท่านเน้นย้ำเรื่องการรับประทานไข่ เพราะไข่มีประโยชน์ช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ ทำให้มีความจำดี ทำให้มีร่างกายแข็งแรง ดังนั้น ไข่จึงเป็นอาหารที่มหัศจรรย์ ซึ่งสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระราชทานพระราชดำรัสเน้นย้ำเรื่องการส่งเสริมให้พวกเรากินอาหารที่มีโปรตีน ทั้งเรื่องการรับประทานปลาที่มีโปรตีนสูง ตลอดจนทรงตรัสถึงผู้ว่าราชการจังหวัดที่เป็น "พ่อเมือง" ในการทำหน้าที่บำบัดทุกข์ บำรุงสุขให้กับพี่น้องประชาชน จึงขอให้พวกเราทุกคนจงภาคภูมิใจว่า เจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดินได้ฝากความหวังไว้กับพวกเราชาวมหาดไทย และสมาคมแม่บ้านมหาดไทยทุกคนที่จะช่วยกันทำหน้าที่เป็นคุณแม่และคุณพ่อ แนะนำช่วยเหลือพี่น้องประชาชน และขอส่งกำลังใจให้ทุกท่านได้นำความรู้ที่เป็นประโยชน์อย่างมากที่จะได้รับฟังการบรรยายพิเศษจากแพทย์หญิงพักตร์พิไล ทวีสิน ไปร่วมกันทำกิจกรรม ทำงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการบำบัดทุกข์ บำรุงสุข ให้กับพี่น้องประชาชน และสังคมได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีมีสุขภาพกายและจิตใจที่แข็งแรง +สำหรับการบรรยายพิเศษของแพทย์หญิงพักตร์พิไล ทวีสิน ประธานกรรมการคณะคู่สมรสคณะรัฐมนตรี ได้ให้ความรู้ โดยมีใจความสำคัญ ดังนี้ “การส่งเสริมการสร้างสุขอนามัยให้แก่แม่และเด็ก เริ่มต้นที่การรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพ เพราะเราควรจะต้องกินอาหารที่ดีต่อร่างกาย นั่นคือผักสดและผลไม้ที่ไม่หวานครบ 7 สี และควรรับประทานมากกว่า 60% ในแต่ละมื้อ ซึ่งผักและผลไม้จะช่วยในการดูดซึมแร่ธาตุต่าง ๆ อีกทั้งยังช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย ดังนั้น เด็กเล็กหลังจากที่หย่านมแม่แล้ว ควรรับประทานผักเขียว เพื่อจะทำให้ร่างกายได้รับวิตามินแร่ธาตุสารอาหารที่ครบถ้วน ซึ่งพืชผักผลไม้เหล่านี้จะช่วยทำให้ร่างกายเป็นด่างช่วยรักษาสมดุลร่างกาย ในส่วนอาหารที่ทำให้ร่างกายเป็นกรดควรหลีกเลี่ยง อาทิ ของทอดที่มีไขมัน สารเคมี ผลิตภัณฑ์นมจากสัตว์ น้ำ เหล้า ยา กาแฟ อาหารแปรรูป เนย ชีส มาจากการหมักเชื้อรา ในส่วนของผลิตภัณฑ์นมจากสัตว์ มีส่วนผสมของน้ำตาลแลคโตส ที่ร่างกายของเราไม่สามารถย่อยอาหารได้ หากเราดื่มนมจากสัตว์ รับประทานเนย ชีส จำนวนมากเกินไป เชื้อราที่ทำหน้าที่ย่อยสลายสิ่งที่ร่างกายย่อยไม่ได้จะเกิดขึ้น ทำให้เกิดภาวะการเจริญเติบโตของเชื้อราในร่างกายมากเกินไป เป็นสาเหตุทำให้เกิดภูมิแพ้ในร่างกาย ซึ่งมีงานวิจัยต่างชาติพิสูจน์ว่านมจากสัตว์ เนย ชีส ทำให้ร่างกายเป็นกรดมาก ทำให้ร่างกายถูกกระตุ้นให้ดูดซึมแคลเซียมออกจากกระดูก ส่งผลทำให้เกิดกระดูกบาง มีความเสี่ยงต่อภาวะกระดูกสะโพกหัก นอกจากนี้ยังจะส่งผลต่อปัญหาสุขภาพ ฉะนั้น การดื่มนมไม่ใช่แปลว่ากระดูกจะแข็งแรง แต่ทำให้มีความเสี่ยงของโรคมากขึ้น อาทิ ความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด โรคมะเร็งเต้านม โรคมะเร็งต่อมลูกหมาก และโรคเบาหวาน” +"ไข่ คือ อาหารที่เป็นตัวเลือกในการทดแทน ผลิตภัณฑ์นมจากสัตว์ได้ ซึ่งไข่แดงจะอุดมไปด้วยโปรตีน ไขมันคอเลสเตอรอล วิตามิน และสารอาหารต่าง ๆ ที่จำเป็นต่อร่างกายอย่างครบถ้วน และให้พลังงานต่อร่างกาย ซึ่งการรับประทานไข่ที่ดีจะต้องปรุงอาหารโดยไม่เกิน 100 องศา เช่น ไข่ต้ม ไข่ลวก ที่ปราศจากกรรมวิธีการทอด จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อร่างกาย หากเราเทียบสารอาหารระหว่าง กล้วย นม และไข่ เห็นได้ชัดว่า "ไข่" มีวิตามินและแร่ธาตุสารอาหารที่สูงกว่ามาก และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง คือ "ไข่ไม่มีน้ำตาล" ซึ่งประโยชน์ของไข่ จะช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อ เสริมสร้างกระดูก ช่วยบำรุงหัวใจ บำรุงสายตา เป็นต้น ในส่วนของน้ำตาล หากเรารับประทานอาหารที่มีน้ำตาลจำนวนมาก จะเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคเบาหวาน เพิ่มระดับไขมัน ขอให้เกิดโรคภูมิแพ้และโรคหัวใจ ซึ่งน้ำตาลที่เราควรจะรับประทาน คือ ฟรุกโตสจากน้ำตาลผลไม้ ซึ่งเส้นใยไฟเบอร์จากผลไม้จะช่วยชะลอการดูดซึม น้ำตาลจากลำไส้ ตรงข้ามกับพวกฟรุกโตสจากไซรัปข้าวโพดที่ผสมในเครื่องดื่มขนมขบเคี้ยว เช่นเดียวกันกับสิ่งที่เป็นน้ำตาลเทียม ซึ่งจะทำลายตับ ทำให้เกิดผลเสียต่อร่างกายได้" แพทย์หญิงพักตร์พิไลฯ กล่าวในช่วงต้น +แพทย์หญิงพักตร์พิไล ทวีสิน ประธานกรรมการคณะคู่สมรสคณะรัฐมนตรี กล่าวต่ออีกว่า "น้ำ" จึงเป็นสิ่งสำคัญและเป็นส่วนประกอบของทุกสิ่งทุกอย่างบนร่างกาย ร่างกายเรามีน้ำมากกว่า 70% ซึ่งผู้หญิงต้องการน้ำอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว ส่วนผู้ชายต้องการน้ำอย่างน้อยวันละ 10 แก้ว หากร่างกายขาดน้ำเพียงนิดเดียว หรือ 2% จะมีผลต่อการทำงานของร่างกายผิดปกติ และหากร่างกายเราขาดน้ำอย่างต่อเนื่องจะทำให้เกิดโรคต่าง ๆ มากมายไม่ว่าจะเป็นนิ่วทางเดินปัสสาวะมะเร็งเต้านม มะเร็งทางเดินปัสสาวะ มะเร็งลำไส้ใหญ่ โรคอ้วน ต่อมน้ำลายทำงานเกิดผิดปกติ สุขภาพทรุดโทรม ซึ่งน้ำจะทำให้ร่างกายเป็นด่าง จึงแนะนำให้ทุกคนได้ดื่มน้ำแร่ เช่นเดียวกับพืชผักผลไม้ที่มีเกลือแร่ การกินน้ำเปล่าหรือน้ำผลไม้ที่มีเกลือแร่จะเกิดประโยชน์ต่อร่างกาย นอกจากนี้ สิ่งสำคัญของร่างกายควบคู่กับอาหาร คือ การออกกำลังกาย หากออกกำลังกายทุกวันก็จะมีสุขภาพดี การออกกำลังกายที่เราชอบก็จะเป็นประโยชน์ต่อร่างกาย ซึ่งควรออกกำลังกายไม่ต่ำกว่า 3 วันต่อสัปดาห์ และทำอย่างต่อเนื่อง 3 เดือน จะทำให้เรารู้สึกชินกับการออกกำลังกาย และจะหลั่งสารทำให้เรามีความสุข ทำให้เราไม่อยากหยุดออกกำลังกาย เช่นเดียวกันกับการนอนหลับก็มีความสำคัญ การนอนที่ดี คือ ห้องต้องมีความมืดสนิท ห้องนอนไม่ควรชาร์จโทรศัพท์ เปิดคอมพิวเตอร์ พวกนี้จะมีคลื่นสัญญาณแม่เหล็ก จะเป็นการรบกวนคลื่นในสมอง ทำให้สร้างโกรทฮอร์โมนออกมาซ่อมแซมร่างกาย เพราะการนอนหลับ คือ ทำให้ร่างกายซ่อมแซมตนเอง เราจึงควรนอนให้หลับสนิท อย่างน้อยวันละ 7-8 ชั่วโมง ซึ่งห้องนอนควรมืดสนิทไม่ควรเปิดโทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์ รวมถึงห้องนอนต้องมีอุณหภูมิที่เหมาะสม ประมาณ 18.7 องศา ไม่เกิน 22 องศา +"การมีสุขภาพดีต้องมีการบริหารจัดการกับความเครียด การจัดการกับอารมณ์จิตใจ เพราะ "ใจเป็นนาย กายเป็นบ่าว" การยิ้ม การหัวเราะเป็นยาอายุวัฒนะช่วยคลายเครียดได้ดีที่สุด การให้รอยยิ้มกับผู้อื่นคือการทำบุญทำทาน เราควรลดความเครียด ความกังวล ความซึมเศร้าในทุกวันตอนเช้า ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย ลดความดันโลหิต เพิ่มสารแห่งความสุข ทำให้เราเพิ่มความสามารถในการแก้ไขปัญหา ซึ่งการบริหารจัดการกับความเครียดช่วยให้เรามีอายุยืน การนั่งสมาธิหรือการสวดมนต์เป็นอีกหนึ่งการคลายเครียดที่ดีที่สุด เพราะการนั่งสมาธิจะได้ฝึกการหายใจเข้าหายใจออกลึก ทำให้หลอดเลือดเกิดการขยายตัว เป็นการเพิ่มออกซิเจนให้กับสมอง ทั้งนี้ การมีความสุขต้องมาจากการสร้างครอบครัวสังคมที่มีความสุขร่วมกัน จะทำให้สังคมมีความเป็นอยู่ที่ดีและมีความสุข หากทุกคนต้องการมีสุขภาพที่ดี ต้องทำด้วยตนเอง การออกกำลังกาย การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย คนในสังคมทุกคนก็จะมีความสุข" แพทย์หญิงพักตร์พิไลฯ กล่าวตอนท้าย +ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย กล่าวว่า การบรรยายพิเศษของ แพทย์หญิงพักตร์พิไล ทวีสิน ประธานกรรมการคณะคู่สมรสคณะรัฐมนตรี ในหัวข้อ “ส่งเสริมสร้างสุขอนามัยให้แก่เด็กและแม่ เติบโตอย่างถูกต้องตามหลักเกณฑ์มาตรฐานสุขลักษณะ” เป็นสิ่งที่มีประโยชน์ และทำให้เราได้รับความรู้มากมาย ทั้งเรื่องการดูแลสุขภาพร่างกายให้เรามีร่างกายแข็งแรงและมีชีวิตยืนยาว ด้วยการรับประทานอาหารที่จำเป็นและมีประโยชน์ต่อร่างกาย ทั้งการรับประทานไข่วันละ 2 ฟอง ทำให้พวกเราได้นำไปขับเคลื่อนขยายผลให้กับเกิดขึ้นในครอบครัวของคนมหาดไทย การรับประทานผัก 7 สีให้มีสารอาหารอย่างครบถ้วนในทุกวัน รวมถึงเรื่องการใช้ชีวิตประจำวัน ตั้งแต่ออกกำลังกาย การนอนหลับพักผ่อน การจัดการอารมณ์และความเครียด เพื่อสุขอนามัยที่ดีของตนเองและครอบครัว รวมถึงการน้อมนำศีล 5 มาปรับใช้ในชีวิต หากเรามีศีลธรรมที่ดีในจิตใจก็จะทำให้เรามีความสุข ซึ่งสมาคมแม่บ้านมหาดไทย เรามุ่งมั่นในการขับเคลื่อนภารกิจ "บำบัดทุกข์ บำรุงสุข" ของกระทรวงมหาดไทย ขยายผลไปสู่ในระดับพื้นที่ จังหวัด อำเภอ ตำบล หมู่บ้าน เพื่อให้ประชาชนมีความสุข และมีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน +#WorldSoilDay #วันดินโลก #UN #FAO #GlobalSoilPartnership #MOI #กระทรวงมหาดไทย #บำบัดทุกข์บำรุงสุข #SoilandWaterasourceoflife #SustainableSoilandWaterforbetterlife #ดินดีน้ำดีชีวีมีสุขอย่างยั่งยืน #SDGsforAll #ChangeforGood + +ที่มา : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/81070 \ No newline at end of file diff --git "a/data/2024/03/29/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\270\204\340\270\247\340\270\262\340\270\241\340\270\241\340\270\261\340\271\210\340\270\231\340\270\204\340\270\207_11_4a0757d3-ecf3-45ae-b4bf-19ecfee724e2.txt" "b/data/2024/03/29/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\270\204\340\270\247\340\270\262\340\270\241\340\270\241\340\270\261\340\271\210\340\270\231\340\270\204\340\270\207_11_4a0757d3-ecf3-45ae-b4bf-19ecfee724e2.txt" new file mode 100644 index 000000000..0fc65c603 --- /dev/null +++ "b/data/2024/03/29/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\270\204\340\270\247\340\270\262\340\270\241\340\270\241\340\270\261\340\271\210\340\270\231\340\270\204\340\270\207_11_4a0757d3-ecf3-45ae-b4bf-19ecfee724e2.txt" @@ -0,0 +1,18 @@ +รัฐบาลไทย-ข่าวทำเนียบรัฐบาล-ปลัด มท. มอบนโยบาย ผู้ว่าฯ นายอำเภอ หัวหน้าส่วนราชการภาคอีสาน วันที่ 2 ย้ำ เดินหน้าแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างจริงจัง สร้างวัฒนธรรมความปลอดภัย 7 วันอันตราย การบริหารจัดการน้ำ + + +วันศุกร์ที่ 29 มีนาคม 2567 +29/03/2567 +พิมพ์ +ปลัด มท. มอบนโยบาย ผู้ว่าฯ นายอำเภอ หัวหน้าส่วนราชการภาคอีสาน วันที่ 2 ย้ำ เดินหน้าแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างจริงจัง สร้างวัฒนธรรมความปลอดภัย 7 วันอันตราย การบริหารจัดการน้ำ +ปมท. มอบนโยบาย ผู้ว่าฯ นายอำเภอ หัวหน้าส่วนราชการภาคอีสาน 20 จังหวัด วันที่ 2 ย้ำ เดินหน้าแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างจริงจัง สร้างวัฒนธรรมความปลอดภัย 7 วันอันตราย การบริหารจัดการน้ำ ตาม Geo-social Map เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชนอย่างยั่งยืน +วันนี้ (29 มี.ค. 67) เวลา 09.30 น. นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุมโครงการอบรมเพิ่มประสิทธิภาพผู้นำในการเสริมสร้างบทบาทของหมู่บ้านสู่การพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 วันที่ 2 ณ ห้องประชุมแกรนด์บอลรูม โรงแรมเทพนครและอัลวาเรซ อำเภอเมืองบุรีรัมย์ จังหวัดบุรีรัมย์ โดยมี นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน นายขจร ศรีชวโนทัย อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการปกครอง นายสยาม ศิริมงคล อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน นายสหรัฐ วงศ์สกุลวิวัฒน์ รองอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายพรรณรบ เตชะมงคลาภิวัฒน์ รองอธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง นายประสพโชค อยู่สำราญ ที่ปรึกษาปลัดกระทรวงมหาดไทย นายชูศักดิ์ รู้ยิ่ง หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย นายนฤชา โฆษาศิวิไลซ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมด้วยผู้ว่าราชการจังหวัด รองผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการระดับจังหวัดในสังกัดกระทรวงมหาดไทย และนายอำเภอ ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จาก 20 จังหวัด ได้แก่ กาฬสินธุ์ ขอนแก่น ชัยภูมิ นครพนม นครราชสีมา บึงกาฬ บุรีรัมย์ มหาสารคาม มุกดาหาร ยโสธร ร้อยเอ็ด เลย ศรีสะเกษ สกลนคร สุรินทร์ หนองคาย หนองบัวลำภู อำนาจเจริญ อุดรธานี และอุบลราชธานี เข้าร่วมการประชุม +นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ฐานข้อมูลสำคัญที่เป็นข้อมูลในการทำงานของผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ คือ ระบบฐานข้อมูล ThaiQM ที่เป็นสารตั้งต้นที่ดีอยู่แล้ว ทุกท่านจึงต้องบริหารจัดการข้อมูลที่มีให้ดี ไม่ให้เป็นเพียงข้อมูลสารสนเทศในระบบเท่านั้น เราต้องนำเอาข้อมูลมาประยุกต์ใช้เพื่อให้เกิดประโยชน์ในการทำงานและส่งผลต่อพี่น้องประชาชน โดยน้อมนำพระราชดำรัสของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ที่พระองค์ทรงบันทึกเป็น Check List ในการดำเนินการในพื้นที่ ทำให้ไม่เกิดการตกหล่น เช่นเดียวกันกับเรื่องการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ เพราะเราบูรณาการข้อมูลเข้าด้วยกัน นอกจากนี้ นายอำเภอ มีข้าราชการผู้รับผิดชอบประจำตำบลอยู่แล้ว ดังนั้นทุกท่านต้องให้ความสำคัญ ในการติดตามดำเนินการทำให้ข้อมูลระบบ ThaiQM อัปเดตอยู่ตลอดเวลา ในส่วนของการแก้ไขปัญหายาเสพติด ซึ่งในเดือนมีนาคม 2567 เรามี "Flagship" ที่จะนำผู้ป่วยจิตเภทสีแดง ส่งเข้ารับการบำบัดฟื้นฟูที่โรงพยาบาลทั้งหมด คู่ขนานกับการที่นายอำเภอสำรวจรวบรวมรายชื่อผู้ป่วยจิตเภททุกคนส่งให้ฝ่ายสาธารณสุขในพื้นที่ รวมทั้งจัดให้มีโต๊ะข่าวยาเสพติด เพื่อกระตุ้นให้ทุกภาคส่วนให้ความสำคัญกับผู้เสพยาเสพติดและทำสงครามกับยาเสพติดตามนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงมหาดไทยอย่างเอาจริงเอาจัง +"ในหลายพื้นที่มีปัญหายาเสพติดรุนแรงมากส่งผลต่อชีวิตและทรัพย์สินผู้เสพและคนในครอบครัว รวมถึงคนในชุมชน ดังนั้น เรื่องสำคัญที่สุดของพวกเราฝ่ายปกครอง ผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ จะต้องเสาะแสวงหาให้เจอทั้งผู้ค้าและผู้เสพยาเสพติด ต้องช่วยกันทำให้ปลัดอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ช่วยกันอัปเดตข้อมูลผู้ที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดตลอดเวลา รวมถึงหากพบเจอเบาะแสในพื้นที่ต้องเข้าตรวจค้น จับกุมทันที ตลอดจนตั้งด่านจุดตรวจจุดสกัดอย่างต่อเนื่อง เพื่อหาทางกดดันไม่ให้คนในชุมชนเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ในส่วนการบำบัดฟื้นฟูสภาพทางสังคม ขอให้ใช้กลไกที่มีอยู่แล้วในแต่ละพื้นที่ ดำเนินการนำผู้ป่วยยาเสพติดเข้ารับการบำบัดฟื้นฟูได้เลยทันทีโดยไม่ต้องรอ ซึ่งทุกกระบวนการที่กล่าวมานายอำเภอสามารถขอรับการสนับสนุนจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้ สิ่งสำคัญของการแก้ไขปัญหายาเสพติด คือ ผู้ว่าราชการจังหวัดต้องขยันขันแข็งในการที่จะตรวจค้นสถานบริการ สถานประกอบที่มีลักษณะคล้ายสถานบริการอย่างเข้มข้นต่อเนื่อง ทำด้วย "Passion" เอาจริงเอาจัง ช่วยกันทำให้ลูกหลานไม่เข้าถึงยาเสพติดได้โดยง่าย ซึ่งทีมจังหวัด อำเภอ ตำบล บำบัดทุกข์ บำรุงสุข แบบบูรณาการอย่างยั่งยืน จะเข้มแข็งได้ ผู้ว่าราชการจังหวัดและนายอำเภอต้องแสดงถึงความเข้มแข็ง ทำให้ปลัดอำเภอผู้รับผิดชอบประจำตำบล กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน มีความเข้มแข็ง รวมทั้งสร้างให้มีระบบคุ้ม มีคณะกรรมการคุ้ม ที่เปรียบเสมือน 25 ตาสับปะรดในหมู่บ้าน ซึ่งทั้งหมดจะบูรณาการไปสู่การเป็นหมู่บ้านยั่งยืน จึงขอให้ทุกท่านใช้ภาวะผู้นำอย่างเต็มที่" นายสุทธิพงษ์ฯ กล่าวในช่วงต้น +นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวต่อไปอีกว่า ขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ ช่วยกันประชาสัมพันธ์รณรงค์ให้พี่น้องประชาชนลงทะเบียน "ไทยดี" (ThaiD) ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน ไม่ว่าจะเป็นการยืนยันตัวตนผ่านระบบดิจิทัล การติดต่อขอรับบริการภาครัฐ การตรวจสอบข้อมูลทะเบียน เป็นต้น นอกจากนี้ ท่านต้องช่วยกันบูรณาการงานทุกงาน อาทิ เรื่องสิ่งแวดล้อม การจัดการขยะ การจัดทำถังขยะเปียกลดโลกร้อน ซึ่งจะส่งผลประโยชน์ต่อการปลูกผักสวนครัว การท่องเที่ยวที่เมืองสะอาดเป็นระเบียบเรียบร้อย นำตัวอย่างที่สำเร็จไปขับเคลื่อนขยายผล การรังวัดที่ดินที่มีหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวง หรือ น.ส.ล. จะมีการปักป้ายที่สาธารณประโยชน์ชัดเจน สามารถตรวจสอบแนวเขตได้เมื่อมีการบุกรุก หรือลดข้อพิพาทเรื่องแนวเขตที่ดินสาธารณประโยชน์ได้ตามวัตถุประสงค์ นอกจากนี้ ยังสามารถปรับปรุง พัฒนา และ บริหารจัดการให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน รวมถึงการบริหารจัดการที่ดินที่เป็นกรรมสิทธิ์ของมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ทั้งการรังวัดออกโฉนดเป็นโฉนดดาวเทียม RTK เราทุกคนต้องช่วยกันรักษาทรัพย์สินและสมบัติของแผ่นดิน เพื่อเฉลิมพระเกียรติแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 +"เรื่อง 7 วันอันตรายในช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้ ขอให้ทุกท่านช่วยกันสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง ส่งเสริมให้มีการสื่อสารสังคม และการฝึกอบรมให้แก่เด็กและเยาวชน เริ่มตั้งแต่สถานศึกษา ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ตลอดจนหอกระจายข่าว ร่วมกับภาคีเครือข่าย โดยผู้ว่าราชการจังหวัดต้องใช้ภาวะผู้นำที่มีความเข้มแข็ง ทำให้เกิดการรณรงค์สร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยอย่างคึกคัก อาทิ ทำป้ายประชาสัมพันธ์รณรงค์ให้ชัดเจนเป็นรูปธรรม ทำให้มีจุดพักรถพักคนตามจุดต่าง ๆ เป็นต้น เรื่องปัญหาน้ำท่วมน้ำแล้ง ขอให้น้อมนำแนวพระราชดำริการบริหารจัดการน้ำตามทฤษฎีใหม่ ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่ทำให้หน้าแล้งมีน้ำเหลืออยู่เพียงพอสำหรับอุปโภคบริโภค และเมื่อหน้าฝนต้องมีแหล่งรองรับน้ำ แก้มลิง หลุมขนมครก บ่อน้ำตื้น ที่สามารถกักเก็บน้ำไว้ในยามที่มีน้ำ ไม่ให้น้ำไหลออกจากพื้นที่หมด ซึ่งเป็นการต่อยอดทฤษฎีใหม่ ประยุกต์สู่ โคก หนอง นา หรือ อารยเกษตร ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว หากผู้ว่าราชการจังหวัด และนายอำเภอ นำข้อมูลไปประยุกต์ใช้ร่วมกับโครงการพัฒนาตามผังภูมิสังคมเพื่อการบริหารจัดการน้ำหมู่บ้าน/ชุมชน แบบบูรณาการอย่างยั่งยืน (Geo-social Map) ของกรมโยธาธิการและผังเมือง เราก็จะมีทางลัดและมีเครื่องมือในการแก้ไขปัญหาน้ำได้ ขอให้จัดพิมพ์ผัง Geo-social Map เพื่อให้นายอำเภอนำไปใช้ต่อยอด พร้อมวางแผนลงพื้นที่ขับเคลื่อนการพัฒนาแบบมีส่วนร่วมตามโครงการหมู่บ้านยั่งยืน เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำแล้งน้ำท่วมตามภูมิสังคม ตลอดจนช่วยกันต่อยอดโครงการพระราชดำริการพัฒนาพื้นที่บึงสีไฟ โดยนำแนวทางที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานแนวทางในการต่อยอดทฤษฎีใหม่ประยุกต์สู่โคก หนอง นา หรืออารยเกษตร ทำให้นอกจากจะใช้พื้นที่ให้เป็นประโยชน์แล้ว ยังมีความสวยงาม เป็นพื้นที่สำหรับการออกกำลังกาย การศึกษาเรียนรู้ และเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจของพี่น้องประชาชน" นายสุทธิพงษ์ฯ กล่าว +นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า กองทุนแม่ของแผ่นดิน หรือการแก้ไขปัญหายาเสพติดเชิงบวก ทุกครัวเรือนไม่จำเป็นต้องเป็นสมาชิก เพียงแต่การจัดตั้งนี้จะเป็นสารตั้งต้นไปสู่การเป็นหมู่บ้านยั่งยืน (Sustainable Village) เป็นการดำเนินการเพื่อก่อตั้งกลุ่มคนที่จะมาต่อต้านกับยาเสพติด ทำให้มีจิตอาสาในการไปพบปะพูดคุย รณรงค์ ดูแลครอบครัว โดยใช้กลไกของระบบคุ้มบ้าน ยกระดับให้เกิดเป็นระบบ มีกรรมการกองทุนแม่ของแผ่นดิน มีการประชุมพูดคุยและมีการจัดกิจกรรมร่วมกัน เพื่อรณรงค์สร้างแรงจูงใจไม่ให้คนในชุมชนเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ในเรื่องการรณรงค์สวมใส่ผ้าไทย ที่ทุกจังหวัดมีการดำเนินการในระดับดีมาก หลายจังหวัดมีการจัดกิจกรรมส่งเสริมผ้าไทย มีช่องทางการตลาด สนองแนวพระดำริสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ขับเคลื่อนโครงการ "ผ้าไทยใส่ให้สนุก" สิ่งสำคัญที่สุด คือ การสื่อสารสังคมต้องมีความชัดเจน เราต้องนำเสนอในสิ่งที่กระทรวงมหาดไทยทำ แสดงถึงความเข้มแข็งขององค์กร และสถาบันของมหาดไทย เพราะรางวัลความสำเร็จจะเป็นสัญลักษณ์ที่เป็นเครื่องหมายว่าสิ่งที่เราทำ ริเริ่มโดยจังหวัดและคนมหาดไทย ผู้ว่าราชการจังหวัดและนายอำเภอเป็นนายกรัฐมนตรีของพื้นที่ ทำหน้าที่บำบัดทุกข์ บำรุงสุขให้กับพี่น้องประชาชน ทุกเรื่องจึงเป็นงานของเรา การสื่อสารสังคมบนพื้นฐานความเป็นจริงของงานคือสิ่งสำคัญ +"ขอขอบคุณทุกท่านที่กรุณามาใช้ชีวิตร่วมกัน ในระยะเวลา 2 วัน 1 คืน มีความสุขที่ได้เห็นผู้ว่าราชการจังหวัดและประธานแม่บ้านมหาดไทย และทีมจังหวัด ร่วมกันแสดงออกเสริมสร้างความรักความสามัคคีของทีมจังหวัด บรรยากาศแบบนี้จะเกิดขึ้นได้ หากเรา "สืบสาน รักษา และต่อยอด" ตามพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทำให้กระจายสู่จังหวัด อำเภอ ตำบล หมู่บ้าน ตลอดจนขับเคลื่อนรณรงค์ส่งเสริม ชักจูงให้ประชาชนมาร่วมเป็นสมาชิกแม่บ้านมหาดไทย แม่บ้านประจำจังหวัด ส่งเสริมทำให้เกิดเป็นระบบทางการเพิ่มมากยิ่งขึ้น เป็นทีมงานจิตอาสา เพื่อต่อยอดไปสู่การยกระดับคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชนให้ดีมากยิ่งขึ้น ตามตัวชี้วัดของหมู่บ้านยั่งยืน และการแก้ไขปัญหาครัวเรือนแบบพุ่งเป้า ThaiQM รวมทั้งการดำเนินโครงการตามแนวพระราชดำริต่าง ๆ และตามนโยบายของกระทรวงมหาดไทย เช่น การเพาะกล้าพันธุ์ไม้ การดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม ธนาคารขยะ การจัดซื้อหนังสือสารานุกรมสำหรับเด็ก การขับเคลื่อนติดตามนักเรียนทุนการศึกษาพระราชทาน ม.ท.ศ. และที่สำคัญ คือ ดำเนินการโครงการเฉลิมพระเกียรติฯ อย่างต่อเนื่อง พร้อมประชาสัมพันธ์เผยแพร่พระเกียรติคุณของสถาบันพระมหากษัตริย์ที่มีต่อพื้นที่ของเรา ทั้งนี้ ขอให้ทุกท่านทำหน้าที่เป็นพ่อเมืองที่ดูแลพี่น้องประชาชน "บำบัดทุกข์ บำรุงสุข" ให้พี่น้องประชาชนมีความสุขอย่างยั่งยืน" นายสุทธิพงษ์ฯ กล่าวในช่วงท้าย +#WorldSoilDay #วันดินโลก #UN #FAO #GlobalSoilPartnership #MOI #กระทรวงมหาดไทย #บำบัดทุกข์บำรุงสุข #SoilandWaterasourceoflife #SustainableSoilandWaterforbetterlife #ดินดีน้ำดีชีวีมีสุขอย่างยั่งยืน #SDGsforAll #ChangeforGood + +ที่มา : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/81071 \ No newline at end of file diff --git "a/data/2024/03/29/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\270\204\340\270\247\340\270\262\340\270\241\340\270\241\340\270\261\340\271\210\340\270\231\340\270\204\340\270\207_12_bdad335b-0f1a-45ea-a477-962cf51bfa39.txt" "b/data/2024/03/29/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\270\204\340\270\247\340\270\262\340\270\241\340\270\241\340\270\261\340\271\210\340\270\231\340\270\204\340\270\207_12_bdad335b-0f1a-45ea-a477-962cf51bfa39.txt" new file mode 100644 index 000000000..3cbca57f3 --- /dev/null +++ "b/data/2024/03/29/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\270\204\340\270\247\340\270\262\340\270\241\340\270\241\340\270\261\340\271\210\340\270\231\340\270\204\340\270\207_12_bdad335b-0f1a-45ea-a477-962cf51bfa39.txt" @@ -0,0 +1,16 @@ +รัฐบาลไทย-ข่าวทำเนียบรัฐบาล-ปลัดมหาดไทย เผยความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ เข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยหนี้แล้ว 41,686 ราย สามารถไกล่เกลี่ยสำเร็จ 25,408ราย มูลหนี้ลดลง 1,018 ล้านบาท กำชับทุกจังหวัดเร่งรัด + + +วันศุกร์ที่ 29 มีนาคม 2567 +29/03/2567 +พิมพ์ +ปลัดมหาดไทย เผยความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ เข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยหนี้แล้ว 41,686 ราย สามารถไกล่เกลี่ยสำเร็จ 25,408ราย มูลหนี้ลดลง 1,018 ล้านบาท กำชับทุกจังหวัดเร่งรัด +ปลัดมหาดไทย เผยความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ เข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยหนี้แล้ว 41,686 ราย สามารถไกล่เกลี่ยสำเร็จ 25,408ราย มูลหนี้ลดลง 1,018 ล้านบาท กำชับทุกจังหวัดเร่งรัดไกล่เกลี่ยหนี้อย่างต่อเนื่องให้ครบทุกกรณีและเป็นธรรม พร้อมบูรณาการภาคี +ปลัดมหาดไทย เผยความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ เข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยหนี้แล้ว 41,686 ราย สามารถไกล่เกลี่ยสำเร็จ 25,408ราย มูลหนี้ลดลง 1,018 ล้านบาท กำชับทุกจังหวัดเร่งรัดไกล่เกลี่ยหนี้อย่างต่อเนื่องให้ครบทุกกรณีและเป็นธรรม พร้อมบูรณาการภาคีเครือข่ายยกระดับคุณภาพชีวิตลูกหนี้ในทุกมิติ +วันนี้ (29 มี.ค. 67) นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า จากการที่กระทรวงมหาดไทยได้เปิดรับลงทะเบียนให้ประชาชนที่มีความประสงค์ให้ทางราชการช่วยแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบตามนโยบายรัฐบาล โดยมีประชาชนมาลงทะเบียนรวมทั้งสิ้น 153,400 ราย กระทรวงมหาดไทยจึงได้แจ้งให้ทุกจังหวัด อำเภอ เดินหน้าแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบอย่างต่อเนื่องด้วยการเชิญเจ้าหนี้และลูกหนี้มาเข้าสู่กระบวนการเจรจาไกล่เกลี่ยหนี้ โดยเมื่อเวลา 15.00 น. สำนักการสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง ได้รายงานข้อมูลการไกล่เกลี่ยหนี้ทั่วประเทศ มีจำนวนลูกหนี้เข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยแล้ว 41,686 ราย สามารถไกล่เกลี่ยสำเร็จ 25,408 ราย มูลหนี้ลดลงรวม 1,018.494 ล้านบาท และมีกรณีที่เจ้าหนี้-ลูกหนี้มีความประสงค์ให้เจ้าหน้าที่ได้ส่งต่อเรื่องไปยังพนักงานสอบสวนของสถานีตำรวจในพื้นที่ดำเนินคดี 375 คดี โดยมีจังหวัดที่สามารถเชิญเจ้าหนี้-ลูกหนี้เข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยหนี้ได้มากที่สุด 5 ลำดับ คือ 1. จังหวัดสงขลา 4,378 ราย 2. จังหวัดนครศรีธรรมราช 3,325 ราย 3. จังหวัดนครสวรรค์ 2,669 ราย 4. จังหวัดนครราชสีมา 2,269 ราย และ 5. จังหวัดศรีสะเกษ 1,833 ราย ซึ่งเจ้าหนี้และลูกหนี้ได้มาพบปะพูดคุยกัน โดยมีเจ้าหน้าที่เป็นคนกลาง และหลังจากนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะได้ติดตามผลภายหลังจากการเจรจาไกล่เกลี่ยหนี้ เพื่อให้การแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบประสบความสำเร็จครบทั้งกระบวนการต่อไป +“เรื่องการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบทั่วประเทศ วันนี้จังหวัดสงขลายังคงเป็นจังหวัดที่มีลูกหนี้เข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยมากที่สุด 4,378 ราย และมี 3 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดนครสวรรค์ นราธิวาส และระนอง ดำเนินการกระบวนการไกล่เกลี่ยกับผู้ที่มาลงทะเบียนครบ 100% แล้ว จึงขอให้ทุกจังหวัดที่เหลือบูรณาการกับหน่วยงานภาคีเครือข่าย เร่งรัดให้เจ้าหนี้และลูกหนี้มาเข้าสู่กระบวนการเจรจาไกล่เกลี่ยให้ครบทุกกรณี เพื่อให้ลูกหนี้นอกระบบที่ลงทะเบียนไว้ได้รับการช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบได้รวดเร็วและเป็นธรรม และต้องคำนึงถึงความสำเร็จในการไกล่เกลี่ยของทุกกรณี หากไม่สามารถใช้การเจรจาไกล่เกลี่ยได้ ให้ดำเนินคดีกับผู้ที่กระทำผิดกฎหมายทันที เพราะหนี้นอกระบบถือว่าผิดกฎหมาย คือ มีการปล่อยกู้โดยไม่มีใบอนุญาต อีกทั้งยังเรียกเก็บดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด” นายสุทธิพงษ์ฯ กล่าวเพิ่มเติม +นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวต่อว่า ขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดตั้งคลินิกแก้ไขหนี้ พร้อมเน้นย้ำ ให้กำชับนายอำเภอ มอบหมายสำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอ ในฐานะเลขานุการกรรมการบริหารศูนย์อำนวยการปฏิบัติการขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ระดับอำเภอ (ศจพ.อ.) ดำเนินการใช้แนวทางแก้ไขปัญหาและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืน (เมนูแก้จน) เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตแก่ลูกหนี้ซึ่งประสงค์จะได้รับความช่วยเหลือให้สามารถลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ขยายโอกาส ตลอดจนส่งเสริมให้เกิดการรวมกลุ่มต่อยอดในการสร้างอาชีพ รวมถึงโอกาสในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนสถาบันการเงินของรัฐ เพื่อไม่ให้กลับไปสู่วงจรหนี้นอกระบบ และสามารถพึ่งพาตนเองได้ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อให้ประชาชนสามารถยกระดับคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้นอย่างยั่งยืน +"แม้ว่าการรับลงทะเบียนการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบจะปิดรับไปแล้ว อย่างไรก็ตามกระบวนการดำเนินการไกล่เกลี่ยหนี้ และการพัฒนาคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชนยังไม่สิ้นสุด ขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ ดำเนินการประชาสัมพันธ์รณรงค์สร้างการรับรู้ให้กับพี่น้องประชาชนที่เดือดร้อนจากปัญหาหนี้นอกระบบ หรือปัญหาอื่น ๆ ที่ไม่สามารถแก้ไขด้วยตนเองได้ และต้องการความช่วยเหลือจากภาครัฐ สามารถติดต่อผ่านช่องทางศูนย์ดำรงธรรมกระทรวงมหาดไทยได้ ทั้งศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอ หรือโทรสายด่วน 1567 โดยจะมีเจ้าหน้าที่บริการตลอดทั้ง 24 ชั่วโมง เพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ซึ่งเป็นพันธกิจของกระทรวงมหาดไทยในการ "บำบัดทุกข์ บำรุงสุข"" นายสุทธิพงษ์ฯ กล่าวในช่วงท้าย +#WorldSoilDay #วันดินโลก #UN #FAO #GlobalSoilPartnership #MOI #กระทรวงมหาดไทย #บำบัดทุกข์บำรุงสุข #SoilandWaterasourceoflife #SustainableSoilandWaterforbetterlife #ดินดีน้ำดีชีวีมีสุขอย่างยั่งยืน #SDGsforAll #ChangeforGood + +ที่มา : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/81073 \ No newline at end of file diff --git "a/data/2024/03/29/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\270\204\340\270\247\340\270\262\340\270\241\340\270\241\340\270\261\340\271\210\340\270\231\340\270\204\340\270\207_13_40c2710e-24e3-4050-ae64-e1291e4192e7.txt" "b/data/2024/03/29/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\270\204\340\270\247\340\270\262\340\270\241\340\270\241\340\270\261\340\271\210\340\270\231\340\270\204\340\270\207_13_40c2710e-24e3-4050-ae64-e1291e4192e7.txt" new file mode 100644 index 000000000..b80f126a2 --- /dev/null +++ "b/data/2024/03/29/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\270\204\340\270\247\340\270\262\340\270\241\340\270\241\340\270\261\340\271\210\340\270\231\340\270\204\340\270\207_13_40c2710e-24e3-4050-ae64-e1291e4192e7.txt" @@ -0,0 +1,18 @@ +รัฐบาลไทย-ข่าวทำเนียบรัฐบาล-ปลัดมหาดไทยปิดฝึกอบรมหลักสูตร CAST เน้นย้ำ คนมหาดไทยต้องทำงานให้เกิดประสิทธิผลมาก ประสิทธิภาพสูง พร้อมฝากคนมหาดไทยทุกคน สืบสาน รักษา และต่อยอด อุดมการณ์แห่งการบำบัดทุกข์ บำรุงสุข + + +วันศุกร์ที่ 29 มีนาคม 2567 +29/03/2567 +พิมพ์ +ปลัดมหาดไทยปิดฝึกอบรมหลักสูตร CAST เน้นย้ำ คนมหาดไทยต้องทำงานให้เกิดประสิทธิผลมาก ประสิทธิภาพสูง พร้อมฝากคนมหาดไทยทุกคน สืบสาน รักษา และต่อยอด อุดมการณ์แห่งการบำบัดทุกข์ บำรุงสุข +ปลัดมหาดไทยปิดฝึกอบรมหลักสูตร CAST เน้นย้ำ คนมหาดไทยต้องทำงานให้เกิดประสิทธิผลมาก ประสิทธิภาพสูง พร้อมฝากคนมหาดไทยทุกคน สืบสาน รักษา และต่อยอด อุดมการณ์แห่งการบำบัดทุกข์ บำรุงสุข ด้วยความมุ่งมั่นทำให้เกิดสิ่งที่ดีเพิ่มขึ้นอย่างไม่หยุดยั้ง +วันนี้ (29 มี.ค. 67) เวลา 13.30 น. ที่ห้องประชุมท่าอากาศยานบุรีรัมย์ อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานปิดโครงการอำเภอบำบัดทุกข์ บำรุงสุข แบบบูรณาการอย่างยั่งยืน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ซึ่งจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 25 - 29 มีนาคม 2567 ผ่านระบบ Zoom Meeting โดยมี นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการปกครอง นายขจร ศรีชวโนทัย อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น นายนฤชา โฆษาศิวิไลซ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ และนายประสพโชค อยู่สำราญ ที่ปรึกษาปลัดกระทรวงมหาดไทย ร่วมรับฟัง และถ่ายทอดสดไปยังศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชน รวมจำนวน 10 ศูนย์ ประกอบด้วย ศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนลำปาง พิษณุโลก อุดรธานี นครราชสีมา อุบลราชธานี สระบุรี นครนายก ชลบุรี เพชรบุรี และนครศรีธรรมราช ซึ่งกิจกรรมในช่วงบ่ายวันนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัด รองผู้ว่าราชการจังหวัด และปลัดจังหวัด จะได้ร่วมกันนำเสนอแผนการขับเคลื่อนโครงการอำเภอบำบัดทุกข์ บำรุงสุข แบบบูรณาการอย่างยั่งยืนในระดับพื้นที่ต่อไป +นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชปณิธานที่มุ่งมั่นในการทำให้ประเทศชาติมั่นคง ประชาชนมีความสุข แก้ไขในสิ่งผิด สืบสานในพระราชปณิธาน ภายใต้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งคนมหาดไทยในฐานะราชสีห์ผู้ภักดีต่อแผ่นดินที่มุ่งมั่นทำหน้าที่เป็นข้าราชการที่ดีในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีอุดมการณ์หลักในการบำบัดทุกข์ บำรุงสุข เพื่อแบ่งเบาพระราชภาระของพระองค์ท่าน ด้วยการบูรณาการร่วมกับภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วนสร้าง "ทีมอำเภอบำบัดทุกข์ บำรุงสุข แบบบูรณาการอย่างยั่งยืน" ทั้งนี้ โครงการอำเภอบำบัดทุกข์ บำรุงสุข แบบบูรณาการอย่างยั่งยืน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 มีวัตถุประสงค์สำคัญที่จะช่วยเสริมสร้างศักยภาพให้แก่นายอำเภอที่ได้รับการแต่งตั้งใหม่และผู้แทนภาคีเครือข่ายในพื้นที่ทุกภาคส่วนให้ได้รับการบ่มเพาะองค์ความรู้ และมีความเข้าใจในหลักการทรงงานและการพัฒนาประเทศตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เพื่อนำมาปรับใช้ในการปฏิบัติราชการและขยายผลเพื่อ "บำบัดทุกข์ บำรุงสุข" ให้แก่พี่น้องประชาชนในพื้นที่ +"ขอขอบคุณข้าราชการและภาคีเครือข่ายผู้เข้ารับการอบรมทุกคนที่มีความมุ่งมั่นตั้งใจเป็นตัวแทนของข้าราชการกระทรวงมหาดไทย และพี่น้องผู้ร่วมอุดมการณ์บำบัดทุกข์ บำรุงสุข ที่เข้ารับการฝึกอบรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้าราชการทุกคนมาฝึกอบรมด้วย Passion ในการบำบัดทุกข์ บำรุงสุข ทำให้อำนาจหน้าที่ (Function) ของแต่ละกรมประสบความสำเร็จ ไม่ใช่ทำพอเสร็จเฉพาะหน้า แต่เป็นการทำให้ประสบความสำเร็จที่ยั่งยืนอย่างเป็นรูปธรรม อีกทั้งเป็นการทำด้วยหัวใจ นอกเหนือจากการทำเพียงแต่เพราะเป็นหน้าที่ ยังผลให้งานบำบัดทุกข์ บำรุงสุของค์รวม ดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล ซึ่งคำว่า "การทำงานแบบมีประสิทธิผล" นั้น คือ การทำงานอย่างมีประสิทธิภาพด้วยการใช้ทรัพยากรให้น้อยที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง "เวลาและงบประมาณ" ส่วนการทำงานแบบมีประสิทธิภาพ คือ ทำงานให้ได้ประสิทธิผลดีในเวลาที่กำหนดหรือน้อยกว่าที่กำหนด ซึ่งเมื่อทำทั้งสองส่วนได้ผลดี จะทำให้เกิดประสิทธิผลมาก ประสิทธิภาพสูง จึงขอให้ทุกคนพึงระลึกเสมอว่า ต้องเป็นนักขับเคลื่อนยุทธศาสตร์นำการเปลี่ยนแปลงของกระทรวงมหาดไทย หรือที่เรียกโดยย่อว่า CAST (Change Agent for Strategic Transformation) โดยนำความรู้และประสบการณ์ต่าง ๆ ที่ได้รับจากการฝึกอบรม ไปต่อยอด ขยายผลแก่เพื่อนร่วมงาน ผู้ใต้บังคับบัญชา ตลอดจนภาคีเครือข่ายต่าง ๆ เพื่อการพัฒนาพื้นที่ของท่านต่อไป" นายสุทธิพงษ์ฯ กล่าวในช่วงต้น +นายสุทธิพงษ์ฯ กล่าวต่ออีกว่า พวกเราทุกคนในฐานะข้าราชการที่ดีในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะต้องช่วยกันสร้างสรรค์สิ่งที่ดีให้เกิดขึ้น และต้องทำทันที (Action Now) เพราะกรุงโรมไม่ได้สร้างเสร็จวันเดียวฉันใด กระทรวงมหาดไทยของพวกเราก็เช่นกัน ถ้าเรารักในองค์กร รักในพื้นที่ รักพี่น้องประชาชน เราต้องช่วยกันสร้างสรรค์ให้เกิดการบำบัดทุกข์ บำรุงสุข แบบบูรณาการอย่างยั่งยืนอย่างต่อเนื่อง เพราะงานเหล่านี้เป็นความภาคภูมิใจของพวกเราผู้เป็นที่คาดหวังของประชาชนในฐานะผู้บำบัดทุกข์ บำรุงสุข ซึ่งจุดแตกหักของการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตพี่น้องประชาชนอยู่ที่ "หมู่บ้าน" ดังนั้น สิ่งสำคัญ คือ เราต้องทำให้ทุกหมู่บ้านเป็น "หมู่บ้านยั่งยืน (Sustainable Village)" ครอบคลุมทั้ง 8 ตัวชี้วัด รวมถึงแนวทางการแก้ปัญหาต่าง ๆ ซึ่งการฝึกอบรมในครั้งนี้จะทำให้เกิด Socialization ทำให้พวกเราได้ทำหน้าที่เป็นข้าราชการที่ดีในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ด้วยการหมั่นลงพื้นที่ไปหาประชาชน ไม่ใช่ทำงานเป็นมนุษย์ออฟฟิศ ดังที่สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ประทานพระโอวาทว่า “ต้องรองเท้าสึกก่อนกางเกงขาด” หมั่นไปเยี่ยม ไปตรวจ ไปติดตาม ไปหาข้อมูล และต้องเตือนใจอยู่เสมอว่า “การทำงานไม่สักแต่ทำเสร็จ แต่ต้องทำให้สำเร็จ” +"การสร้างทีมที่ดี ต้องมี "ผู้นำ" ดึงภาคีเครือข่ายที่มีจิตอาสาเข้ามาร่วมกันทำงานด้วยเป้าหมายเดียวกัน คือ "เพื่อประชาชน" เราทุกคนทำหน่วยเดียวกรมเดียวไม่ได้ ต้องมี "ทีม" และจะมีทีมแค่ข้าราชการในหน่วยเดียวกันไม่ได้ ต้องเป็นทีมจาก 7 ภาคีเครือข่าย คือ ภาคราชการ ภาคผู้นำศาสนา ภาควิชาการ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม ภาคประชาชน และภาคสื่อสารมวลชน อันเป็นการน้อมนำหลักการทรงงาน "บวร บรม ครบ" คือ บ้าน วัด (ทุกศาสนา) และราชการ ที่เป็นหลักในการสร้างสันติสุข สร้างความผาสุกให้กับสังคมไทย ดัง MOU โครงการวัด ประชา รัฐ สร้างสุข ซึ่งได้รับเมตตาจากเจ้าประคุณสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ กรรมการมหาเถรสมาคม ประธานคณะกรรมการฝ่ายสาธารณูปการของมหาเถรสมาคม เพื่อสร้างสายสัมพันธ์ความร่วมแรงร่วมใจกันของวัด ชุมชน และภาคีเครือข่ายในท้องถิ่นด้วยอุดมการณ์ร่วมกัน คือ ศรัทธาปสาทะในบวรพระพุทธศาสนา และทำให้วัดเป็นสถานที่สัปปายะแก่ผู้เข้ามาพึ่งพา บำบัดทุกข์และเสริมสร้างความสุขทั้งแก่กายและใจ ซึ่งเป็นการแก้ไขปัญหาการ Disruption ทางความคิด วิถีชีวิต และสังคม" นายสุทธิพงษ์ฯ กล่าวเพิ่มเติม +นายสุทธิพงษ์ฯ ยังได้กล่าวอีกว่า ปัจจุบันเราอยู่ในโลกของการเปลี่ยนแปลงอย่างยิ่ง แต่ทว่าเป็นโชคดีของคนไทยทุกคนที่เมื่อปี พ.ศ. 2547 พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ได้พระราชทาน ส.ค.ส. ให้แก่ประชาชนไทย มีภาพแผนที่ประเทศไทยที่รอบ ๆ มีระเบิดอยู่ 4 ลูก มีความหมายว่าประเทศไทยอยู่ท่ามกลางความเสี่ยงของภัยพิบัติธรรมชาติ โรคระบาด วิกฤตเศรษฐกิจ และสงคราม และใน ส.ค.ส. พระราชทาน ได้เขียนตัวอักษรบนแผนที่ประเทศไทย “สามัคคีเป็นพลัง ค้ำจุนแผ่นดินไทย” และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ได้พระราชทานพระราชเสาวนีย์และแนวพระราชดำริเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต พัฒนาทักษะอาชีพของสตรีไทยและประชาชนชาวไทย ซึ่งนับเป็นความโชคดีของพวกเราที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชปณิธานอันแรงกล้าดังพระปฐมบรมราชโองการ "เราจะสืบสาน รักษา และต่อยอด และครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งอาณาราษฎรตลอดไป" และพระบรมราชโองการ "ประเทศชาติมั่นคง ประชาชนมีความสุข แก้ไขในสิ่งผิด สืบสานในพระราชปณิธาน ภายใต้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง" และสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานโครงการพระราชดำริที่ทรงสืบสาน รักษา และต่อยอด เช่น พระราชดำริการเสริมสร้างความมั่นคงด้านอาหาร เป็นต้น และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา พระราชทานโครงการพระดำริ "ผ้าไทยใส่ให้สนุก" และ "หมู่บ้านยั่งยืน (Sustainable Village)" ดังนั้น เมื่อเราทุกคนมาเป็นข้าราชการแล้วต้องมีอุดมการณ์อยากเป็นข้าราชการที่ดีในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มุ่งทำหน้าที่บำบัดทุกข์ บำรุงสุขให้กับประชาชน ทำงานสนองพระเดชพระคุณ โน้มตัวลงหาประชาชนดังเครื่องแบบสีกากีที่เป็นสีของดิน มีครุฑที่หมวก และเข็มขัดมีราชสีห์ที่คอ อันเป็นเครื่องหมายที่ว่า ข้าราชการกระทรวงมหาดไทยต้องเป็นผู้นำในการบำบัดทุกข์ บำรุงสุขให้กับประชาชน ต้องรองรับความทุกข์ยาก เพิ่มพูนความสุขให้เกิดขึ้นอย่างยั่งยืน และต้องป้องกันไม่ให้เกิดความทุกข์ขึ้นมาใหม่อย่างยั่งยืน ซึ่งทั้งหมดนี้จะเกิดขึ้นได้ต้องอยู่ที่ "คน" โดยคนมหาดไทยทุกคนต้องมีทัศนคติที่ดี มองโลกในแง่ดี ดึงเอาพลังจิต พลังใจ Passion และ Attitude ของตนเองที่อยากบำบัดทุกข์ บำรุงสุข มาผนวกกับ Knowledge และ Ability เพื่อให้เกิดพลังการทำงาน ซึ่งเมื่อเราทำได้แล้ว รังสีความปรารถนาดี ความเมตตา ความกรุณา ความปรารถนาดีที่อยากให้ประเทศชาติมีความมั่นคง อยากให้พี่น้องประชาชนมีความสุขมันจะแผ่ออกมาส่งผลไปถึงคนรอบข้างให้เขารู้สึกว่า "ข้าราชการคนนี้ดี" ซึ่งรังสีจะเกิดขึ้นได้ต้องเกิดจากจิตใจของเรา และ Passion อันแรงกล้ามารวมกันทำให้เรามีกำลังใจในการ Change for Good ให้สำนักงาน ครอบครัว และชุมชน ดังประกาศเจตนารมณ์เพื่อประเทศไทยที่ยั่งยืนกับสหประชาชาติประจำประเทศไทย ที่มุ่งทำให้ประเทศไทยได้รับการพัฒนาอย่างยั่งยืนตามเป้าหมาย SDGs ทั้ง 17 ข้อ ซึ่งเป็นเป้าหมายที่องค์การสหประชาชาติได้น้อมนำหลักการทรงงานของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร สะท้อนผ่าน 4,741 โครงการ มาเป็นหลักการสากลโลก พร้อมทั้งได้ทูลเกล้าฯ ถวายรางวัล “ความสำเร็จสูงสุดด้านการพัฒนามนุษย์” (UNDP Human Development Lifetime Achievement Award) ของโครงการพัฒนาแห่งองค์การสหประชาชาติ +นายสุทธิพงษ์ฯ กล่าวในช่วงท้ายว่า เราทุกคนต้องสร้างทีมที่มีใจ มีความรู้ ในการขับเคลื่อนการพัฒนาที่ยั่งยืนให้เกิดขึ้น ด้วยการช่วยกันสร้างความรัก ความศรัทธา ด้วยรังสีความดีที่แผ่ไปรอบข้าง แล้วดึงดูดเอาผู้คนจาก 7 ภาคีเครือข่ายมารวมตัวกันเป็นทีม ร่วมกันคิด ร่วมพูดคุยปรึกษาหารือ ร่วมทำ ร่วมรับประโยชน์ อย่างต่อเนื่อง ไม่ทำแบบไฟไหม้ฟาง ลงไปสร้างทีมทุกระดับ ตั้งแต่ระดับหมู่บ้าน ตำบล อำเภอ จังหวัด ให้มีความยั่งยืน ด้วยการไปทำให้เขารัก กระตุ้นปลุกเร้า และยุยงให้พี่น้องประชาชนรวมกลุ่มเป็นคุ้มบ้าน หย่อมบ้าน ป๊อกบ้าน กลุ่มบ้าน ด้วยการมุ่งเป้าพัฒนาที่คน เพื่อให้คนพัฒนาพื้นที่ พัฒนาชุมชน พัฒนาหมู่บ้าน ดูแลความปลอดภัย มีความรักสามัคคี เสริมสร้างความมั่นคงด้านอาหาร รักษาสิ่งแวดล้อม บริหารจัดการขยะ จัดทำถังขยะเปียกลดโลกร้อน ทำให้ลูกหลานได้รับการศึกษาทั้ง "พลศึกษา" ด้วยการบ่มเพาะทักษะการใช้ชีวิต รู้จักหุงข้าว ล้างจาน ทำกับข้าว เข้าวัด รู้จักเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ควบคู่กับ "ปัญญาศึกษา" คือ การศึกษาตามระบบ ตามหลักสูตรการศึกษา ทำให้คนในชุมชนมีการสืบสานศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี อันจะทำให้ทุกหมู่บ้านเป็น "หมู่บ้านยั่งยืน (Sustainable Village)" ท้ายนี้ ขอให้ทุกคนนำความรู้และประสบการณ์ที่ได้รับไปช่วยกันสร้างทีมให้มีจำนวนสมาชิกมากที่สุดเท่าที่จะมากได้ ไปสร้างระบบคุ้ม ป๊อก หย่อม บ้าน ให้เป็นรูปธรรม และสำหรับข้อเสนอในวันนี้ ตนหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะเป็นต้นไม้เเห่งปัญญา ช่วยทำให้ความคิดสร้างสรรค์ เกิดการต่อยอดเเละขยายต่อไปสู่การยกระดับคุณภาพชีวิตพี่น้องประชาชน สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ (SDGs) ทุกมิติ ทำให้เกิดสิ่งที่ดีเพิ่มขึ้นอย่างไม่หยุดยั้ง สร้างสรรค์สังคมแห่งความสุขที่ยั่งยืนไปด้วยกัน +#WorldSoilDay #วันดินโลก #UN #FAO #GlobalSoilPartnership #MOI #กระทรวงมหาดไทย #บำบัดทุกข์บำรุงสุข #SoilandWaterasourceoflife #SustainableSoilandWaterforbetterlife #ดินดีน้ำดีชีวีมีสุขอย่างยั่งยืน #SDGsforAll #ChangeforGood + +ที่มา : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/81074 \ No newline at end of file diff --git "a/data/2024/03/29/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\270\204\340\270\247\340\270\262\340\270\241\340\270\241\340\270\261\340\271\210\340\270\231\340\270\204\340\270\207_14_3d93dda2-4c7b-4df8-b244-5ca287a9023f.txt" "b/data/2024/03/29/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\270\204\340\270\247\340\270\262\340\270\241\340\270\241\340\270\261\340\271\210\340\270\231\340\270\204\340\270\207_14_3d93dda2-4c7b-4df8-b244-5ca287a9023f.txt" new file mode 100644 index 000000000..7d26e3a01 --- /dev/null +++ "b/data/2024/03/29/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\270\204\340\270\247\340\270\262\340\270\241\340\270\241\340\270\261\340\271\210\340\270\231\340\270\204\340\270\207_14_3d93dda2-4c7b-4df8-b244-5ca287a9023f.txt" @@ -0,0 +1,19 @@ +รัฐบาลไทย-ข่าวทำเนียบรัฐบาล-จังหวัดกาญจนบุรี และสุราษฎร์ธานี จัดพิธีมอบแบบลายผ้าพระราชทาน “ผ้าลายสิริวชิราภรณ์” “ผ้าลายชบาปัตตานี” และเครื่องหมายรับรองสินค้าแฟชั่นและหัตถกรรมพระราชทาน Sustainable Fashion + + +วันศุกร์ที่ 29 มีนาคม 2567 +29/03/2567 +พิมพ์ +จังหวัดกาญจนบุรี และสุราษฎร์ธานี จัดพิธีมอบแบบลายผ้าพระราชทาน “ผ้าลายสิริวชิราภรณ์” “ผ้าลายชบาปัตตานี” และเครื่องหมายรับรองสินค้าแฟชั่นและหัตถกรรมพระราชทาน Sustainable Fashion +จังหวัดกาญจนบุรี และสุราษฎร์ธานี จัดพิธีมอบแบบลายผ้าพระราชทาน “ผ้าลายสิริวชิราภรณ์” “ผ้าลายชบาปัตตานี” และเครื่องหมายรับรองสินค้าแฟชั่นและหัตถกรรมพระราชทาน “Sustainable Fashion: แฟชั่นแห่งความยั่งยืน” ให้แก่ช่างทอผ้า ผู้ผลิต ผู้ประกอบการ ไปถักทอฯ +จังหวัดกาญจนบุรี และสุราษฎร์ธานี จัดพิธีมอบแบบลายผ้าพระราชทาน “ผ้าลายสิริวชิราภรณ์” “ผ้าลายชบาปัตตานี” และเครื่องหมายรับรองสินค้าแฟชั่นและหัตถกรรมพระราชทาน “Sustainable Fashion : แฟชั่นแห่งความยั่งยืน” ให้แก่ช่างทอผ้า ผู้ผลิต ผู้ประกอบการ ไปถักทอผสมผสานกับลวดลายภูมิปัญญาพื้นถิ่นตามความคิดสร้างสรรค์ของศิลปิน เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 +วันนี้ (29 มี.ค. 67) นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา พระราชทานแบบลายผ้า “ผ้าลายสิริวชิราภรณ์” “ผ้าลายชบาปัตตานี” และเครื่องหมายรับรองสินค้าแฟชั่นและหัตถกรรมพระราชทาน “Sustainable Fashion : แฟชั่นแห่งความยั่งยืน” เพื่อมอบให้กับช่างทอผ้า และผู้ประกอบการผ้าไทย ทุกเทคนิค นำไปสร้างสรรค์ชิ้นงานเพื่อสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ สร้างคุณภาพชีวิตที่ดี ซึ่งกระทรวงมหาดไทยได้จัดพิธีมอบแบบลายผ้าพระราชทาน “ผ้าลายสิริวชิราภรณ์” “ผ้าลายชบาปัตตานี” และเครื่องหมายรับรองสินค้าแฟชั่นและหัตถกรรมพระราชทาน “Sustainable Fashion : แฟชั่นแห่งความยั่งยืน” ให้กับผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดทั่วประเทศ เมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2567 ณ The Athenee Hotel, a Luxury Collection Hotel แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ เพื่อมอบให้กับช่างทอผ้าทุกกลุ่ม ทุกเทคนิค เยาวชนคนรุ่นใหม่ และประชาชนคนไทยนำไปทอผ้า ผลิตผ้าตามอัตลักษณ์ภูมิปัญญาของแต่ละท้องถิ่นทั่วประเทศ +นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ในวันนี้ (29 มี.ค. 67) จังหวัดกาญจนบุรี และสุราษฎร์ธานี ได้จัดพิธีมอบแบบลายผ้าพระราชทานให้แก่ส่วนราชการ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเชิญไปมอบให้ช่างทอผ้า ผู้ผลิตและผู้ประกอบการผ้า ใช้ในการประกอบอาชีพ ดังนี้ +1. จังหวัดกาญจนบุรี ที่หอประชุมกำนันผู้ใหญ่บ้าน อำเภอเมืองกาญจนบุรี ร้อยโท ทศพล ไชยโกมินทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี เป็นประธานในพิธีมอบแบบลายผ้าพระราชทาน “ผ้าลายสิริวชิราภรณ์” “ผ้าลายชบาปัตตานี” และเครื่องหมายรับรองสินค้าแฟชั่นและหัตถกรรมพระราชทาน “Sustainable Fashion : แฟชั่นแห่งความยั่งยืน” ให้แก่หัวหน้าส่วนราชการ นายอำเภอทั้ง 13 อำเภอ กลุ่มทอผ้าของจังหวัดกาญจนบุรี จำนวน 20 ราย โดยมี ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดกาญจนบุรี ปลัดจังหวัดกาญจนบุรี นายอำเภอ หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ และกลุ่มทอผ้าจังหวัดกาญจนบุรี ร่วมพิธี +2. จังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่อาคารศูนย์กลางการประชุมสัมมนาภาคใต้ตอนบน ศาลากลางจังหวัดสุราษฎร์ธานี อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี นายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมด้วยนางดาเรศ จิตรัตน์ ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นประธานในพิธีมอบแบบลายผ้าพระราชทาน “ผ้าลายสิริวชิราภรณ์” “ผ้าลายชบาปัตตานี” และเครื่องหมายรับรองสินค้าแฟชั่นและหัตถกรรมพระราชทาน “Sustainable Fashion : แฟชั่นแห่งความยั่งยืน” ให้แก่นายอำเภอ หัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ช่างทอผ้า ผู้ประกอบการผ้าและงานหัตถกรรมในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี รวมทั้งสิ้น 70 ราย โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ นายอำเภอ ผู้ประกอบการผ้าและงานหัตถกรรมในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี และเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมพิธี +"นับเป็นพระกรุณาคุณอย่างหาที่สุดมิได้ เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2566 สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา เสด็จเป็นองค์ประธานเปิดโครงการ Silk Festival 2023 สู่การพัฒนาที่ยั่งยืน ณ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี พระราชทานเครื่องหมายรับรองสินค้าแฟชั่นและหัตถกรรมพระราชทาน "Sustainable Fashion : แฟชั่นแห่งความยั่งยืน" แก่ช่างทอผ้า ช่างหัตถกรรม ผู้ผลิต และผู้ประกอบการ ที่สร้างสรรค์ผืนผ้าและหัตถกรรม ด้วยขั้นตอนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ปลอดภัยต่อผู้สร้างสรรค์และผู้สวมใส่ ซึ่งเป็นการรับรองคุณภาพของผลิตภัณฑ์ที่ได้รับมาตรฐานสากล และเมื่อวันที่ 24 มกราคม 2567 เสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรนิทรรศการผ้าไทยและงานหัตถกรรมชุมชนภาคใต้ ณ แหล่งสมาคมนายทหารสัญญาบัตร กองบัญชาการกองพลทหารราบที่ 15 ค่ายสมเด็จพระสุริโยทัย อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี พระราชทานแบบลายผ้า "ผ้าลายชบาปัตตานี" เพื่อเป็นของขวัญแก่ช่างทอผ้า ช่างหัตถกรรม ผู้ผลิต ผู้ประกอบการชาวจังหวัดปัตตานี เพื่อสร้างอัตลักษณ์ สืบสานและต่อยอดภูมิปัญญาและงานหัตถศิลป์พื้นถิ่น ให้ดำรงคงอยู่คู่แผ่นดินไทย" นายสุทธิพงษ์ฯ กล่าว +นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวต่อไปอีกว่า อีกทั้งเมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2567 สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา เสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรนิทรรศการผ้าไทยและงานหัตถกรรมชุมชนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ณ หอประชุมไพรพะยอม มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี อำเภอเมืองอุบลราชธานี จังหวัดอุบลราชธานี จากนั้น เสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรนิทรรศการผ้าทอแบบโบราณ ณ บ้านคำปุน ตำบลคำน้ำแขบ อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี พระราชทานแบบลายผ้า "ผ้าลายสิริวชิราภรณ์" ซึ่งเป็นลายที่ได้ทรงศึกษาค้นคว้าลวดลายผืนผ้าจากทุกภูมิภาคทั่วประเทศ และทรงนำมาออกแบบลายพระราชทานเนื่องในปีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ครบ 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 โดยพระราชทานแบบตั้งต้นไว้ 4 ประเภท ได้แก่ ประเภทผ้ากาบบัว ประเภทผ้ายก จก บิด แพรวา ประเภทผ้ามัดหมี่ และประเภทผ้าบาติก ซึ่งสามารถนำลายพระราชทานหลัก ทั้ง 4 ประเภทนี้ไปถักทอผสมผสานกับลวดลายภูมิปัญญาพื้นถิ่นตามความคิดสร้างสรรค์ต่อไป +นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวในตอนท้ายว่า ในขณะนี้กระทรวงมหาดไทย นำโดยท่านผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง 76 จังหวัดและสมาคมแม่บ้านมหาดไทยได้ดำเนินการและขยายผลโครงการตามแนวพระดำริ "ผ้าไทยใส่ให้สนุก" ไปยังทั่วภูมิภาคของประเทศ เพื่อสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ที่มั่นคงอย่างต่อเนื่อง ยังผลให้ช่างทอผ้าช่างหัตถกรรม ผู้ผลิต ผู้ประกอบการมีคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้น ด้วยสำนึกพระกรุณาคุณที่ทรงมีต่อเหล่าปวงชนชาวไทย ขอน้อมนำแนวพระดำริในการสร้างคุณค่าให้ผลิตภัณฑ์ผ้าไทยสามารถก้าวสู่ระดับสากล เพื่อวิถีชุมชนที่ยั่งยืนด้วยการพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก สร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ที่มั่นคง อันยังประโยชน์ให้กับพี่น้องประชาชนทุกช่วงวัยได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน +#WorldSoilDay #วันดินโลก #UN #FAO #GlobalSoilPartnership #MOI #กระทรวงมหาดไทย #บำบัดทุกข์บำรุงสุข #SoilandWaterasourceoflife #SustainableSoilandWaterforbetterlife #ดินดีน้ำดีชีวีมีสุขอย่างยั่งยืน #SDGsforAll #ChangeforGood + +ที่มา : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/81075 \ No newline at end of file diff --git "a/data/2024/03/29/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\270\204\340\270\247\340\270\262\340\270\241\340\270\241\340\270\261\340\271\210\340\270\231\340\270\204\340\270\207_1_c6228e2e-8fa7-428b-b721-e55e1a3c4f1a.txt" "b/data/2024/03/29/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\270\204\340\270\247\340\270\262\340\270\241\340\270\241\340\270\261\340\271\210\340\270\231\340\270\204\340\270\207_1_c6228e2e-8fa7-428b-b721-e55e1a3c4f1a.txt" new file mode 100644 index 000000000..fa1534f0d --- /dev/null +++ "b/data/2024/03/29/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\270\204\340\270\247\340\270\262\340\270\241\340\270\241\340\270\261\340\271\210\340\270\231\340\270\204\340\270\207_1_c6228e2e-8fa7-428b-b721-e55e1a3c4f1a.txt" @@ -0,0 +1,13 @@ +รัฐบาลไทย-ข่าวทำเนียบรัฐบาล-ผู้ว่าฯ ชลบุรี สานพลังจิตอาสา เปิดกิจกรรม "จิตอาสาพัฒนา เอามื้อสามัคคี" สร้างนักขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ ตามโครงการอำเภอบำบัดทุกข์ บำรุงสุข แบบบูรณาการอย่างยั่งยืน + + +วันพฤหัสบดีที่ 28 มีนาคม 2567 +28/03/2567 +พิมพ์ +ผู้ว่าฯ ชลบุรี สานพลังจิตอาสา เปิดกิจกรรม "จิตอาสาพัฒนา เอามื้อสามัคคี" สร้างนักขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ ตามโครงการอำเภอบำบัดทุกข์ บำรุงสุข แบบบูรณาการอย่างยั่งยืน +ผู้ว่าฯ ชลบุรี สานพลังจิตอาสา เปิดกิจกรรม "จิตอาสาพัฒนา เอามื้อสามัคคี" สร้างนักขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ ตามโครงการอำเภอบำบัดทุกข์ บำรุงสุข แบบบูรณาการอย่างยั่งยืน ณ ศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนชลบุรี อำเภอเมืองชลบุรี จังหวัดชลบุรี +เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 28 มีนาคม 2567 ณ ศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนชลบุรี อำเภอเมืองชลบุรี จังหวัดชลบุรี นายธวัชชัย ศรีทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ในฐานะผู้อำนวยการ ศอ.จอส.พระราชทานจังหวัดชลบุรี เป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรม "จิตอาสาพัฒนา เอามื้อสามัคคี" ภายใต้โครงการอำเภอบำบัดทุกข์ บำรุงสุข แบบบูรณาการอย่างยั่งยืน รุ่นที่ 1 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 +สำหรับการจัดกิจกรรมในวันนี้ เป็นการดำเนินกิจกรรมของจิตอาสาพระราชทาน อาทิ ปลูกต้นไม้ บริเวณศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนชลบุรี เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล และน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เพื่อสืบสานพระราชปณิธาน โดยการน้อมนำแนวพระราชดำริ มาปฏิบัติให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม และร่วมมือร่วมใจกันทำความดี เพื่อประโยชน์ส่วนรวม โดยไม่หวังผลตอบแทน ด้วยความจงรักภักดีต่อชาติบ้านเมือง และจะสร้างสรรค์คุณประโยชน์แก่ประเทศชาติและประชาชน เพื่อสนองพระมหากรุณาธิคุณ อันหาที่สุดมิได้ +โดยโครงการอำเภอบำบัดทุกข์ บำรุงสุข แบบบูรณาการอย่างยั่งยืน(รุ่นที่ 1) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 จัดขึ้นในระหว่างวันที่ 25-29 มีนาคม 2567 มีกลุ่มเป้าหมาย อาทิ ข้าราชการ ผู้นำท้องที่และท้องถิ่น ผู้นำศาสนา ผู้นำเอกชนและประชาชน เข้าร่วมรวม 80 คน จาก 4 จังหวัด (จังหวัดจันทบุรี ฉะเชิงเทรา ชลบุรี และตราด) ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างนักขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ นำการเปลี่ยนแปลงที่เน้นการบูรณาการในระดับพื้นที่ ไปสู่การปฏิบัติให้เกิดผลสัมฤทธิ์ อย่างเป็นรูปธรรม และจัดให้มีกิจกรรม "จิตอาสาพัฒนา เอามื้อสามัคคี" ขึ้น เพื่อสร้างจิตสำนึกของข้าราชการและประชาชนในพื้นที่ให้เกิดความรักสามัคคีร่วมกันปกป้องสถาบันสำคัญของชาติ มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับหลักการทรงงานและการพัฒนาประเทศตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร สามารถนำมาปรับใช้ในการปฏิบัติราชการเพื่อ "บำบัดทุกข์ บำรุงสุข" ให้แก่พี่น้องประชาชนในพื้นที่ต่อไป + +ที่มา : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/81031 \ No newline at end of file diff --git "a/data/2024/03/29/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\270\204\340\270\247\340\270\262\340\270\241\340\270\241\340\270\261\340\271\210\340\270\231\340\270\204\340\270\207_2_7e24bfde-6078-41e8-b1ae-083c9a2a121a.txt" "b/data/2024/03/29/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\270\204\340\270\247\340\270\262\340\270\241\340\270\241\340\270\261\340\271\210\340\270\231\340\270\204\340\270\207_2_7e24bfde-6078-41e8-b1ae-083c9a2a121a.txt" new file mode 100644 index 000000000..f37113a47 --- /dev/null +++ "b/data/2024/03/29/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\270\204\340\270\247\340\270\262\340\270\241\340\270\241\340\270\261\340\271\210\340\270\231\340\270\204\340\270\207_2_7e24bfde-6078-41e8-b1ae-083c9a2a121a.txt" @@ -0,0 +1,16 @@ +รัฐบาลไทย-ข่าวทำเนียบรัฐบาล-พ่อเมืองตาก ขยายผลถ่ายทอดความรู้ประวัติศาสตร์ชาติไทยให้กับผู้ต้องขังเรือนจำกลางตาก พร้อมมุ่งมั่นเดินหน้าสร้างองค์ความรู้ประวัติศาสตร์ชาติไทยให้แก่เด็ก และเยาวชน + + +วันพฤหัสบดีที่ 28 มีนาคม 2567 +28/03/2567 +พิมพ์ +พ่อเมืองตาก ขยายผลถ่ายทอดความรู้ประวัติศาสตร์ชาติไทยให้กับผู้ต้องขังเรือนจำกลางตาก พร้อมมุ่งมั่นเดินหน้าสร้างองค์ความรู้ประวัติศาสตร์ชาติไทยให้แก่เด็ก และเยาวชน +พ่อเมืองตาก ขยายผลถ่ายทอดความรู้ประวัติศาสตร์ชาติไทยให้กับผู้ต้องขังเรือนจำกลางตาก พร้อมมุ่งมั่นเดินหน้าสร้างองค์ความรู้ประวัติศาสตร์ชาติไทยให้แก่เด็ก และเยาวชน เพื่อเสริมสร้างความรัก สามัคคี ทำให้ประเทศชาติมีความมั่นคงและยั่งยืนสืบไป +วันนี้ (28 มี.ค. 67) เวลา 09.00 น. ที่หอประชุมเรือนจำกลางตาก อำเภอเมืองตาก นายสมชัย กิจเจริญรุ่งโรจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก เป็นประธานเปิดโครงการอบรมถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ชาติไทยประจำท้องถิ่นของจังหวัดตากให้แก่ผู้ต้องขังเรือนจำกลางตาก โดยมี นางปิ่นมณี พฤกษ์มหาชัยกุล ผู้บัญชาการเรือนจำกลางตาก นายอำเภอเมืองตาก จ่าจังหวัดตาก พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่และผู้ต้องขัง จำนวน 300 คน เข้าร่วมโครงการ +นายสมชัย กิจเจริญรุ่งโรจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก กล่าวว่า จังหวัดตากมุ่งมั่นในการนำนโยบายของกระทรวงมหาดไทยในการส่งเสริมให้ประชาชนมีความภาคภูมิใจและธำรงรักษาไว้ซึ่งความเป็นชาติไทย ความจงรักภักดีต่อสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ผ่านการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ชาติไทย เพื่อสนองพระราชปณิธานในการ "สืบสาน รักษา และต่อยอด" ในการไปบอกเล่าเรื่องราวประวัติศาสตร์ชาติไทยให้กับลูกหลานของเรา ด้วยการน้อมนำพระราชดำรัสของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่พระราชทานเมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2551 ความว่า "เพราะเราจะพูดถึงความยิ่งใหญ่ของประเทศไทย ที่บรรพบุรุษของเราสละชีวิตมาเพื่อปกป้องผืนแผ่นดินมาด้วยเลือดเนื้อ ด้วยชีวิต แต่เสียดาย ....ไม่ให้เรียนประวัติศาสตร์แล้วนะ ..... ตอนที่ฉันเรียนอยู่ที่สวิตเซอร์แลนด์ ไม่มีประวัติศาสตร์อะไรเท่าไหร่ แต่เราก็ต้องเรียนประวัติศาสตร์ของสวิส แต่เมืองไทยนี่ บรรพบุรุษเลือดทาแผ่นดิน กว่าจะมาถึงที่ให้พวกเราอยู่ นั่งอยู่กันสบาย มีประเทศชาติ เรากลับไม่ให้เรียนประวัติศาสตร์ ..... อย่างที่อเมริกาถามไปเขาก็สอนประวัติศาสตร์บ้านเมืองเขา ที่ไหนประเทศไหน เขาก็สอน แต่ประเทศไทยไม่มี ไม่ทราบว่าแผ่นดินนี้ รอดไปอยู่จนบัดนี้เพราะใคร หรือว่ายังไงกัน อันนี้น่าตกใจ ชาวต่างประเทศยังไม่ค่อยทราบว่า นักเรียนไทยไม่มีการสอนประวัติศาสตร์ชาติเลย" ด้วยการไปถ่ายทอดเรื่องราวที่มีคุณค่าและเป็นประโยชน์ให้แก่ประชาชนทุกกลุ่ม ทุกช่วงวัย ให้ได้รับรู้ประวัติศาสตร์ชาติไทยและประวัติศาสตร์ท้องถิ่น ช่วยกันสืบทอดสิ่งที่เป็นวัฒนธรรมประเพณีอันดีงาม โดยไม่ทิ้งสิ่งที่เป็นรากเหง้าของคนไทย +นายสมชัย กิจเจริญรุ่งโรจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก กล่าวต่ออีกว่า โครงการอบรมถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ชาติไทยประจำท้องถิ่นของจังหวัดตากให้แก่ผู้ต้องขังเรือนจำกลางตากในครั้งนี้ มีกิจกรรมประกอบด้วย การรับชมวิดีทัศน์สรุปเนื้อหาประวัติศาสตร์ชาติไทย การบรรยายหัวข้อ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ความเป็นมาของชนชาติไทยและประวัติศาสตร์ท้องถิ่น ประวัติศาสตร์ชาติไทยและความเสียสละ และหัวข้อ เสาหลักและหลักการดำรงอยู่ได้ของชาติไทย โดยได้รับเกียรติจากวิทยากรที่ผ่านการฝึกอบรมเพื่อทำหน้าที่ผู้ถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ชาติไทยประจำท้องถิ่น หลักสูตรครูผู้สอนประวัติศาสตร์ชาติไทย ประกอบด้วย พระวินัยธรสามารถ ปุณณปุญโญ, นายศิริชัย เทียนทอง ข้าราชการบำนาญ, นายวัชระ มณีนิล ครูอาสาสมัครฯ สำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้จังหวัดตาก และนายอภิรักษ์ ม่วงเผือก ครู กศน. ตำบลวังหิน สำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้จังหวัดตาก มาเป็นวิทยากรบรรยายให้ความรู้ในครั้งนี้ +นายสมชัย กิจเจริญรุ่งโรจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก กล่าวเพิ่มเติมว่า โครงการนี้จะทำให้เกิดการสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ชาติไทย และตระหนักถึงคุณค่าของมรดกทางวัฒนธรรมที่บรรพบุรุษสั่งสมไว้ อันจะสร้างความภาคภูมิใจ และกระตุ้นความรู้สึกรักชาติ สร้างจิตสำนึกของคนในชาติให้มีความจงรักภักดี และธำรงรักษาไว้ซึ่งสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ตลอดจนเพื่อให้เจ้าหน้าที่ และผู้ต้องขังเรือนจำกลางตาก นำความรู้ที่ได้รับจากการศึกษาเรียนรู้ และทำความเข้าใจเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ชาติไทย ไปขยายผลให้เกิดความรักสามัคคี สร้างความปรองดองในสังคม และให้มีความตื่นรู้ถึงความสำคัญของสถาบันหลักของชาติ ต่อไป +"จังหวัดตากเป็นจังหวัดที่มีประวัติศาสตร์เก่าแก่นับเนื่องตั้งแต่สมัยกรุงสุโขทัย ที่มีความผูกพันกับสถาบันพระมหากษัตริย์และบรรพชน บรรพบุรุษผู้กล้าหาญของชาติไทยมาอย่างยาวนาน ซึ่งประชาชนคนตากในยุคปัจจุบันไม่หลงลืมบุญคุณของบรรพบุรุษผู้อุทิศและเสียสละชีพ เสียสละเลือดเนื้อเพื่อปกป้องผืนแผ่นดิน โดยคณะผู้บริหารจังหวัดตาก ตลอดจนหัวหน้าส่วนราชการ ยังคงมุ่งมั่นในการเสริมสร้างความรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ชาติไทยให้เข้าถึงประชาชนทุกกลุ่ม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเด็กและเยาวชน นักเรียน นักศึกษา เพื่อให้พวกเขาเหล่านั้นเกิดความภาคภูมิใจ ได้รับการบ่มเพาะในความเป็นไทย ทำให้พวกเขามีความรัก ความหวงแหนต่อแผ่นดินไทย และเติบโตเป็นพลเมืองที่ดีของประเทศชาติ ผู้มีแต่หัวใจรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ มีความรู้รักสามัคคี เอื้อเฟื้อแบ่งปันผู้อื่น อันจะยังผลทำให้ประเทศชาติมีความมั่นคงและยั่งยืนสืบไป" นายสมชัยฯ กล่าวในช่วงท้าย +#WorldSoilDay #วันดินโลก #UN #FAO #GlobalSoilPartnership #MOI #กระทรวงมหาดไทย #บำบัดทุกข์บำรุงสุข #SoilandWaterasourceoflife #SustainableSoilandWaterforbetterlife #ดินดีน้ำดีชีวีมีสุขอย่างยั่งยืน #SDGsforAll #ChangeforGood + +ที่มา : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/81032 \ No newline at end of file diff --git "a/data/2024/03/29/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\270\204\340\270\247\340\270\262\340\270\241\340\270\241\340\270\261\340\271\210\340\270\231\340\270\204\340\270\207_3_ebc9c072-511c-4da7-ba97-b1dc8284fbba.txt" "b/data/2024/03/29/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\270\204\340\270\247\340\270\262\340\270\241\340\270\241\340\270\261\340\271\210\340\270\231\340\270\204\340\270\207_3_ebc9c072-511c-4da7-ba97-b1dc8284fbba.txt" new file mode 100644 index 000000000..be1ea575e --- /dev/null +++ "b/data/2024/03/29/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\270\204\340\270\247\340\270\262\340\270\241\340\270\241\340\270\261\340\271\210\340\270\231\340\270\204\340\270\207_3_ebc9c072-511c-4da7-ba97-b1dc8284fbba.txt" @@ -0,0 +1,10 @@ +รัฐบาลไทย-ข่าวทำเนียบรัฐบาล-สำนักพระราชวัง ขอเชิญชวนประชาชนร่วมลงนามถวายพระพร + + +วันศุกร์ที่ 29 มีนาคม 2567 +สำนักพระราชวัง ขอเชิญชวนประชาชนร่วมลงนามถวายพระพร +สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา เจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธร มหาวชิราลงกรณวรราชภักดี สิริกิจการิณีพีรยพัฒน รัฐสีมาคุณากรปิยชาติ สยามบรมราชกุมารี +วันที่ ๒ เมษายน ๒๕๖๗ ผ่านระบบออนไลน์ ที่เว็บไซต์หน่วยราชการในพระองค์ www.royaloffice.th +ระหว่างวันที่ ๑ – ๓ เมษายน ๒๕๖๗ + +ที่มา : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/81036 \ No newline at end of file diff --git "a/data/2024/03/29/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\270\204\340\270\247\340\270\262\340\270\241\340\270\241\340\270\261\340\271\210\340\270\231\340\270\204\340\270\207_4_449455a1-29f0-481f-a4be-a391ccc090ca.txt" "b/data/2024/03/29/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\270\204\340\270\247\340\270\262\340\270\241\340\270\241\340\270\261\340\271\210\340\270\231\340\270\204\340\270\207_4_449455a1-29f0-481f-a4be-a391ccc090ca.txt" new file mode 100644 index 000000000..0bdc94c46 --- /dev/null +++ "b/data/2024/03/29/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\270\204\340\270\247\340\270\262\340\270\241\340\270\241\340\270\261\340\271\210\340\270\231\340\270\204\340\270\207_4_449455a1-29f0-481f-a4be-a391ccc090ca.txt" @@ -0,0 +1,8 @@ +รัฐบาลไทย-ข่าวทำเนียบรัฐบาล-ขั้นตอนการเกณฑ์ทหารกองเกิน + + +วันศุกร์ที่ 29 มีนาคม 2567 +ขั้นตอนการเกณฑ์ทหารกองเกิน +#กระทรวงกลาโหม #สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม #กองทัพไทย #กองบัญชาการกองทัพไทย #กองทัพบก #กองทัพเรือ #กองทัพอากาศ #ทหารบก #ทหารเรือ #ทหารอากาศ #เหล่าทัพ + +ที่มา : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/81057 \ No newline at end of file diff --git "a/data/2024/03/29/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\270\204\340\270\247\340\270\262\340\270\241\340\270\241\340\270\261\340\271\210\340\270\231\340\270\204\340\270\207_5_fc3be347-d580-42af-be12-48f41a981e82.txt" "b/data/2024/03/29/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\270\204\340\270\247\340\270\262\340\270\241\340\270\241\340\270\261\340\271\210\340\270\231\340\270\204\340\270\207_5_fc3be347-d580-42af-be12-48f41a981e82.txt" new file mode 100644 index 000000000..f3393a03a --- /dev/null +++ "b/data/2024/03/29/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\270\204\340\270\247\340\270\262\340\270\241\340\270\241\340\270\261\340\271\210\340\270\231\340\270\204\340\270\207_5_fc3be347-d580-42af-be12-48f41a981e82.txt" @@ -0,0 +1,16 @@ +รัฐบาลไทย-ข่าวทำเนียบรัฐบาล-​รมว.แรงงาน ดันเด็กจบใหม่ต้องมีงานทำทันที เปิดจ้างงานเพิ่มอีกกว่า 2,000 อัตรา 29 – 30 มี.ค. นี้ ที่สงขลา หนุนศูนย์กลางเศรษฐกิจท่องเที่ยวใต้ + + +วันศุกร์ที่ 29 มีนาคม 2567 +29/03/2567 +พิมพ์ +​รมว.แรงงาน ดันเด็กจบใหม่ต้องมีงานทำทันที เปิดจ้างงานเพิ่มอีกกว่า 2,000 อัตรา 29 – 30 มี.ค. นี้ ที่สงขลา หนุนศูนย์กลางเศรษฐกิจท่องเที่ยวใต้ +วันที่ 29 มีนาคม 2567 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มอบหมายนายสิรภพ ดวงสอดศรี ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงแรงงาน เป็นประธานในพิธีเปิดงานสร้างงาน และเส้นทางสู่อาชีพ ณ จังหวัดสงขลา +โดยมีนายสมชาย มรกตศรีวรรณ อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวรายงาน นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นิวัติ แก้วประดับ อธิการบดีมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์  นายหวันสฤษดิ์ หมัดอะหิน นักวิชาการแรงงานชำนาญการพิเศษ รักษาราชการแทน จัดหางานจังหวัดสงขลา พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการสังกัดกระทรวงแรงงานในจังหวัดสงขลา ให้การต้อนรับ ณ ศูนย์ประชุมนานาชาติฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี มหาวิทยาลัย +สงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา +นายสิรภพ ฯ เปิดเผยว่า เพื่อมุ่งสู่งาน 1 ล้านอัตรา ภายในปี 2567 ตามนโยบายท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กรมการจัดหางานเตรียมแผนเดินหน้าสู่เป้าหมายด้วย 4 กิจกรรมหลัก คือ 1.การจัดงาน JOB EXPO THAILAND 2024 มหกรรมหางานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศ 2.การเตรียมตำแหน่งงานว่างจากทั่วประเทศ ให้บริการประชาชนผ่านระบบออนไลน์ บนแพลตฟอร์ม “ไทยมีงานทำ” 3.การจัดนัดพบแรงงานย่อยทั่วประเทศ ใน 68 จังหวัด 10 เขตกรุงเทพมหานคร และ 4.การจัดงาน “สร้างงาน เส้นทางสู่อาชีพ” ใน 7 จังหวัดศักยภาพครอบคลุมทุกภาคทั่วประเทศไทย ได้แก่ 1.จังหวัดขอนแก่น 2.ลำปาง 3.พระนครศรีอยุธยา 4.พัทลุง 5.นครศรีธรรมราช 6.บุรีรัมย์ โดยที่ผ่านมามีผู้ให้ความสนใจการจัดงาน “สร้างงาน และเส้นทางสู่อาชีพ” ผ่านสื่อโซเชียลมีเดียมากกว่า 3 แสนคน ผู้เข้าร่วมงาน 13,309 คน ในจำนวนนี้มีผู้สมัครงานภายในงาน 2,248 คน และได้บรรจุงานทันที 1,343 คน คิดเป็นร้อยละ 59.74 และสุดท้ายครั้งที่ 7 ในจังหวัดสงขลา ศูนย์กลางการท่องเที่ยวภาคใต้ตอนล่างและเศรษฐกิจภาคใต้ ด้วยมูลค่าการค้าชายแดนสูงสุดของประเทศ แหล่งนิคมอุตสาหกรรมยางพารา และเขตเศรษฐกิจพิเศษ จึงทำให้สงขลาเป็นอีก 1 จังหวัดที่เหมาะสมอย่างยิ่งในการจัดงาน +ด้านนายสมชาย มรกตศรีวรรณ อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวว่า การจัดงานในครั้งนี้ เป็นความร่วมมือระหว่างจังหวัดสงขลาโดยสำนักงานจัดหางานจังหวัดสงขลาร่วมกับมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ที่ต้องการหางานได้พบและสมัครงานรวมทั้งสัมภาษณ์งานกับนายจ้าง สถานประกอบการโดยตรง กิจกรรมภายในงานยังเป็นการเปิดโลกทัศน์ และจุดประกายความคิดทางอาชีพ อาทิ การบรรยาย หัวข้อ “WHAT IS THE FUTURE OF +WORK” อาชีพสมัยใหม่ ยุค AI ครองเมือง นิทรรศการเรียนรู้เสมือนจริงและเส้นทางการเข้าสู่อาชีพ การให้คำปรึกษาและลงทะเบียนไปทำงานต่างประเทศ การรับสมัครงานพร้อมสัมภาษณ์งานจากนายจ้าง สถานประกอบการ บริษัทชั้นนำกว่า 80 บริษัท ตำแหน่งงานว่างกว่า 2,000 อัตรา อาทิ วิศวกรโรงงาน เจ้าหน้าที่การตลาดออนไลน์ พนักงานศูนย์กระจายสินค้า เจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคล พนักงานบัญชี พนักงานประจําร้าน พนักงานบริการลูกค้า พนักงานจัดเรียงสินค้า พนักงานทั่วไป เจ้าหน้าที่ธุรการ แคชเชียร์ เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมให้นักเรียน นักศึกษา วัยกําลังแรงงาน ผู้ว่างงาน ผู้ถูกเลิกจ้าง ผู้พิการที่พร้อมจะทํางาน ได้รู้จักโลกอาชีพและรับทราบแนวโน้มตลาดแรงงานในอนาคตทราบถึงความรู้ความสามารถและความถนัดของตนเอง ผ่านการทดลองปฏิบัติอาชีพอิสระจากผู้ประกอบอาชีพอิสระโดยตรง การหาไอเดียการทําธุรกิจแฟรนไชส์  ฟู๊ดทรัค +ทั้งนี้ ขอเชิญชวนคนหางาน นักเรียน นักศึกษา และประชาชน ที่สนใจหางาน ต้องการพัฒนาทักษะฝีมือ และหาไอเดียในการประกอบอาชีพเสริม มาพบกันในงาน "สร้างงาน และเส้นทางสู่อาชีพ @สงขลา” ในวันที่ 29 - 30 มีนาคม 2567 ตั้งแต่เวลา 09.00 - 16.00 น. โดยลงทะเบียนสมัครงานเพื่อความสะดวกได้ที่เว็บไซต์กรมการจัดหางาน e-Service.doe.go.th “ไทยมีงานทำ” หากต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อได้ที่ สำนักงานจัดหางานจังหวัดสงขลา โทร 0 7431 4845 หรือ 08 8587 1262 + +ที่มา : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/81058 \ No newline at end of file diff --git "a/data/2024/03/29/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\270\204\340\270\247\340\270\262\340\270\241\340\270\241\340\270\261\340\271\210\340\270\231\340\270\204\340\270\207_6_ce9f6875-f586-4c6c-83be-b3204bdba391.txt" "b/data/2024/03/29/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\270\204\340\270\247\340\270\262\340\270\241\340\270\241\340\270\261\340\271\210\340\270\231\340\270\204\340\270\207_6_ce9f6875-f586-4c6c-83be-b3204bdba391.txt" new file mode 100644 index 000000000..c8dca5db6 --- /dev/null +++ "b/data/2024/03/29/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\270\204\340\270\247\340\270\262\340\270\241\340\270\241\340\270\261\340\271\210\340\270\231\340\270\204\340\270\207_6_ce9f6875-f586-4c6c-83be-b3204bdba391.txt" @@ -0,0 +1,13 @@ +รัฐบาลไทย-ข่าวทำเนียบรัฐบาล-กรมการจัดหางาน ลงพื้นที่ไซต์ก่อสร้าง สุ่มตรวจเข้มแรงงานต่างชาติ 6 จังหวัด + + +วันศุกร์ที่ 29 มีนาคม 2567 +29/03/2567 +พิมพ์ +กรมการจัดหางาน ลงพื้นที่ไซต์ก่อสร้าง สุ่มตรวจเข้มแรงงานต่างชาติ 6 จังหวัด +อธิบดีกรมการจัดหางาน สั่งการสุ่มตรวจแรงงานต่างชาติทำงานผิดกฎหมาย รุกไซต์ก่อสร้าง - โรงงานรีไซเคิล เตือนไม่มีใบอนุญาตทำงาน มีโทษปรับ พร้อมส่งกลับประเทศโดยไม่มีข้อยกเว้น +นายสมชาย มรกตศรีวรรณ อธิบดีกรมการจัดหางาน เปิดเผยว่า ขณะนี้กรมการจัดหางานตั้งเป้าหมายกวาดล้างแรงงานต่างชาติทำงานผิดกฎหมายอย่างเข้มข้นโดยสั่งการให้กองทะเบียนจัดหางานกลางและคุ้มครองคนหางานลงพื้นที่สุ่มตรวจทั่วประเทศโดยไม่แจ้งล่วงหน้า พร้อมกับขอความร่วมมือไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดมอบหมายสำนักงานจัดหางานจังหวัดที่ประจำอยู่ทุกจังหวัดในประเทศไทย เร่งตรวจสอบคนต่างชาติที่เข้ามาทำงานผิดกฎหมายไม่มีใบอนุญาตทำงาน โดยเฉพาะที่แย่งอาชีพคนไทย และตรวจสอบสถานประกอบการ ควบคู่กับการประชาสัมพันธ์แนวทางขออนุญาตทำงานตามกฎหมาย ล่าสุด (วันที่ 22 – 27 มี.ค. 67) เจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบการทำงานของแรงงานต่างชาติและนายจ้างในพื้นที่ 6 จังหวัด ซึ่งได้รับแจ้งเบาะแส ว่ามีคนต่างด้าวลักลอบทำงานผิดกฎหมาย ประกอบด้วย จังหวัดปทุมธานี จังหวัดลำพูน จังหวัดตาก จังหวัดสุราษฎร์ธานี จังหวัดภูเก็ต และจังหวัดชุมพร โดยมุ่งเป้าไปที่ไซต์งานก่อสร้าง จากการตรวจสอบทั้งสิ้น 32 จุด พบนายจ้างคนไทยกระทำความผิด 5 ราย และแรงงานต่างชาติกระทำความผิด 39 คน จึงควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรในพื้นที่ที่เกี่ยวข้อง ดำเนินคดีในข้อหาเป็นคนต่างด้าวทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงานหรือทำงานนอกเหนือจากที่มีสิทธิ นอกจากนี้ยังพบแรงงานสัญชาติเมียนมาทำงานในไซต์งานก่อสร้าง 261 คน ทั้งหมดมีใบอนุญาตทำงานถูกต้องตามกฎหมาย ทั้งนี้ กรมการจัดหางานจะดำเนินการตรวจสอบเข้มงวดในทุกพื้นที่ จึงขอแจ้งเตือนนายจ้าง/สถานประกอบการ ให้จ้างคนต่างชาติที่มีใบอนุญาตทำงานถูกต้องตามกฎหมายเท่านั้น +“ตามพระราชกำหนดการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ. 2560 และที่แก้ไขเพิ่มเติม หากคนต่างด้าวฝ่าฝืนทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงานหรือทำงานนอกเหนือสิทธิ มีโทษปรับตั้งแต่ 5,000 – 50,000 บาท และถูกส่งกลับประเทศต้นทาง รวมทั้งไม่สามารถขอรับใบอนุญาตทำงานได้จนกว่าจะพ้นโทษมาแล้วเป็นระยะเวลา 2 ปีและข้อหาเป็นคนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต ส่วนนายจ้าง/สถานประกอบการที่รับคนต่างด้าวทำงานโดยที่คนต่างด้าวไม่มีใบอนุญาตทำงานหรือให้คนต่างด้าวทำงานนอกเหนือจากที่มีสิทธิจะทำได้ มีโทษปรับตั้งแต่ 10,000 – 100,000 บาท ต่อคนต่างด้าวที่จ้างหนึ่งคน หากกระทำผิดซ้ำต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับตั้งแต่ 50,000 – 200,000 บาท ต่อคนต่างด้าวที่จ้างหนึ่งคน และห้ามจ้างคนต่างด้าวทำงานเป็นเวลา 3 ปี” อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าว +ทั้งนี้ หากพบเห็นการจ้างคนต่างชาติทำงานโดยผิดกฎหมาย หรือพบคนต่างชาติลักลอบทำงานโดยผิดกฎหมาย สามารถแจ้งมาที่กองทะเบียนจัดหางานกลางและคุ้มครองคนหางาน กรมการจัดหางาน โทร. 0 2354 1729 หรือที่สำนักงานจัดหางานจังหวัดทุกจังหวัด สำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-10 หรือ ที่สายด่วนกระทรวงแรงงาน โทร.1506 กด 2 กรมการจัดหางาน หรือสายด่วนกรมการจัดหางาน โทร. 1694 + +ที่มา : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/81062 \ No newline at end of file diff --git "a/data/2024/03/29/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\270\204\340\270\247\340\270\262\340\270\241\340\270\241\340\270\261\340\271\210\340\270\231\340\270\204\340\270\207_7_830be2f3-ccdf-4ad1-ac94-c63829f9a9e8.txt" "b/data/2024/03/29/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\270\204\340\270\247\340\270\262\340\270\241\340\270\241\340\270\261\340\271\210\340\270\231\340\270\204\340\270\207_7_830be2f3-ccdf-4ad1-ac94-c63829f9a9e8.txt" new file mode 100644 index 000000000..3923f46bd --- /dev/null +++ "b/data/2024/03/29/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\270\204\340\270\247\340\270\262\340\270\241\340\270\241\340\270\261\340\271\210\340\270\231\340\270\204\340\270\207_7_830be2f3-ccdf-4ad1-ac94-c63829f9a9e8.txt" @@ -0,0 +1,23 @@ +รัฐบาลไทย-ข่าวทำเนียบรัฐบาล-จ.ตรัง นครศรีธรรมราช พัทลุง ภูเก็ต สงขลา และแม่ฮ่องสอน จัดพิธีมอบแบบลายผ้าพระราชทาน “ผ้าลายสิริวชิราภรณ์” “ผ้าลายชบาปัตตานี” และเครื่องหมายรับรองสินค้าแฟชั่นและหัตถกรรมพระราชทาน + + +วันศุกร์ที่ 29 มีนาคม 2567 +29/03/2567 +พิมพ์ +จ.ตรัง นครศรีธรรมราช พัทลุง ภูเก็ต สงขลา และแม่ฮ่องสอน จัดพิธีมอบแบบลายผ้าพระราชทาน “ผ้าลายสิริวชิราภรณ์” “ผ้าลายชบาปัตตานี” และเครื่องหมายรับรองสินค้าแฟชั่นและหัตถกรรมพระราชทาน +จังหวัดตรัง นครศรีธรรมราช พัทลุง ภูเก็ต สงขลา และแม่ฮ่องสอน จัดพิธีมอบแบบลายผ้าพระราชทาน “ผ้าลายสิริวชิราภรณ์” “ผ้าลายชบาปัตตานี” และเครื่องหมายรับรองสินค้าแฟชั่นและหัตถกรรมพระราชทาน “Sustainable Fashion: แฟชั่นแห่งความยั่งยืน” ให้ช่างทอผ้า ผู้ผลิต +จังหวัดตรัง นครศรีธรรมราช พัทลุง ภูเก็ต สงขลา และแม่ฮ่องสอน จัดพิธีมอบแบบลายผ้าพระราชทาน “ผ้าลายสิริวชิราภรณ์” “ผ้าลายชบาปัตตานี” และเครื่องหมายรับรองสินค้าแฟชั่นและหัตถกรรมพระราชทาน “Sustainable Fashion : แฟชั่นแห่งความยั่งยืน” ให้แก่ช่างทอผ้า ผู้ผลิต ผู้ประกอบการ ไปถักทอผสมผสานกับลวดลายภูมิปัญญาพื้นถิ่นตามความคิดสร้างสรรค์ของศิลปิน เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 +เมื่อวันที่ 28 มี.ค. 67 นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา พระราชทานแบบลายผ้า “ผ้าลายสิริวชิราภรณ์” “ผ้าลายชบาปัตตานี” และเครื่องหมายรับรองสินค้าแฟชั่นและหัตถกรรมพระราชทาน “Sustainable Fashion : แฟชั่นแห่งความยั่งยืน” เพื่อมอบให้กับช่างทอผ้า และผู้ประกอบการผ้าไทย ทุกเทคนิค นำไปสร้างสรรค์ชิ้นงานเพื่อสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ สร้างคุณภาพชีวิตที่ดี ซึ่งกระทรวงมหาดไทยได้จัดพิธีมอบแบบลายผ้าพระราชทาน “ผ้าลายสิริวชิราภรณ์” “ผ้าลายชบาปัตตานี” และเครื่องหมายรับรองสินค้าแฟชั่นและหัตถกรรมพระราชทาน “Sustainable Fashion : แฟชั่นแห่งความยั่งยืน” ให้กับผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดทั่วประเทศ เมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2567 ณ The Athenee Hotel, a Luxury Collection Hotel แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ เพื่อมอบให้กับช่างทอผ้าทุกกลุ่ม ทุกเทคนิค เยาวชนคนรุ่นใหม่ และประชาชนคนไทยนำไปทอผ้า ผลิตผ้าตามอัตลักษณ์ภูมิปัญญาของแต่ละท้องถิ่นทั่วประเทศ +นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ในวันนี้ (28 มี.ค. 67) จังหวัดตรัง นครศรีธรรมราช พัทลุง ภูเก็ต สงขลา และแม่ฮ่องสอน ได้จัดพิธีมอบแบบลายผ้าพระราชทานให้แก่ส่วนราชการ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเชิญไปมอบให้ช่างทอผ้า ผู้ผลิตและผู้ประกอบการผ้า ใช้ในการประกอบอาชีพ ดังนี้ +1. จังหวัดตรัง ที่อาคารอเนกประสงค์เทศบาลนครตรัง อำเภอเมืองตรัง นายทรงกลด สว่างวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง เป็นประธานในพิธีมอบแบบลายผ้าพระราชทาน “ผ้าลายสิริวชิราภรณ์” “ผ้าลายชบาปัตตานี” และเครื่องหมายรับรองสินค้าแฟชั่นและหัตถกรรมพระราชทาน “Sustainable Fashion : แฟชั่นแห่งความยั่งยืน” ให้แก่หัวหน้าส่วนราชการ ช่างทอผ้า ผู้ประกอบการผ้าและงานหัตถกรรมในพื้นที่จังหวัดตรัง รวมทั้งสิ้น 67 ราย โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ ช่างทอผ้า ผู้ประกอบการผ้าและงานหัตถกรรมในพื้นที่จังหวัดตรัง และเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมพิธี +2. จังหวัดนครศรีธรรมราช ที่ศาลาประชาคมโรงละคร องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครศรีธรรมราช นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นประธานในพิธีมอบแบบลายผ้าพระราชทาน “ผ้าลายสิริวชิราภรณ์” “ผ้าลายชบาปัตตานี” และเครื่องหมายรับรองสินค้าแฟชั่นและหัตถกรรมพระราชทาน “Sustainable Fashion : แฟชั่นแห่งความยั่งยืน” ให้แก่นายอำเภอทั้ง 23 อำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 5 แห่ง และกลุ่มผู้ผลิตผู้ประกอบการ จำนวน 32 กลุ่ม โดยมีรองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช หัวหน้าส่วนราชการ นายอำเภอ พัฒนาการอำเภอ เจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชน และสมาชิกชมรมแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดนครศรีธรรมราช ร่วมพิธี +3. จังหวัดพัทลุง ที่หอประชุมจังหวัดพัทลุง อำเภอเมืองพัทลุง นางนิศากร วิศิษฏ์สรอรรภ ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง เป็นประธานในพิธีมอบแบบลายผ้าพระราชทาน “ผ้าลายสิริวชิราภรณ์” “ผ้าลายชบาปัตตานี” และเครื่องหมายรับรองสินค้าแฟชั่นและหัตถกรรมพระราชทาน “Sustainable Fashion : แฟชั่นแห่งความยั่งยืน” ให้แก่หัวหน้าส่วนราชการ 12 ราย นายอำเภอทั้ง 11 อำเภอ ภาคเอกชน 2 ราย ผู้ประกอบการผ้าและหัตถกรรม 43 ราย รวมทั้งสิ้น 68 ราย โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ นายอำเภอ พัฒนาการอำเภอ เจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชน ผู้ประกอบการผ้าและหัตถกรรม และภาคเอกชน ร่วมพิธี +4. จังหวัดภูเก็ต ที่ห้องประชุมราไวย์ ชั้น 2 อาคาร R Phuket Hotel วิทยาลัยอาชีวศึกษาภูเก็ต อำเภอเมืองภูเก็ต นายโสภณ สุวรรณรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานในพิธีมอบแบบลายผ้าพระราชทาน “ผ้าลายสิริวชิราภรณ์” “ผ้าลายชบาปัตตานี” และเครื่องหมายรับรองสินค้าแฟชั่นและหัตถกรรมพระราชทาน “Sustainable Fashion : แฟชั่นแห่งความยั่งยืน” ให้แก่ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดภูเก็ต หัวหน้าส่วนราชการ นายอำเภอ พัฒนาการอำเภอ ประธานเครือข่าย OTOP อำเภอ ช่างทอผ้า ผู้ผลิตและผู้ประกอบการ OTOP ประเภทผ้าและเครื่องแต่งกาย ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต รวมทั้งสิ้น 51 ราย โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ นายอำเภอ และเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมพิธี +5. จังหวัดสงขลา ที่หอประชุมจังหวัดสงขลา นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธานในพิธีมอบแบบลายผ้าพระราชทาน “ผ้าลายสิริวชิราภรณ์” “ผ้าลายชบาปัตตานี” และเครื่องหมายรับรองสินค้าแฟชั่นและหัตถกรรมพระราชทาน “Sustainable Fashion : แฟชั่นแห่งความยั่งยืน” ให้แก่นายอำเภอทั้ง 16 อำเภอ กลุ่มสตรี สถานศึกษา และกลุ่มช่างทอผ้า ช่างหัตถกรรม ผู้ผลิตและผู้ประกอบการในพื้นที่ จำนวน 21 กลุ่ม โดยมีประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดสงขลา รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ปลัดจังหวัดสงขลา พัฒนาการจังหวัดสงขลา หัวหน้าส่วนราชการ นายอำเภอ กลุ่มทอผ้า และผู้ประกอบการ ร่วมพิธี +6. จังหวัดแม่ฮ่องสอน ที่ห้องประชุมสวนหมอกคำ รีสอร์ท อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน นายชูชีพ พงษ์ไชย ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นประธานในพิธีมอบแบบลายผ้าพระราชทาน “ผ้าลายสิริวชิราภรณ์” “ผ้าลายชบาปัตตานี” และเครื่องหมายรับรองสินค้าแฟชั่นและหัตถกรรมพระราชทาน “Sustainable Fashion : แฟชั่นแห่งความยั่งยืน” ให้แก่ช่างทอผ้า กลุ่มทอผ้า และผู้ผลิตผ้าทุกกลุ่ม โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และกลุ่มผู้ผลิตผ้า ร่วมพิธี +"นับเป็นพระกรุณาคุณอย่างหาที่สุดมิได้ เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2566 สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา เสด็จเป็นองค์ประธานเปิดโครงการ Silk Festival 2023 สู่การพัฒนาที่ยั่งยืน ณ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี พระราชทานเครื่องหมายรับรองสินค้าแฟชั่นและหัตถกรรมพระราชทาน "Sustainable Fashion : แฟชั่นแห่งความยั่งยืน" แก่ช่างทอผ้า ช่างหัตถกรรม ผู้ผลิต และผู้ประกอบการ ที่สร้างสรรค์ผืนผ้าและหัตถกรรม ด้วยขั้นตอนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ปลอดภัยต่อผู้สร้างสรรค์และผู้สวมใส่ ซึ่งเป็นการรับรองคุณภาพของผลิตภัณฑ์ที่ได้รับมาตรฐานสากล และเมื่อวันที่ 24 มกราคม 2567 เสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรนิทรรศการผ้าไทยและงานหัตถกรรมชุมชนภาคใต้ ณ แหล่งสมาคมนายทหารสัญญาบัตร กองบัญชาการกองพลทหารราบที่ 15 ค่ายสมเด็จพระสุริโยทัย อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี พระราชทานแบบลายผ้า "ผ้าลายชบาปัตตานี" เพื่อเป็นของขวัญแก่ช่างทอผ้า ช่างหัตถกรรม ผู้ผลิต ผู้ประกอบการชาวจังหวัดปัตตานี เพื่อสร้างอัตลักษณ์ สืบสานและต่อยอดภูมิปัญญาและงานหัตถศิลป์พื้นถิ่น ให้ดำรงคงอยู่คู่แผ่นดินไทย" นายสุทธิพงษ์ฯ กล่าว +นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวต่อไปอีกว่า อีกทั้งเมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2567 สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา เสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรนิทรรศการผ้าไทยและงานหัตถกรรมชุมชนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ณ หอประชุมไพรพะยอม มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี อำเภอเมืองอุบลราชธานี จังหวัดอุบลราชธานี จากนั้น เสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรนิทรรศการผ้าทอแบบโบราณ ณ บ้านคำปุน ตำบลคำน้ำแขบ อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี พระราชทานแบบลายผ้า "ผ้าลายสิริวชิราภรณ์" ซึ่งเป็นลายที่ได้ทรงศึกษาค้นคว้าลวดลายผืนผ้าจากทุกภูมิภาคทั่วประเทศ และทรงนำมาออกแบบลายพระราชทานเนื่องในปีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ครบ 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 โดยพระราชทานแบบตั้งต้นไว้ 4 ประเภท ได้แก่ ประเภทผ้ากาบบัว ประเภทผ้ายก จก บิด แพรวา ประเภทผ้ามัดหมี่ และประเภทผ้าบาติก ซึ่งสามารถนำลายพระราชทานหลัก ทั้ง 4 ประเภทนี้ไปถักทอผสมผสานกับลวดลายภูมิปัญญาพื้นถิ่นตามความคิดสร้างสรรค์ต่อไป +นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวในตอนท้ายว่า ในขณะนี้กระทรวงมหาดไทย นำโดยท่านผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง 76 จังหวัดและสมาคมแม่บ้านมหาดไทยได้ดำเนินการและขยายผลโครงการตามแนวพระดำริ "ผ้าไทยใส่ให้สนุก" ไปยังทั่วภูมิภาคของประเทศ เพื่อสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ที่มั่นคงอย่างต่อเนื่อง ยังผลให้ช่างทอผ้าช่างหัตถกรรม ผู้ผลิต ผู้ประกอบการมีคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้น ด้วยสำนึกพระกรุณาคุณที่ทรงมีต่อเหล่าปวงชนชาวไทย ขอน้อมนำแนวพระดำริในการสร้างคุณค่าให้ผลิตภัณฑ์ผ้าไทยสามารถก้าวสู่ระดับสากล เพื่อวิถีชุมชนที่ยั่งยืนด้วยการพัฒนาเศรษฐกิจกิจฐานราก สร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ที่มั่นคง อันยังประโยชน์ให้กับพี่น้องประชาชนทุกช่วงวัยได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน +#WorldSoilDay #วันดินโลก #UN #FAO #GlobalSoilPartnership #MOI #กระทรวงมหาดไทย #บำบัดทุกข์บำรุงสุข #SoilandWaterasourceoflife #SustainableSoilandWaterforbetterlife #ดินดีน้ำดีชีวีมีสุขอย่างยั่งยืน #SDGsforAll #ChangeforGood + +ที่มา : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/81067 \ No newline at end of file diff --git "a/data/2024/03/29/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\270\204\340\270\247\340\270\262\340\270\241\340\270\241\340\270\261\340\271\210\340\270\231\340\270\204\340\270\207_8_29f63a44-d31b-4cfd-bd87-d27045f52db9.txt" "b/data/2024/03/29/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\270\204\340\270\247\340\270\262\340\270\241\340\270\241\340\270\261\340\271\210\340\270\231\340\270\204\340\270\207_8_29f63a44-d31b-4cfd-bd87-d27045f52db9.txt" new file mode 100644 index 000000000..ffe23acc4 --- /dev/null +++ "b/data/2024/03/29/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\270\204\340\270\247\340\270\262\340\270\241\340\270\241\340\270\261\340\271\210\340\270\231\340\270\204\340\270\207_8_29f63a44-d31b-4cfd-bd87-d27045f52db9.txt" @@ -0,0 +1,15 @@ +รัฐบาลไทย-ข่าวทำเนียบรัฐบาล-ผู้ว่าฯ กรุงเก่า จับมือแม่บ้านมหาดไทย น้อมนำพระราชดำริกรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เป็น" ผู้นำต้องทำก่อน" แปลงพื้นที่เกาะกลางน้ำในจวนผู้ว่าฯ ขยายผลปลูกผักสวนครัว + + +วันศุกร์ที่ 29 มีนาคม 2567 +29/03/2567 +พิมพ์ +ผู้ว่าฯ กรุงเก่า จับมือแม่บ้านมหาดไทย น้อมนำพระราชดำริกรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เป็น" ผู้นำต้องทำก่อน" แปลงพื้นที่เกาะกลางน้ำในจวนผู้ว่าฯ ขยายผลปลูกผักสวนครัว +ผู้ว่าฯ กรุงเก่า จับมือแม่บ้านมหาดไทย น้อมนำพระราชดำริกรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เป็น" ผู้นำต้องทำก่อน" แปลงพื้นที่เกาะกลางน้ำในจวนผู้ว่าฯ ขยายผลปลูกผักสวนครัวอย่างต่อเนื่อง +วันนี้ (29 มี.ค. 67) เวลา 08.00 น. ที่บริเวณเกาะกลางน้ำ ภายในจวนผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา อำเภอพระนครศรียุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วย นางวัชราภรณ์ รุ่งสาคร ประธานชมรมแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นำหัวหน้าส่วนราชการและภาคีเครือข่าย น้อมนำแนวพระราชดำริของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี จัดกิจกรรมปลูกผักสวนครัว มอบต้นกล้าและแบ่งปันเมล็ดพันธุ์ผัก ขับเคลื่อนการปลูกผักสวนครัว เพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร โดยมี พัฒนาการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา หัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หน่วยงานภาคเอกชน ปราชญ์ด้านเกษตร อำเภอบางไทร และภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม +นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร กล่าวว่า จังหวัดพระนครศรีอยุธยาได้น้อมนําหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร สู่การปฏิบัติในระดับครัวเรือน พร้อมทั้งน้อมนําแนวพระราชดําริของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ด้านการเสริมสร้างความมั่นคงทางอาหาร ด้วยการปลูกพืชผักสวนครัว โดยดําเนินงาน 6 กระบวนงาน ได้แก่ 1) ผู้นําต้นแบบตัวอย่างที่เห็นจริง 2) ผู้นําต้องทำก่อน 3) นักพัฒนา 3 ประสาน กลไกการขับเคลื่อน 4) ทุกครัวเรือนคือคลังอาหาร ทุกหมู่บ้านคือศูนย์แบ่งปัน 5) ทักษะชีวิตวิถีใหม่ เยาวชนไทยสร้างอาหารเป็น 6) ถอดรหัสการพัฒนา : ชุมชนท้องถิ่นจัดการตนเองในการสร้างความมั่นคงทางอาหารอย่างยั่งยืน +นางวัชราภรณ์ รุ่งสาคร ประธานชมรมแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า ชมรมแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดพระนครศรีอยุธยา น้อมนำพระราชดำริด้านการเสริมสร้างความมั่นคงทางอาหารของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี "บ้านนี้มีรัก ปลูกผักกินเอง" และ "ทางนี้มีผล ผู้คนรักกัน" ขยายผลทำให้ทุกครัวเรือนมีพืชผักสวนครัวไว้บริโภค ร่วมกับจังหวัดพระนครศรีอยุธยาอย่างต่อเนื่อง โดยมีกลไกภาคีเครือข่ายเป็นกำลังที่สำคัญ นอกจากนี้ ยังได้นำนโยบายของสมาคมแม่บ้านมหาดไทยในด้านการดูแลสุขอนามัยเด็กและแม่ ด้วยการส่งเสริมให้เกิดการเลี้ยงไก่ไข่ เลี้ยงเป็ด เพื่อให้เด็กให้ได้รับสารอาหารครบถ้วน เพราะไข่ขาวจะให้โปรตีนเพื่อซ่อมแซมส่วนของร่างกายที่สึกหรอ ซึ่งจะช่วยให้ร่างกายของเด็กมีพัฒนาการที่ดีทุกเรื่อง ตลอดจนถึงในด้านสิ่งแวดล้อม ต้องทำให้คนในหมู่บ้านเป็นมนุษย์ 3Rs คือ ใช้น้อย (Reduce) ใช้ซ้ำ (Reuse) นำกลับมาใช้ใหม่ (Recycle) รู้จักการคัดแยกขยะ มีการจัดทำถังขยะเปียกลดโลกร้อน เพื่อให้เกิดจุลินทรีย์ไปเป็นสารบำรุงดินบำรุงพืชผักสวนครัวอีกด้วย +"สิ่งสำคัญที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยามุ่งเน้นในการขับเคลื่อนการดำเนินกิจกรรม คือ กลไก 7 ภาคีเครือข่าย ได้แก่ ภาคราชการ ภาคผู้นำศาสนา ภาควิชาการ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม ภาคประชาชน และภาคสื่อสารมวลชน และหลักการทรงงาน 4 ด้าน คือ ร่วมพูดคุย ร่วมคิด ร่วมทำ ร่วมรับประโยชน์ มาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาคีเครือข่ายภาคผู้นำศาสนา ซึ่งจังหวัดพระนครศรีอยุธยามีวัดในบวรพระพุทธศาสนาเป็นจำนวนมาก และได้รับเมตตาจากคณะสงฆ์เป็นผู้นำร่วมกับฝ่ายปกครองในการเสริมสร้างสิ่งที่ดีของชีวิตให้กับพี่น้องประชาชน ด้วยการรณรงค์ให้มีการปลูกผักสวนครัวทุกครัวเรือน เน้นการพึ่งตนเองและความสามัคคีของคนในชุมชน พร้อมทั้งต่อยอดและขยายผลอย่างต่อเนื่องให้เห็นผลเป็นรูปธรรม โดยในปี 2567 ได้มีการต่อยอดเป้าหมายการดำเนินการครัวเรือนปลูกผักสวนครัวอย่างน้อย 10 ชนิด ให้เต็มพื้นที่ครบทุกครัวเรือน ตามข้อมูลมาตรฐาน ThaiQM ของกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย พร้อมทั้งมีการรณรงค์ส่งเสริมการดำเนินกิจกรรม “บ้านนี้มีรัก ปลูกผักกินเอง” และ “ทางนี้มีผล ผู้คนรักกัน” ให้เต็มพื้นที่ 16 อำเภอ" นายนิวัฒน์ฯ กล่าวเพิ่มเติม +#WorldSoilDay #วันดินโลก #UN #FAO #GlobalSoilPartnership #MOI #กระทรวงมหาดไทย #บำบัดทุกข์บำรุงสุข #SoilandWaterasourceoflife #SustainableSoilandWaterforbetterlife #ดินดีน้ำดีชีวีมีสุขอย่างยั่งยืน #SDGsforAll #ChangeforGood + +ที่มา : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/81068 \ No newline at end of file diff --git "a/data/2024/03/29/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\270\204\340\270\247\340\270\262\340\270\241\340\270\241\340\270\261\340\271\210\340\270\231\340\270\204\340\270\207_9_88bfb088-180d-4bc0-9e51-75f35036650c.txt" "b/data/2024/03/29/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\270\204\340\270\247\340\270\262\340\270\241\340\270\241\340\270\261\340\271\210\340\270\231\340\270\204\340\270\207_9_88bfb088-180d-4bc0-9e51-75f35036650c.txt" new file mode 100644 index 000000000..963c5dda1 --- /dev/null +++ "b/data/2024/03/29/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\270\204\340\270\247\340\270\262\340\270\241\340\270\241\340\270\261\340\271\210\340\270\231\340\270\204\340\270\207_9_88bfb088-180d-4bc0-9e51-75f35036650c.txt" @@ -0,0 +1,15 @@ +รัฐบาลไทย-ข่าวทำเนียบรัฐบาล-อำเภอนาเชือก "กวาดบ้าน ล้างบ้าน" ตรวจปัสสาวะข้าราชการ พนักงาน ลูกจ้างของ อบต.3 แห่งในพื้นที่ รวม 139 คน ผลไม่พบสารเสพติดในร่างกาย นอภ.เน้นย้ำ ทุกฝ่ายเร่งเดินหน้าพุ่งเป้า Re X-Ray + + +วันศุกร์ที่ 29 มีนาคม 2567 +29/03/2567 +พิมพ์ +อำเภอนาเชือก "กวาดบ้าน ล้างบ้าน" ตรวจปัสสาวะข้าราชการ พนักงาน ลูกจ้างของ อบต.3 แห่งในพื้นที่ รวม 139 คน ผลไม่พบสารเสพติดในร่างกาย นอภ.เน้นย้ำ ทุกฝ่ายเร่งเดินหน้าพุ่งเป้า Re X-Ray +อำเภอนาเชือก "กวาดบ้าน ล้างบ้าน" ตรวจปัสสาวะข้าราชการ พนักงาน ลูกจ้างของ อบต.3 แห่งในพื้นที่ รวม 139 คน ผลไม่พบสารเสพติดในร่างกาย นายอำเภอ เน้นย้ำ ทุกฝ่ายเร่งเดินหน้าพุ่งเป้า Re X-Ray อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้คนไทยสามารถใช้ชีวิตในสังคมได้อย่างมีความสุข +อำเภอนาเชือก "กวาดบ้าน ล้างบ้าน" ตรวจปัสสาวะข้าราชการ พนักงาน ลูกจ้างของ อบต. 3 แห่งในพื้นที่ รวม 139 คน ผลไม่พบสารเสพติดในร่างกาย นายอำเภอ เน้นย้ำ ทุกฝ่ายเร่งเดินหน้าพุ่งเป้า Re X-Ray อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้คนไทยสามารถใช้ชีวิตในสังคมได้อย่างมีความสุข และปลอดภัยจากยาเสพติด +วันนี้ (29 มี.ค.67) พันจ่าโท ทองแดง ปินะเก นายอำเภอนาเชือก เปิดเผยว่า อำเภอนาเชือก จังหวัดมหาสารคาม ได้ดำเนินการขับเคลื่อน "ยุทธการมหาสารคาม เมืองปลอดภัยยาเสพติด 2567" กวาดบ้าน ล้างบ้าน โดยได้ทำการ Re X-Ray ค้นหาผู้ที่เกี่ยวข้องกับติดยาเสพติด ในพื้นที่อำเภอนาเชือก จังหวัดมหาสารคาม เพื่อเป็นการสนองนโยบาย Quick-win ของกระทรวงมหาดไทย ที่เน้นย้ำสั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัด และนายอำเภอทุกแห่ง “แยกปลา ออกจากน้ำ” ให้ความสำคัญกับการป้องกัน ปราบปรามผู้ค้า ควบคู่กับการรักษา และฟื้นฟูผู้ป่วยยาเสพติด เพื่อเร่งป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดที่เกิดขึ้นในสังคมไทย +พันจ่าโท ทองแดง ปินะเก นายอำเภอนาเชือก กล่าวว่า ตนในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดอำเภอนาเชือก ได้มอบหมายให้นางวรรณวดี โชติเศรณีกุล ปลัดอำเภอ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่งคง บูรณาการกำลังร่วมกับสมาชิกกองอาสารักษาดินแดนอำเภอนาเชือกที่ 8 เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลนาเชือก และเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ร่วมกันดำเนินการตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดในร่างกายของ ผู้บริหาร ข้าราชการ พนักงาน ลูกจ้าง สังกัด อบต.หนองกุง จำนวน 52 ราย อบต.หนองโพธิ์ จำนวน 46 ราย และ อบต.หนองเรือ จำนวน 41 ราย ผลการปฏิบัติ คือ ไม่พบผู้ที่มีสารเสพติดในร่างกาย +“จากการปฏิบัติการ กวาดบ้าน ล้างบ้าน ของอำเภอนาเชือกทั้งในพื้นที่ ตำบลหนองกุง ตำบลหนองโพธิ์ และ ตำบลหนองเรือนั้น ถือว่าเป็นเรื่องน่าชื่นชมยินดีอย่างยิ่ง ที่ข้าราชการ พนักงาน ตลอดจนถึงลูกจ้างทุกคนไม่มีสารเสพติดอยู่ในร่างกายแม้แต่คนเดียว ซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญในการรณรงค์ต่อต้านยาเสพติดทุกรูปแบบ และจะเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับเด็ก เยาวชน และสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนในอำเภอนาเชือกต่อไป ทั้งนี้ ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายที่ช่วยกันดำเนินภารกิจที่สำคัญนี้อย่างเข้มแข็ง และขอกำชับเจ้าหน้าที่ทุกคนให้เร่งเดินหน้าพุ่งเป้า Re X-Ray ในทุกพื้นที่อย่างต่อเนื่อง เพื่อกวาดล้างสิ่งผิดกฎหมาย อันจะทำให้สังคมมีความสงบเรียบร้อย เกิดสวัสดิภาพ พี่น้องประชาชนมีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน และที่ผ่านมาอำเภอนาเชือกได้บูรณาการทุกภาคส่วน “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข” รักษาความมั่นคงและความสงบเรียบร้อย เพื่อให้ทุกคนในสังคมได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข ทั้งนี้ ขอให้พี่น้องประชาชนทุกท่านช่วยเป็นหูเป็นตา ระแวดระวังบ้านเมืองของเรา หากพบเห็นเบาะแสการกระทำความผิดทุกรูปแบบ สามารถแจ้งข้อมูล และร้องเรียนร้องทุกข์ได้ที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอ สายด่วน 1567 โทรฟรีตลอด 24 ชั่วโมง” พันจ่าโท ทองแดงฯ กล่าวทิ้งท้าย +#กระทรวงมหาดไทย #บำบัดทุกข์บำรุงสุข + +ที่มา : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/81069 \ No newline at end of file diff --git "a/data/2024/03/29/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\270\252\340\270\261\340\270\207\340\270\204\340\270\241_1_17dae405-0370-4f4d-8775-31688448f9be.txt" "b/data/2024/03/29/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\270\252\340\270\261\340\270\207\340\270\204\340\270\241_1_17dae405-0370-4f4d-8775-31688448f9be.txt" new file mode 100644 index 000000000..eb6d6aadc --- /dev/null +++ "b/data/2024/03/29/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\270\252\340\270\261\340\270\207\340\270\204\340\270\241_1_17dae405-0370-4f4d-8775-31688448f9be.txt" @@ -0,0 +1,15 @@ +รัฐบาลไทย-ข่าวทำเนียบรัฐบาล-สธ. - ก.ดิจิทัลฯ พัฒนาระบบคลาวด์กลางจัดเก็บชุดข้อมูลสุขภาพประชาชนไว้บนระบบเดียวกัน รับบริการสะดวก รวดเร็ว พร้อมความปลอดภัยไซเบอร์มาตรฐานสากล ISO 27001 + + +วันศุกร์ที่ 29 มีนาคม 2567 +สธ. - ก.ดิจิทัลฯ พัฒนาระบบคลาวด์กลางจัดเก็บชุดข้อมูลสุขภาพประชาชนไว้บนระบบเดียวกัน รับบริการสะดวก รวดเร็ว พร้อมความปลอดภัยไซเบอร์มาตรฐานสากล ISO 27001 +กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พัฒนาระบบคลาวด์กลางด้านสาธารณสุข เชื่อมต่อชุดข้อมูลสุขภาพของประชาชนทั้งประเทศไว้บนระบบเดียวกัน ช่วยให้ประชาชนเข้าถึงข้อมูลสุขภาพตนเองและเข้ารับบริการได้สะดวกรวดเร็ว +กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พัฒนาระบบคลาวด์กลางด้านสาธารณสุข เชื่อมต่อชุดข้อมูลสุขภาพของประชาชนทั้งประเทศไว้บนระบบเดียวกัน ช่วยให้ประชาชนเข้าถึงข้อมูลสุขภาพตนเองและเข้ารับบริการได้สะดวกรวดเร็ว สอดรับกับนโยบายยกระดับ 30 บาท รักษาได้ทุกที่ด้วยบัตรประชาชนใบเดียวของรัฐบาล พร้อมการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ป้องกันข้อมูลรั่วไหลและถูกโจรกรรม ตามมาตรฐานสากล ISO 27001 +วันนี้ (29 มีนาคม 2567) ที่ รร.เซ็นทารา แกรนด์ แอท เซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว กทม. นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (DES) ร่วมกันเปิดโครงการพัฒนาระบบคลาวด์กลางด้านสาธารณสุขของประเทศไทย โดยมี นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ศาสตราจารย์พิเศษ วิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายภุชพงค์ โนดไธสง เลขาธิการคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และคณะผู้บริหารพร้อมเจ้าหน้าที่ เข้าร่วมงาน +นายแพทย์ชลน่าน กล่าวว่า รัฐบาลภายใต้การนำของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง มีนโยบายเร่งผลักดันการพัฒนาระบบสุขภาพระดับชาติ เพิ่มขีดความสามารถด้านสาธารณสุข สร้างบทบาทของนวัตกรรมด้านสุขภาพ รวมถึงสร้างสภาพแวดล้อมและโครงสร้างพื้นฐานด้านสุขภาพดิจิทัล เพื่อให้ประชาชนทุกคน ทุกพื้นที่ มีโอกาสเข้าถึงบริการทางการแพทย์ได้อย่างเท่าเทียมกัน ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขมีการพัฒนาระบบสุขภาพดิจิทัลมาอย่างต่อเนื่อง ที่สำคัญคือ “แอปพลิเคชันหมอพร้อม” แพลตฟอร์มสุขภาพดิจิทัลที่มีผู้ใช้งานกว่า 25.4 ล้านคน รวมถึงการพัฒนาโรงพยาบาลในสังกัดให้เป็นโรงพยาบาลอัจฉริยะ นำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในการให้บริการ มีการเชื่อมต่อข้อมูลสุขภาพของประชาชนบนฐานข้อมูลที่มีความปลอดภัย ช่วยให้ประชาชนเข้ารับบริการได้อย่างสะดวก รวดเร็ว ลดการรอคอยและลดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง +นายแพทย์ชลน่านกล่าวต่อว่า สำหรับโครงการพัฒนาระบบคลาวด์กลางฯ ซึ่งเป็นความร่วมมือของกระทรวงสาธารณสุข โดยศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม โดยสำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ริเริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2565 เป้าหมายสำคัญ คือ การพัฒนาระบบบริหารจัดการข้อมูลสุขภาพของโรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขทั้งปฐมภูมิ ทุติยภูมิ ตติยภูมิ และส่วนกลาง ให้อยู่บนระบบเดียวกัน รวมทั้งยกระดับการทำงานหน่วยงานรัฐด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลที่ทันสมัย พร้อมระบบรักษาความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ตามมาตรฐานสากล ISO 27001 ช่วยป้องกันไม่ให้ข้อมูลรั่วไหลหรือถูกโจรกรรม และสามารถนำข้อมูลสำคัญมาวิเคราะห์เพื่อวางแผนในการบริหารจัดการด้านการแพทย์และสาธารณสุขของประเทศไทยได้อย่างเหมาะสม รวมทั้งยังรองรับการขับเคลื่อนนโยบายยกระดับ 30 บาท รักษาทุกที่ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว ที่ต้องมีการเชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพจากโรงพยาบาลภาครัฐ โรงพยาบาลเอกชน คลินิก ร้านยา ร้านแล็บที่เข้าร่วมโครงการ ทำให้ผู้ให้บริการทางการแพทย์ทราบข้อมูลสุขภาพชุดเดียวกัน เช่น ประวัติการแพ้ยา แพ้อาหาร การรักษาที่ผ่านมา ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ สามารถให้การรักษาผู้ป่วยได้อย่างเหมาะสม +ด้านนายประเสริฐ กล่าวว่า กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม โดยสำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สดช.) มุ่งมั่นที่จะพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเทคโนโลยีสมัยใหม่ ซึ่งระบบคลาวด์กลางด้านสาธารณสุขเป็นสิ่งสำคัญที่กระทรวงฯ มุ่งมั่นให้บริการแก่ประชาชน โดยจัดให้มีระบบคลาวด์กลาง GDCC เพื่อให้บริการด้านการประมวลผลและจัดเก็บข้อมูลที่ปลอดภัยสำหรับหน่วยงานภาครัฐ สนับสนุนบริการภาครัฐตามยุทธศาสตร์ชาติ ทั้งนี้ การพัฒนาระบบสารสนเทศแพลตฟอร์มกลางบนคลาวด์มีความสำคัญและจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับ รพ.สต.ทั่วประเทศ ที่ขาดแคลนบุคลากรด้านคอมพิวเตอร์และงบประมาณ ซึ่งระบบนี้จะได้รับการดูแล ปรับปรุงและพัฒนาจากหน่วยงานส่วนกลางแบบออนไลน์ เป็นการลงทุนสำหรับการพัฒนาและดูแลระบบที่มีต้นทุนต่ำ แต่สามารถเชื่อมโยงการดูแลสุขภาพทุกระดับ ระบบสารสนเทศจะมีระบบประมวลผลแบบกลุ่มเมฆ (Cloud Computing) ในรูปแบบ Private Cloud ที่มีความยืดหยุ่นในการใช้งาน มีการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ ช่วยลดงบประมาณให้กับภาครัฐในระยะยาวได้ โดยกระทรวงฯ จะดำเนินการจัดหา พัฒนา ดูแลระบบคลาวด์กลางสำหรับข้อมูลสุขภาพที่มีความปลอดภัย พร้อมกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล +“สดช. และ สธ. ในฐานะหน่วยงานรัฐผู้ดำเนินงานให้บริการโครงการคลาวด์กลาง เชื่อมั่นว่าระบบนี้จะเป็นประโยชน์อย่างมากต่อการดูแลสุขภาพของประชาชน และเป็นการขับเคลื่อนสู่ Health 4.0 อย่างเป็นระบบซึ่งโครงการนี้ไม่เพียงแค่เป็นการปรับปรุงการบริหารจัดการข้อมูลสุขภาพเท่านั้น แต่ยังเป็นการลงทุนที่สำคัญในการเดินหน้าของประเทศไทยสู่ Health 4.0 ที่จะช่วยสร้างพื้นที่ในการพัฒนาและส่งเสริมนวัตกรรมในด้านสุขภาพอย่างยั่งยืน” นายประเสริฐกล่าว +********************************************** 29 มีนาคม 2567 + +ที่มา : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/81045 \ No newline at end of file diff --git "a/data/2024/03/29/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\270\252\340\270\261\340\270\207\340\270\204\340\270\241_2_91ec50e0-fb49-4a9e-b120-1aa6c2820a85.txt" "b/data/2024/03/29/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\270\252\340\270\261\340\270\207\340\270\204\340\270\241_2_91ec50e0-fb49-4a9e-b120-1aa6c2820a85.txt" new file mode 100644 index 000000000..753468da4 --- /dev/null +++ "b/data/2024/03/29/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\270\252\340\270\261\340\270\207\340\270\204\340\270\241_2_91ec50e0-fb49-4a9e-b120-1aa6c2820a85.txt" @@ -0,0 +1,14 @@ +รัฐบาลไทย-ข่าวทำเนียบรัฐบาล-ดีอี-สาธารณสุข พัฒนาระบบคลาวด์กลางจัดเก็บชุดข้อมูลสุขภาพประชาชน รับบริการสะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย + + +วันศุกร์ที่ 29 มีนาคม 2567 +ดีอี-สาธารณสุข พัฒนาระบบคลาวด์กลางจัดเก็บชุดข้อมูลสุขภาพประชาชน รับบริการสะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย +ดีอี-สาธารณสุข พัฒนาระบบคลาวด์กลางจัดเก็บชุดข้อมูลสุขภาพประชาชน รับบริการสะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย +วันนี้ (29 มีนาคม 2567) นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) พร้อมด้วยนายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ร่วมกิจกรรมสัมมนาเปิดตัว Kick off ผลการพัฒนาระบบคลาวด์กลางด้านสาธารณสุข เชื่อมต่อแลกเปลี่ยนชุดข้อมูลสุขภาพของประชาชนทั้งประเทศ ด้วยความร่วมมือของ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม โดยสำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สดช) และกระทรวงสาธารณสุข ที่จะช่วยให้ประชาชนเข้าถึงข้อมูลสุขภาพตนเองและเข้ารับบริการได้สะดวกรวดเร็ว สอดรับกับนโยบายยกระดับ 30 บาทรักษาได้ทุกที่ด้วยบัตรประชาชนใบเดียวของรัฐบาล พร้อมการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ป้องกันข้อมูลรั่วไหลและถูกโจรกรรม ตามมาตรฐานสากล ISO 27001 โดยมี ศาสตราจารย์พิเศษวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงดิจิทัลฯ นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายภุชพงค์ โนดไธสง เลขาธิการคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และคณะผู้บริหาร พร้อมเจ้าหน้าที่ เข้าร่วมงาน ณ ห้องวิภาวดีบอลรูม โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ แอท เซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว +รมว.ดีอี หรือนายประเสริฐ กล่าวว่า กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม โดยสำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สดช.) มุ่งมั่นที่จะพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเทคโนโลยีสมัยใหม่ ซึ่งระบบคลาวด์กลางด้านสาธารณสุขเป็นสิ่งสำคัญที่กระทรวงฯ มุ่งมั่นให้บริการแก่ประชาชน โดยจัดให้มีระบบคลาวด์กลาง GDCCเพื่อให้บริการด้านการประมวลผลและจัดเก็บข้อมูลที่ปลอดภัยสำหรับหน่วยงานภาครัฐ สนับสนุนบริการภาครัฐ +ตามยุทธศาสตร์ชาติ ทั้งนี้ การพัฒนาระบบสารสนเทศแพลตฟอร์มกลางบนคลาวดีมีความสำคัญและจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับ รพ.สต.ทั่วประเทศ ที่ขาดแคลนบุคลากรด้านคอมพิวเตอร์และงบประมาณ ซึ่งระบบนี้จะได้รับการดูแล ปรับปรุง และพัฒนาจากหน่วยงานส่วนกลางแบบออนไลน์ เป็นการลงทุนสำหรับการพัฒนาและดูแลระบบที่มีต้นทุนต่ำ แต่สามารถชื่อมโยงการดูแลสุขภาพทุกระดับ ระบบสารสนเทศจะมีระบบประมวลผลแบบกลุ่มเมฆ (Cloud Computing) ในรูปแบบ Private Cloud ที่มีความยืดหยุ่นในการใช้งาน มีการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ ช่วยลดงบประมาณให้กับภาครัฐในระยะยาวได้ โดยกระทรวงฯ จะดำเนินการจัดหา พัฒนา ดูแลระบบคราวด์กลางสำหรับข้อมูลสุขภาพที่มีความปลอดภัย พร้อมกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล +"สดช. และ สธ. ในฐานะหน่วยงานรัฐผู้ดำเนินงานให้บริการโครงการคลาวด์กลาง เชื่อมั่นว่าระบบนี้จะเป็นประโยชน์อย่างมากต่อการดูแลสุขภาพของประชาชน และเป็นการขับเคลื่อนสู่ Health 4.0 อย่างเป็นระบบ ซึ่งโครงการนี้ไม่เพียงแค่เป็นการปรับปรุงการบริหารจัดการข้อมูลสุขภาพเท่านั้น แต่ยังเป็นการลงทุนที่สำคัญในการเดินหน้าของประเทศไทยสู่ Health 4.0 ที่จะช่วยสร้างพื้นที่ในการพัฒนาและส่งเสริมนวัตกรรมในด้านสุขภาพอย่างยั่งยืน" นายประเสริฐกล่าว +ด้านนายแพทย์ชลน่าน กล่าวว่า รัฐบาลภายใต้การนำของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง มีนโยบายเร่งผลักดันการพัฒนาระบบสุขภาพระดับชาติ เพิ่มขีดความสามารถด้านสาธารณสุขสร้างบทบาทของนวัตกรรมด้านสุขภาพ รวมถึงสร้างสภาพแวดล้อมและโครงสร้างพื้นฐานด้านสุขภาพดิจิทัล เพื่อให้ประชาชนทุกคน ทุกพื้นที่ มีโอกาสเข้าถึงบริการทางการแพทย์ใด้อย่างเท่าเทียมกัน ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขมีการพัฒนาระบบสุขภาพดิจิทัลมาอย่างต่อเนื่อง ที่สำคัญคือ "แอปพลิเคชันหมอพร้อม" แพลตฟอร์มสุขภาพดิจิทัลที่มีผู้ใช้งานกว่า 25.4 ล้านคน รวมถึงการพัฒนาโรงพยาบาลในสังกัดให้เป็นโรงพยาบาลอัจฉริยะ นำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในการให้บริการ มีการเชื่อมต่อข้อมูลสุขภาพของประชาชนบนฐานข้อมูลที่มีความปลอดภัยช่วยให้ประชาชนเข้ารับบริการได้อย่างสะดวก รวดเร็ว ลดการรอคอยและลดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง +---------------------------- + +ที่มา : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/81055 \ No newline at end of file diff --git "a/data/2024/03/29/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\270\252\340\270\261\340\270\207\340\270\204\340\270\241_3_4cc2d68e-5379-4ff6-ac96-5bd8ecedd051.txt" "b/data/2024/03/29/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\270\252\340\270\261\340\270\207\340\270\204\340\270\241_3_4cc2d68e-5379-4ff6-ac96-5bd8ecedd051.txt" new file mode 100644 index 000000000..5bbb0ff53 --- /dev/null +++ "b/data/2024/03/29/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\270\252\340\270\261\340\270\207\340\270\204\340\270\241_3_4cc2d68e-5379-4ff6-ac96-5bd8ecedd051.txt" @@ -0,0 +1,14 @@ +รัฐบาลไทย-ข่าวทำเนียบรัฐบาล-เพิ่มโอกาสเข้าถึงบริการสุขภาพของชาวกทม.ฝั่งตะวันออก “ชลน่าน” เปิด รพ.นพรัตนฯ คุ้มเกล้า ดูแล ปชช. เขตมีนบุรีและใกล้เคียงกว่า 8 หมื่นคน + + +วันศุกร์ที่ 29 มีนาคม 2567 +เพิ่มโอกาสเข้าถึงบริการสุขภาพของชาวกทม.ฝั่งตะวันออก “ชลน่าน” เปิด รพ.นพรัตนฯ คุ้มเกล้า ดูแล ปชช. เขตมีนบุรีและใกล้เคียงกว่า 8 หมื่นคน +รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดอาคาร รพ.นพรัตนราชธานี คุ้มเกล้า ตามนโยบาย 50 เขต 50 รพ. ดูแลประชาชน กทม. โซนตะวันออก ในเขตมีนบุรีและใกล้เคียง กว่า 8.8 หมื่นคน มีโรงพยาบาลนพรัตนราชธานี เป็นโรงพยาบาลรับส่งต่อ +รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดอาคาร รพ.นพรัตนราชธานี คุ้มเกล้า ตามนโยบาย 50 เขต 50 รพ. ดูแลประชาชน กทม. โซนตะวันออก ในเขตมีนบุรีและใกล้เคียง กว่า 8.8 หมื่นคน มีโรงพยาบาลนพรัตนราชธานี เป็นโรงพยาบาลรับส่งต่อ เริ่มดำเนินการตั้งแต่ ต.ค. 2566 ให้บริการผู้ป่วยนอก ทันตกรรม 8 คลินิกพิเศษเฉพาะทาง อุบัติเหตุและฉุกเฉิน เตรียมยกระดับเป็น รพ.ขนาด 120 เตียงต่อไป +วันนี้ (29 มีนาคม 2567) นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานเปิดโรงพยาบาลนพรัตนราชธานี คุ้มเกล้า เขตมีนบุรี กทม. พร้อมมอบโล่ประกาศเกียรติคุณแก่ผู้มีอุปการะคุณต่อโรงพยาบาล โดยมี นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายวิชาญ มีนชัยนันท์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข พญ.อัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมการแพทย์ คณะผู้บริหารร่วมงานและร่วมกันปลูกต้นไม้มงคล +นพ.ชลน่านกล่าวว่า การจัดสร้างโรงพยาบาล กทม. 50 เขต 50 โรงพยาบาลและปริมณฑล เป็นหนึ่งในนโยบายการดำเนินงานของกระทรวงสาธารณสุข ในปี 2567 เพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนสถานพยาบาลระดับทุติยภูมิในพื้นที่กทม. และเพิ่มการเข้าถึงบริการทางการแพทย์และสาธารณสุขของประชาชนที่อาศัยอยู่ในกทม. โดยจัดทำเป็นโรงพยาบาลขนาด 120 เตียง มีกรมการแพทย์ เป็นหน่วยงานหลักในการพัฒนาสถานบริการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ โดยก่อนหน้านี้ ได้ยกระดับโรงพยาบาลทหารอากาศ (สีกัน) ให้เป็นโรงพยาบาลเขตดอนเมือง มีโรงพยาบาลราชวิถี 2 (รังสิต)เป็นโรงพยาบาลรับส่งต่อดูแลประชาชนโซน กทม.ตอนเหนือ ส่วนโรงพยาบาลนพรัตนราชธานี คุ้มเกล้า ที่เปิดในวันนี้ จะดูแลประชาชนโซน กทม.ฝั่งตะวันออก คือ เขตมีนบุรีและพื้นที่ใกล้เคียง ประมาณ 88,000 คน ให้บริการคัดกรอง รักษา ผ่าตัดและดูแลกรณีอุบัติเหตุฉุกเฉินเบื้องต้น ช่วยให้ประชาชนเข้าถึงบริการสุขภาพที่ทั่วถึงเท่าเทียม และนำไปสู่การมีสุขภาพที่ดีของประชาชนในเขตเมือง +นพ.โอภาสกล่าวว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ที่ผ่านมา แสดงให้เห็นว่าระบบการดูแลรักษาพยาบาลของประชาชนในเขตเมืองยังไม่เพียงพอต่อความต้องการและไม่ครอบคลุมทุกพื้นที่ กระทรวงสาธารณสุขจึงขับเคลื่อนนโยบาย 50 เขต 50 โรงพยาบาลในพื้นที่ กทม.และปริมณฑล เพื่อให้เกิดระบบสาธารณสุขที่สามารถดูแลประชาชนในเขตเมืองโดยเบื้องต้นได้อย่างครบวงจร และลดภาระของโรงพยาบาลรัฐขนาดใหญ่ใน กทม. ที่มีภารกิจหลักในการดูแลรักษาผู้ป่วยโรคยุ่งยาก ซับซ้อน ที่รับส่งต่อมาจากทั่วประเทศ โดยโรงพยาบาลนพรัตนราชธานี คุ้มเกล้า เป็นหน่วยงานสังกัดกรมการแพทย์ ให้บริการดูแลรักษาผู้ป่วยระดับปฐมภูมิและทุติยภูมิ มีขนาดพื้นที่ 20 ไร่ ตั้งอยู่แขวงแสนแสบ เขตมีนบุรี ได้รับการอนุเคราะห์บริจาคที่ดินจาก นายชุมพล ปัทมานุช และ น.ส.วัชรกมล ปัทมานุช ดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จ เมื่อเดือนสิงหาคม 2562 +พญ.อัมพรกล่าวว่า ช่วงการระบาดอย่างหนักของโรคโควิด 19 ในปี 2564 โรงพยาบาลนพรัตนราชธานี คุ้มเกล้า ได้เปิดเป็นโรงพยาบาลสนามให้ความช่วยเหลือประชาชนกว่า 2,000 ราย หลังจากนั้นในปี 2565 ได้เริ่มเปิดเป็นหน่วยบริการปฐมภูมิ (Primary Care Cluster) ให้บริการผู้ป่วยนอกจนถึงปัจจุบัน รวมกว่า 4 หมื่นครั้ง โดยโรงพยาบาลฯ ประกอบด้วย 3 อาคาร ได้แก่ อาคาร 1 ให้บริการผู้ป่วยนอกและทันตกรรม มีคลินิกเฉพาะทาง 8 คลินิก เริ่มเปิดเมื่อเดือนตุลาคม 2566 อาคาร 2 ให้บริการเวชศาสตร์ฟื้นฟูสุขภาพด้วยกายภาพบำบัด เปิดให้บริการ เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2567 และอาคาร 3 ซึ่งเป็นอาคาร 4 ชั้น ชั้นแรกเปิดให้บริการผู้ป่วยอุบัติเหตุและฉุกเฉิน ชั้น 2 เปิดศูนย์ให้บริการฟอกไต และชั้น 3 - 4 จัดพื้นที่รองรับบริการผู้ป่วยใน 25 เตียง โดยมีโรงพยาบาลนพรัตนราชธานี เป็นโรงพยาบาลรับส่งต่อในระยะทาง 15 กิโลเมตร มีการจัดระบบสนับสนุน เช่น การตรวจวิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติการ ห้อง X-ray และอื่นๆ และมีแผนขยายศักยภาพเป็นโรงพยาบาลขนาด 120 เตียง เพื่อให้ประชาชนได้รับบริการทางการแพทย์ที่ทันสมัยอย่างทั่วถึงแบบใกล้บ้านใกล้ใจและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เป็นโรงพยาบาลในเขตเมืองเพื่อประชาชน (Decentralized and Connected) +********************************** 29 มีนาคม 2567 + +ที่มา : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/81064 \ No newline at end of file diff --git "a/data/2024/03/29/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\270\252\340\270\261\340\270\207\340\270\204\340\270\241_4_6edc9d3b-9cc1-482c-b7db-8d96dff63dbf.txt" "b/data/2024/03/29/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\270\252\340\270\261\340\270\207\340\270\204\340\270\241_4_6edc9d3b-9cc1-482c-b7db-8d96dff63dbf.txt" new file mode 100644 index 000000000..b73958fbe --- /dev/null +++ "b/data/2024/03/29/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\270\252\340\270\261\340\270\207\340\270\204\340\270\241_4_6edc9d3b-9cc1-482c-b7db-8d96dff63dbf.txt" @@ -0,0 +1,12 @@ +รัฐบาลไทย-ข่าวทำเนียบรัฐบาล-“ชลน่าน” ชื่นชมทีม Sky Doctor ช่วยผู้ป่วยจากอุบัติเหตุตกดอยภูคาจนปลอดภัย + + +วันศุกร์ที่ 29 มีนาคม 2567 +“ชลน่าน” ชื่นชมทีม Sky Doctor ช่วยผู้ป่วยจากอุบัติเหตุตกดอยภูคาจนปลอดภัย +รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ชื่นชมทีม Sky Doctor เขตสุขภาพที่ 1 เข้าช่วยผู้ป่วยตกเขาในพื้นที่เขตอุทยานแห่งชาติดอยภูคา จ.น่าน มีอาการกระดูกซี่โครงหัก ทรวงอกผิดรูป ให้ได้เข้ารับการรักษาอย่างปลอดภัย และรวดเร็ว ใช้เวลาปฏิบัติการเพียง 3 ชั่วโมงเศษ +นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า กระทรวงสาธารณสุขมีการขับเคลื่อนนโยบายนักท่องเที่ยวปลอดภัย โดยนำประเด็นด้านสาธารณสุขมาช่วยสนับสนุนด้านการท่องเที่ยวเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจซึ่งหนึ่งในนั้นมีเรื่องทีมแพทย์ฉุกเฉินทางอากาศ (Sky Doctor) ที่ให้การดูแลช่วยเหลือผู้ป่วยในพื้นที่ห่างไกลมีอุปสรรคเรื่องการเดินทาง ซึ่งปัจจุบันจัดตั้งครบแล้วทั้ง 12 เขตสุขภาพทั่วประเทศ ล่าสุด ได้รับรายงานจากกองสาธารณสุขฉุกเฉินถึงการปฏิบัติงานทีม Sky Doctor ที่เข้าช่วยเหลือผู้ป่วยอุบัติเหตุพลัดตกเขาพื้นที่เขตอุทยานแห่งชาติดอยภูคา อ.สันติสุข จ.น่าน เมื่อวันที่ 27 มีนาคมที่ผ่านมา โดยเจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จ.น่าน แจ้งเหตุผ่านสายด่วน 1669 ว่า มีชายอายุ 58 ปี เข้าป่าและพลัดตกเขา สีข้างและอกขวากระแทกก้อนหินใหญ่ ทำให้กระดูกซี่โครงหักทรวงอกผิดรูป ไม่สามารถขยับตัวได้ ซึ่งจุดที่ผู้ป่วยอยู่เส้นทางเป็นภูเขาสูงชัน การเดินทางไปกลับต้องใช้เวลาประมาณ 10 ชั่วโมง แต่มีลานที่เฮลิคอปเตอร์สามารถลงจอดได้อยู่ห่างออกไปประมาณ 2 กิโลเมตร +นพ.ชลน่านกล่าวต่อว่า เจ้าหน้าที่งานอุบัติเหตุฉุกเฉินได้ประเมินอาการของผู้ป่วยพร้อมประสานให้การปฐมพยาบาลเบื้องต้น และประเมินสถานการณ์ด้านความปลอดภัยเพื่อส่งทีมแพทย์ฉุกเฉินเข้าพื้นที่ด้วยการลำเลียงทางอากาศ โดยทีมนักบินเครื่องเฮลิคอปเตอร์กรม ปภ. KA 32 - 03 จากเชียงราย และทีม Sky Doctor โรงพยาบาลน่าน ประกอบด้วยแพทย์ฉุกเฉิน พยาบาลวิชาชีพ และนักฉุกเฉินทางการแพทย์ พร้อมอุปกรณ์เครื่องมือแพทย์สำหรับช่วยชีวิตและรักษาพยาบาล ได้เดินทางเข้าสู่พื้นที่เกิดเหตุ โดยต้องเดินเท้าทางลาดชันไปยังจุดพื้นราบที่สามารถให้การรักษาพยาบาลได้ เพื่อให้การรักษาผู้ป่วยเบื้องต้น ก่อนเคลื่อนย้ายทางเท้าไปยังลานเฮลิคอปเตอร์ และลำเลียงทางอากาศถึงท่าอากาศยานน่านนคร โดยมีทีมรถ EMS รับป่วยส่งห้องฉุกเฉินโรงพยาบาลน่านให้การรักษาต่อไป ใช้เวลาปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ป่วยครั้งนี้ 3 ชั่วโมง 10 นาที +“กรณีดังกล่าวสะท้อนถึงความสำเร็จของทีม Sky Doctor ที่เกิดจากความร่วมมือของทุกภาคส่วน ทำให้ทีมแพทย์ฉุกเฉินสามารถเข้าไปรับตัวผู้ป่วยออกมาจากพื้นที่ห่างไกลเดินทางเข้าถึงได้ยาก มีการดูแลเบื้องต้นระหว่างทาง และนำส่งถึงโรงพยาบาลเพื่อทำการรักษาได้ด้วยความรวดเร็ว เกิดความปลอดภัยต่อชีวิต สร้างความมั่นใจให้แก่ประชาชนและนักท่องเที่ยวได้ว่าจะได้รับการดูแลเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินได้อย่างรวดเร็ว” นพ.ชลน่านกล่าว +*********************************** 29 มีนาคม 2567 + +ที่มา : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/81066 \ No newline at end of file diff --git "a/data/2024/03/29/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\271\200\340\270\250\340\270\243\340\270\251\340\270\220\340\270\201\340\270\264\340\270\210_10_b23a8615-58e0-4612-b040-ed185c2698d8.txt" "b/data/2024/03/29/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\271\200\340\270\250\340\270\243\340\270\251\340\270\220\340\270\201\340\270\264\340\270\210_10_b23a8615-58e0-4612-b040-ed185c2698d8.txt" new file mode 100644 index 000000000..29368a755 --- /dev/null +++ "b/data/2024/03/29/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\271\200\340\270\250\340\270\243\340\270\251\340\270\220\340\270\201\340\270\264\340\270\210_10_b23a8615-58e0-4612-b040-ed185c2698d8.txt" @@ -0,0 +1,10 @@ +รัฐบาลไทย-ข่าวทำเนียบรัฐบาล-ผช.รมว.กษ. เปิดงานรณรงค์การทำน้ำหมักชีวภาพคุณภาพสูง (สูตรไนโตรเจนสูง) + + +วันศุกร์ที่ 29 มีนาคม 2567 +ผช.รมว.กษ. เปิดงานรณรงค์การทำน้ำหมักชีวภาพคุณภาพสูง (สูตรไนโตรเจนสูง) +ผช.รมว.กษ. เปิดงานรณรงค์การทำน้ำหมักชีวภาพคุณภาพสูง (สูตรไนโตรเจนสูง) เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระเกียรติพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 +ดร.จอมขวัญ กลับบ้านเกาะ ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานเปิดโครงการรณรงค์การทำน้ำหมักชีวภาพจากปลาหมอสีคางดำ เพื่อแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาด เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 โดยมีผู้บริหารหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และส่วนราชการในพื้นที่ เข้าร่วม ณ วัดบ้านโคก ต.พันท้ายนรสิงห์ อ.เมืองสมุทรสาคร +ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรฯ โดยกรมพัฒนาที่ดิน ได้จัดโครงการรณรงค์ให้ประชาชนทำน้ำหมักชีวภาพจากปลาหมอสีคางดำ เพื่อแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาด เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา ครบ 6 รอบ มีการทำน้ำหมักชีวภาพจากปลาหมอสีคางดำ เพื่อให้มีการใช้ประโยชน์จากดินและที่ดินได้อย่างยั่งยืน และเพื่อช่วยเกษตรกรลดต้นทุนการผลิต รวมถึงเป็นการควบคุมกำจัดปลาหมอสีคางดำ สร้างความสมดุลระบบนิเวศในแหล่งน้ำธรรมชาติ ภายในบริเวณงานมีการจัดนิทรรศการด้านชีววิทยาของปลาหมอสีคางดำ และการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาด มีการสาธิตวิธีการทำน้ำหมักชีวภาพคุณภาพสูง (สูตรไนโตรเจนสูง) จากปลาหมอสีคางดำ และมีสินค้าเกษตรมาจำหน่ายในงานอีกด้วย + +ที่มา : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/81072 \ No newline at end of file diff --git "a/data/2024/03/29/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\271\200\340\270\250\340\270\243\340\270\251\340\270\220\340\270\201\340\270\264\340\270\210_1_7b8cef79-537a-4075-a6b5-fc42d3469760.txt" "b/data/2024/03/29/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\271\200\340\270\250\340\270\243\340\270\251\340\270\220\340\270\201\340\270\264\340\270\210_1_7b8cef79-537a-4075-a6b5-fc42d3469760.txt" new file mode 100644 index 000000000..188236a10 --- /dev/null +++ "b/data/2024/03/29/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\271\200\340\270\250\340\270\243\340\270\251\340\270\220\340\270\201\340\270\264\340\270\210_1_7b8cef79-537a-4075-a6b5-fc42d3469760.txt" @@ -0,0 +1,10 @@ +รัฐบาลไทย-ข่าวทำเนียบรัฐบาล-กรมทางหลวงชนบทเชิญชวนประชาชน “หนีร้อน ล่องกาญ” เที่ยวน้ำตกห้วยแม่ขมิ้น บนสายทางหลวงชนบท กจ.6043 จังหวัดกาญจนบุรี + + +วันศุกร์ที่ 29 มีนาคม 2567 +กรมทางหลวงชนบทเชิญชวนประชาชน “หนีร้อน ล่องกาญ” เที่ยวน้ำตกห้วยแม่ขมิ้น บนสายทางหลวงชนบท กจ.6043 จังหวัดกาญจนบุรี +.... +จังหวัดกาญจนบุรี เป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่มีสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลาย ทั้งเชิงประวัติศาสตร์ ธรรมชาติ และวัฒนธรรม ประชาชนสามารถเดินทางมาท่องเที่ยวได้ทุกฤดูกาล กรมทางหลวงชนบท (ทช.) กระทรวงคมนาคม จึงได้พัฒนาถนนเข้าสู่แหล่งท่องเที่ยวในจังหวัดกาญจนบุรี ตามนโยบายรัฐบาลและกระทรวงคมนาคม เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนอุตสาหกรรมท่องเที่ยวภายในประเทศ พร้อมสร้างรายได้ สร้างอาชีพให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในภูมิภาคให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ทช. จึงขอเชิญชวนประชาชน “หนีร้อน ล่องกาญ” เที่ยวน้ำตกห้วยแม่ขมิ้น อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ บนสายทางหลวงชนบท กจ.6043 น้ำตกเอราวัณ - น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น ตำบลท่ากระดาน อำเภอศรีสวัสดิ์ จังหวัดกาญจนบุรี เส้นทางดังกล่าวสามารถใช้สัญจรเข้าสู่แหล่งท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติเอราวัณ และอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ ซึ่งเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางมาเที่ยวที่อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ นอกจากจะเป็นเส้นทางที่นักท่องเที่ยวนิยมใช้เป็นเส้นทางสัญจรแล้ว ยังเป็นเส้นทางที่ใช้ขนส่งพืชผลทางการเกษตรตามฤดูกาลของจังหวัดกาญจนบุรีได้อีกด้วย +สำหรับการเดินทางเข้าสู่น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น จากตัวเมืองกาญจนบุรีประชาชนสามารถใช้ถนน ทล.3199 ตรงไปประมาณ 46 กิโลเมตร เลี้ยวซ้ายอีกประมาณ 2 กิโลเมตร จากนั้นเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนสาย กจ.6043 ตรงไปประมาณ 41 กิโลเมตร แล้วเข้าสู่อุทยานเขื่อนศรีนครินทร์ และน้ำตกห้วยแม่ขมิ้น ทั้งนี้ ประชาชนที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ โทร. 0 3454 0316 และสอบถามการเดินทางได้ที่แขวงทางหลวงชนบทกาญจนบุรี โทร. 0 3460 0597 + +ที่มา : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/81038 \ No newline at end of file diff --git "a/data/2024/03/29/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\271\200\340\270\250\340\270\243\340\270\251\340\270\220\340\270\201\340\270\264\340\270\210_2_8a8fc6e8-1164-4468-bc23-929cd6ac31b4.txt" "b/data/2024/03/29/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\271\200\340\270\250\340\270\243\340\270\251\340\270\220\340\270\201\340\270\264\340\270\210_2_8a8fc6e8-1164-4468-bc23-929cd6ac31b4.txt" new file mode 100644 index 000000000..8617d9de5 --- /dev/null +++ "b/data/2024/03/29/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\271\200\340\270\250\340\270\243\340\270\251\340\270\220\340\270\201\340\270\264\340\270\210_2_8a8fc6e8-1164-4468-bc23-929cd6ac31b4.txt" @@ -0,0 +1,12 @@ +รัฐบาลไทย-ข่าวทำเนียบรัฐบาล-หน่วยเฉพาะกิจพญานาคราชปฏิบัติการเชิงรุก แก้ไขปัญหาสินค้าสินค้าด้านพืชผิดกฎหมาย + + +วันศุกร์ที่ 29 มีนาคม 2567 +หน่วยเฉพาะกิจพญานาคราชปฏิบัติการเชิงรุก แก้ไขปัญหาสินค้าสินค้าด้านพืชผิดกฎหมาย +หน่วยเฉพาะกิจพญานาคราชปฏิบัติการเชิงรุก แก้ไขปัญหาสินค้าสินค้าด้านพืชผิดกฎหมาย +พันเอก รวิรักษ์ สัตตบุศย์ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจพญานาคราชเปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2567 +หน่วยเฉพาะกิจพญานาคราช กรมวิชาการเกษตร โดยนายชณาดล สัตธณภัทร หัวหน้าด่านตรวจพืชท่าเรือแหลมฉบัง นางสาวภิรมณ เจริญศรี หัวหน้าด่านตรวจพืชลาดกระบัง และนายชัยชนะ นุ่นเส้ง หัวหน้าด่านตรวจพืชท่าเรือกรุงเทพ ร่วมกันอายัดวัตถุอันตรายทางการเกษตรที่สำแดงการนำเข้าเป็นสาร GlufosinateAmmonium 15% W/V SL จำนวน 2 Shipment ปริมาณนำเข้ารวม 139,800 ลิตร ซึ่งกรมวิชาการเกษตรได้สุ่มตัวอย่างและตรวจสอบทางห้องปฏิบัติการแล้ว พบว่าเป็นสาร Glyphosate จำนวน 538 ถัง ปริมาณ 107,600 ลิตร คิดเป็นมูลค่า 12,105,000 บาท ซึ่งเป็นการกระทำความผิด ซุกซ่อน ลักลอบ ไม่เป็นไปตามข้อมูลสำแดงการนำเข้า และผิดเงื่อนไขการนำเข้า กรมวิชาการเกษตร +จึงได้รวบรวมข้อมูลหลักฐานเพื่อดำเนินการทางกฎหมาย และได้นำเสนอเป็นคดีพิเศษต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษแล้ว +นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2567หน่วยเฉพาะกิจพญานาคราช กรมวิชาการเกษตร นำโดยนายไกรสิงห์ ชูดี ผู้อำนวยการสำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 3 และนายอำนาจ รุ่งจรูญ รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการสารวัตรเกษตร สำนักควบคุมพืชและวัสดุการเกษตร ร่วมกับพันตำรวจโท จำรูญ คำมา ตำรวจกองกำกับการ 2 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค สนธิกำลังเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นสถานที่ผลิตปุ๋ยและวัตถุอันตรายทางการเกษตรที่ไม่ได้รับอนุญาต ในพื้นที่อำเภอเมืองขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น และสถานที่จำหน่ายในพื้นที่อำเภอนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์ พบการกระทำความผิด โดยพบผลิตภัณฑ์ที่มีความผิดตาม พ.ร.บ. ปุ๋ย พ.ศ. 2518 และที่แก้ไขเพิ่มเติม จำนวน 8 รายการ รวม 2,276.43 ลิตร และผลิตภัณฑ์ที่มีความผิดตาม พ.ร.บ. วัตถุอันตราย พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม จำนวน 3 รายการ รวม 530.22 ลิตร รวมทั้งสิ้น 2,806.65 คิดเป็นมูลค่า 13,700,000 บาท + +ที่มา : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/81040 \ No newline at end of file diff --git "a/data/2024/03/29/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\271\200\340\270\250\340\270\243\340\270\251\340\270\220\340\270\201\340\270\264\340\270\210_3_12805413-a80a-4839-a48a-720ffd81e027.txt" "b/data/2024/03/29/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\271\200\340\270\250\340\270\243\340\270\251\340\270\220\340\270\201\340\270\264\340\270\210_3_12805413-a80a-4839-a48a-720ffd81e027.txt" new file mode 100644 index 000000000..c970b2696 --- /dev/null +++ "b/data/2024/03/29/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\271\200\340\270\250\340\270\243\340\270\251\340\270\220\340\270\201\340\270\264\340\270\210_3_12805413-a80a-4839-a48a-720ffd81e027.txt" @@ -0,0 +1,12 @@ +รัฐบาลไทย-ข่าวทำเนียบรัฐบาล-เลขานุการรัฐมนตรีฯ ไพลิน ประชุมคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) ครั้งที่ 2/2567 + + +วันศุกร์ที่ 29 มีนาคม 2567 +29/03/2567 +พิมพ์ +เลขานุการรัฐมนตรีฯ ไพลิน ประชุมคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) ครั้งที่ 2/2567 +เลขานุการรัฐมนตรีฯ ไพลิน ประชุมคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) ครั้งที่ 2/2567 +วันที่ 28 มีนาคม 2567 นางสาวไพลิน เทียนสุวรรณ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เข้าร่วมการประชุมคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) ครั้งที่ 2/2567 โดยมี นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานคณะกรรมการฯ พร้อมด้วย ผู้บริหารหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วม ณ ห้องประชุมวิมวาทิตย์ อาคารสำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์ +โดยการประชุมฯ ในครั้งนี้ มีระเบียบวาระเรื่องเพื่อพิจารณา ได้แก่ รายงานประจำปี 2566 ของสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก โดยที่ประชุมฯ มีข้อเสนอเสนอให้เห็นชอบรายงานประจำปี 2566 ของ สกพอ. และมอบหมายให้ สกพอ. นำเสนอคณะรัฐมนตรี สภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา เพื่อทราบ ตามมาตรา 15 (5) แห่งพระราชบัญญัติฯ พ.ศ. 2561 ต่อไป การจัดตั้งเขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษ นิคมอุตสาหกรรมฉะเชิงเทรา บลูเทค ซิตี้ ที่ประชุมฯ มีข้อเสนอ ดังนี้ 1. เห็นชอบการประกาศกำหนดเขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษ นิคมอุตสาหกรรมฉะเชิงเทรา บลูเทค ซิตี้ พื้นที่ประมาณ 1,172 ไร่ 1 งาน 51.2 ตารางวา ตั้งอยู่บริเวณ ต.เขาดิน อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา เพื่อรองรับอุตสาหกรรมเป้าหมายพิเศษ ได้แก่ อุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ อุตสาหกรรมการบินและโลจิสติกส์อุตสาหกรรมดิจิทัล และอุตสาหกรรมการพัฒนาบุคลากรและการศึกษา 2. เมื่อคณะรัฐมนตรีได้รับทราบมติ กพอ. ในเรื่องนี้แล้ว มอบหมายให้เลขาธิการ กพอ. ในฐานะกรรมการและเลขานุการปฏิบัติหน้าที่แทนประธาน กพอ. ในการประกาศจัดตั้งเขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษฯ และประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป + +ที่มา : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/81041 \ No newline at end of file diff --git "a/data/2024/03/29/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\271\200\340\270\250\340\270\243\340\270\251\340\270\220\340\270\201\340\270\264\340\270\210_4_1286a9cb-7ed3-4caf-9799-098f02755c0e.txt" "b/data/2024/03/29/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\271\200\340\270\250\340\270\243\340\270\251\340\270\220\340\270\201\340\270\264\340\270\210_4_1286a9cb-7ed3-4caf-9799-098f02755c0e.txt" new file mode 100644 index 000000000..6b9ef3b8e --- /dev/null +++ "b/data/2024/03/29/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\271\200\340\270\250\340\270\243\340\270\251\340\270\220\340\270\201\340\270\264\340\270\210_4_1286a9cb-7ed3-4caf-9799-098f02755c0e.txt" @@ -0,0 +1,13 @@ +รัฐบาลไทย-ข่าวทำเนียบรัฐบาล-รองปลัดฯ ณัฏฐิญา ตรวจเยี่ยม สอจ.สุราษฎร์ธานี มุ่งอัพเกรดระบบ i-Auditor เพิ่มประสิทธิภาพ กำกับดูแลโรงงาน + + +วันศุกร์ที่ 29 มีนาคม 2567 +29/03/2567 +พิมพ์ +รองปลัดฯ ณัฏฐิญา ตรวจเยี่ยม สอจ.สุราษฎร์ธานี มุ่งอัพเกรดระบบ i-Auditor เพิ่มประสิทธิภาพ กำกับดูแลโรงงาน +รองปลัดฯ ณัฏฐิญา ตรวจเยี่ยม สอจ.สุราษฎร์ธานี มุ่งอัพเกรดระบบ i-Auditor เพิ่มประสิทธิภาพ กำกับดูแลโรงงาน สามารถเป็นหน่วยให้คำปรึกษาผู้ประกอบการเบื้องต้น พร้อมสนับสนุนและพัฒนาปัจจัยสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อการดำเนินธุรกิจ +จังหวัดสุราษฎร์ธานี : วันที่ 27 มีนาคม 2567 นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดสุราษฎร์ธานี (สอจ.สุราษฎร์ธานี) พร้อมประชุมติดตามการดําเนินโครงการรายงานการกํากับดูแลโรงงาน ผ่านระบบ i-Auditor พร้อมติดตามการดําเนินโครงการประจําปีงบประมาณ พ.ศ.2566 งบประมาณเบิกแทนกัน โดยมี นายวัชรินทร์ ไชยานุพงศ์ อุตสาหกรรมจังหวัดสุราษฎร์ธานี นายดุสิต อนันตรักษ์ ผู้อำนวยการศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร นายทินวัฒน์ แก้วสวี ผู้เชี่ยวชาญด้านนโยบายและยุทธศาสตร์ กองยุทธศาสตร์และแผนงาน สำนักงานปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม นางเปมิกา ปาลวัฒน์ นักวิชาการอุตสาหกรรมชำนาญการพิเศษ รักษาการในตำแหน่งนักวิเคราะห์นโยบายและแผนเชี่ยวชาญ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม คณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ เข้าร่วมประชุม ณ สํานักงานอุตสาหกรรมจังหวัดสุราษฎร์ธานี +นางสาวณัฏฐิญา กล่าวว่า กระทรวงอุตสาหกรรมให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาล มุ่งเน้นการส่งเสริมและพัฒนาอุตสาหกรรมอย่างยั่งยืน ควบคู่ไปกับการดูแลสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัยของประชาชน พร้อมอธิบายวิธีใช้งานระบบ i-Auditor แก่เจ้าหน้าที่ โดยระบบนี้เป็นระบบสารสนเทศสำหรับการตรวจกำกับดูแลสถานประกอบการ พัฒนาโดยกรมโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งระบบ i-Auditor จะช่วยให้การตรวจกำกับดูแลสถานประกอบการมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพิ่มความโปร่งใสในการตรวจสอบ ลดภาระงานของเจ้าหน้าที่ตรวจ และเพิ่มประสิทธิภาพในการติดตามผลการแก้ไข โดยเน้นย้ำให้ สอจ.สุราษฎร์ธานี นำระบบ i-Auditor มาใช้ในการตรวจสอบโรงงาน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน มุ่งสู่การขับเคลื่อนอุตสาหกรรมเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน +ทั้งนี้ การลงพื้นที่ในครั้งนี้ รองปลัดฯ ณัฏฐิญา ได้รับทราบข้อมูลเกี่ยวกับความคืบหน้าของโครงการต่าง ๆ ที่ได้รับงบประมาณเบิกแทนกัน ในการถ่ายทอดองค์ความรู้ผู้ประกอบการ พัฒนาผลิตภัณฑ์​ ให้คำปรึกษาแนะนำการดำเนินธุรกิจเบื้องต้น พร้อมสนับสนุนและพัฒนาปัจจัยสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อการดำเนินธุรกิจ รวมไปถึงรับฟังปัญหาและอุปสรรคในการดำเนินงานจากเจ้าหน้าที่โดยตรง โดยหวังว่าการประชุมและชี้แจงในครั้งนี้ จะช่วยให้เจ้าหน้าที่เข้าใจแนวทางการใช้ระบบ i-Auditor มากขึ้น และสามารถนำไปใช้ในการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ + +ที่มา : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/81042 \ No newline at end of file diff --git "a/data/2024/03/29/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\271\200\340\270\250\340\270\243\340\270\251\340\270\220\340\270\201\340\270\264\340\270\210_5_cfb0cd0d-1e9f-4a97-af97-6357227a8437.txt" "b/data/2024/03/29/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\271\200\340\270\250\340\270\243\340\270\251\340\270\220\340\270\201\340\270\264\340\270\210_5_cfb0cd0d-1e9f-4a97-af97-6357227a8437.txt" new file mode 100644 index 000000000..7622c3294 --- /dev/null +++ "b/data/2024/03/29/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\271\200\340\270\250\340\270\243\340\270\251\340\270\220\340\270\201\340\270\264\340\270\210_5_cfb0cd0d-1e9f-4a97-af97-6357227a8437.txt" @@ -0,0 +1,13 @@ +รัฐบาลไทย-ข่าวทำเนียบรัฐบาล-สำนักงานสลากฯ ร่วมลงนาม MOU ตามโครงการความร่วมมือการสนับสนุนสมาคมกีฬา จากหน่วยงานรัฐวิสาหกิจและภาคเอกชน + + +วันศุกร์ที่ 29 มีนาคม 2567 +29/03/2567 +พิมพ์ +สำนักงานสลากฯ ร่วมลงนาม MOU ตามโครงการความร่วมมือการสนับสนุนสมาคมกีฬา จากหน่วยงานรัฐวิสาหกิจและภาคเอกชน +สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการสนับสนุนสมาคมกีฬา จากหน่วยงานรัฐวิสาหกิจและภาคเอกชน เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาวงการกีฬาควบคู่ไปกับการผลักดันให้การกีฬาเป็น Soft Power ที่สำคัญของประเทศ +นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการสนับสนุนสมาคมกีฬา จากหน่วยงานรัฐวิสาหกิจและภาคเอกชน เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาวงการกีฬาควบคู่ไปกับการผลักดันให้การกีฬาเป็น Soft Power ที่สำคัญของประเทศ รวมถึงขยายการสนับสนุนให้ครบถ้วนครอบคลุมทุกสมาคมกีฬาแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2567 เวลา 10.00 น. ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล +การลงนามในวันนี้ ประกอบด้วยหน่วยงานผู้ให้การสนับสนุนทั้งสิ้น 38 หน่วยงาน มีสมาคมกีฬาแห่งประเทศไทยที่ได้รับการสนับสนุน จำนวน 87 สมาคม ทั้งนี้ การสนับสนุนจะดำเนินการอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 4 ปี เพื่อให้สมาคมกีฬาต่างๆ สามารถวางแผนการพัฒนาในระยะยาวได้อย่างเหมาะสม และก่อให้เกิดประโยซน์สูงสุดต่อการพัฒนาวงการกีฬาไทย +ในการนี้ สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล โดย พันโท หนุน ศันสนาคม ผู้อำนวยการ ได้ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงในการสนับสนุน 8 สมาคมกีฬา ประกอบด้วย  สมาคมกีฬาเจ็ตสกีแห่งประเทศไทย สมาคมกีฬาปีนหน้าผาแห่งประเทศไทย สมาคมกีฬาเบสบอลแห่งประเทศไทย  สมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทย สมาคมกีฬาคนตาบอดแห่งประเทศไทย สมาคมกีฬาคนหูหนวกแห่งประเทศไทย สมาคมกีฬาคนพิการทางปัญญาแห่งประเทศไทย  และสมาคมกีฬาฟิกเกอร์และสปีดสเก็ตติ้งแห่งประเทศไทย + +ที่มา : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/81047 \ No newline at end of file diff --git "a/data/2024/03/29/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\271\200\340\270\250\340\270\243\340\270\251\340\270\220\340\270\201\340\270\264\340\270\210_6_79793fe8-dadd-4ec6-8e2c-75a0915d6f90.txt" "b/data/2024/03/29/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\271\200\340\270\250\340\270\243\340\270\251\340\270\220\340\270\201\340\270\264\340\270\210_6_79793fe8-dadd-4ec6-8e2c-75a0915d6f90.txt" new file mode 100644 index 000000000..2ef2a1579 --- /dev/null +++ "b/data/2024/03/29/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\271\200\340\270\250\340\270\243\340\270\251\340\270\220\340\270\201\340\270\264\340\270\210_6_79793fe8-dadd-4ec6-8e2c-75a0915d6f90.txt" @@ -0,0 +1,14 @@ +รัฐบาลไทย-ข่าวทำเนียบรัฐบาล-ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ลงนาม MOU กับ สมาคมกีฬาเทควันโดแห่งประเทศไทย ดำเนินการตามนโยบายรัฐบาล อัดฉีดเม็ดเงินสนับสนุนสมาคมกีฬา ดันนักกีฬาไทยสร้างผลงานและชื่อเสียงให้ประเทศชาติ + + +วันศุกร์ที่ 29 มีนาคม 2567 +29/03/2567 +พิมพ์ +ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ลงนาม MOU กับ สมาคมกีฬาเทควันโดแห่งประเทศไทย ดำเนินการตามนโยบายรัฐบาล อัดฉีดเม็ดเงินสนับสนุนสมาคมกีฬา ดันนักกีฬาไทยสร้างผลงานและชื่อเสียงให้ประเทศชาติ +ธอส. และสมาคมกีฬาเทควันโดแห่งประเทศไทย ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) การสนับสนุนสมาคมกีฬาเทควันโดแห่งประเทศไทย สนับสนุนนโยบายรัฐด้านการมีส่วนร่วมส่งเสริมและพัฒนาด้านกีฬาของสมาคมกีฬา โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานในพิธี +วันนี้ (29 มีนาคม 2567) นายกมลภพ วีระพละ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) และ ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ นายกสมาคมกีฬาเทควันโดแห่งประเทศไทย ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลง ความร่วมมือ (MOU) การสนับสนุนสมาคมกีฬาเทควันโดแห่งประเทศไทย สนับสนุนนโยบายรัฐด้านการมีส่วนร่วมส่งเสริมและพัฒนาด้านกีฬาของสมาคมกีฬา โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานในพิธี +นายกมลภพ วีระพละ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ธอส. ในฐานะสถาบันการเงินของรัฐ สังกัดกระทรวงการคลัง ที่มีพันธกิจ “ทำให้คนไทยมีบ้าน” นอกจากจะสนับสนุนให้คนไทยได้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตด้านที่อยู่อาศัยแล้ว ธอส. ยังดำเนินการตามนโยบายรัฐในการมีส่วนร่วมส่งเสริมและพัฒนาด้านกีฬาของสมาคมกีฬา ที่เป็นสมาคมกีฬาแห่งประเทศไทย เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนให้สมาคมสามารถส่งนักกีฬาเข้าแข่งขันในระดับนานาชาติ และสร้างชื่อเสียงให้แก่ประเทศไทย โดย ธอส. ได้ให้การสนับสนุนสมาคมกีฬาเทควันโดฯ มาอย่างต่อเนื่องกว่า 18 ปี ตั้งแต่ปี 2549 ถึงปัจจุบัน เป็นจำนวนเงิน 17 ล้านบาทต่อปี รวมเป็นเงินสนับสนุนกว่า 300 ล้านบาท โดยการลงนาม MOU ระหว่าง ธอส. และสมาคมกีฬาเทควันโดแห่งประเทศไทยในครั้งนี้ จะเป็นการ สนับสนุนสมาคมกีฬาเทควันโดฯ ต่อเนื่องเป็นระยะเวลา 4 ปี ตั้งแต่ปี 2568 - 2571 วงเงินสนับสนุนรวม 80 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากวงเงินสนับสนุนเดิมเป็นปีละ 20 ล้านบาท +ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ นายกสมาคมกีฬาเทควันโดแห่งประเทศไทย กล่าวว่า สมาคมกีฬาเทควันโดแห่งประเทศไทย ขอขอบคุณธนาคารอาคารสงเคราะห์ ที่เป็นผู้สนับสนุนหลักมาอย่างต่อเนื่อง ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา สมาคมกีฬาเทควันโดฯ ได้มุ่งมั่นในการสร้างรากฐานกีฬาเทควันโดของประเทศไทยอย่างกว้างขวางไปทั่วประเทศ ด้วยการพัฒนาผู้ตัดสิน การอบรมผู้ฝึกสอน การจัดการแข่งขันให้นักกีฬาได้มีเวทีในการแสดงศักยภาพและพัฒนาความสามารถในการแข่งขัน เพื่อคัดสรรนักกีฬาเทควันโดที่โดดเด่นมาพัฒนาต่อยอดให้เป็นนักกีฬาตัวแทนประเทศไทยสร้างผลงานและชื่อเสียงให้กับประเทศชาติ และสร้างรอยยิ้มให้กับคนไทย +สำหรับการลงนาม MOU ความร่วมมือการสนับสนุนสมาคมกีฬาเทควันโดแห่งประเทศไทยในครั้งนี้มีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานในพิธี โดยจัดขึ้น ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล กรุงเทพมหานคร + +ที่มา : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/81048 \ No newline at end of file diff --git "a/data/2024/03/29/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\271\200\340\270\250\340\270\243\340\270\251\340\270\220\340\270\201\340\270\264\340\270\210_7_3baa6e2f-8e98-493f-a305-bdfca6db2ea7.txt" "b/data/2024/03/29/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\271\200\340\270\250\340\270\243\340\270\251\340\270\220\340\270\201\340\270\264\340\270\210_7_3baa6e2f-8e98-493f-a305-bdfca6db2ea7.txt" new file mode 100644 index 000000000..50a19a8a5 --- /dev/null +++ "b/data/2024/03/29/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\271\200\340\270\250\340\270\243\340\270\251\340\270\220\340\270\201\340\270\264\340\270\210_7_3baa6e2f-8e98-493f-a305-bdfca6db2ea7.txt" @@ -0,0 +1,66 @@ +รัฐบาลไทย-ข่าวทำเนียบรัฐบาล-กยศ. มอบประกาศเกียรติคุณแก่สถานศึกษาระดับอุดมศึกษา 25 แห่ง และระดับอาชีวศึกษา 25 แห่ง ที่มีอัตราชำระหนี้ดีที่สุดของประเทศ ม.พะเยาอยู่ในลำดับแรกต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 + + +วันศุกร์ที่ 29 มีนาคม 2567 +29/03/2567 +พิมพ์ +กยศ. มอบประกาศเกียรติคุณแก่สถานศึกษาระดับอุดมศึกษา 25 แห่ง และระดับอาชีวศึกษา 25 แห่ง ที่มีอัตราชำระหนี้ดีที่สุดของประเทศ ม.พะเยาอยู่ในลำดับแรกต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 +กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) จัดพิธีมอบประกาศเกียรติคุณแก่สถานศึกษาระดับอุดมศึกษา 25 แห่ง และระดับอาชีวศึกษา 25 แห่ง ที่มีอัตราชำระหนี้ดีที่สุดของประเทศ เพื่อเป็นการยกย่องเชิดชูเกียรติ และสร้างขวัญกำลังใจในการดำเนินงานของสถานศึกษา +กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) จัดพิธีมอบประกาศเกียรติคุณแก่สถานศึกษาระดับอุดมศึกษา 25 แห่ง และระดับอาชีวศึกษา 25 แห่ง ที่มีอัตราชำระหนี้ดีที่สุดของประเทศ เพื่อเป็นการยกย่องเชิดชูเกียรติ และสร้างขวัญกำลังใจในการดำเนินงานของสถานศึกษา โดยมีนายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง และประธานกรรมการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษาเป็นผู้มอบรางวัล เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2567 ณ ห้องประชุมวายุภักษ์ 4 ชั้น 4 กระทรวงการคลัง +นายชัยณรงค์ กัจฉปานันท์ ผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา เปิดเผยว่า “จากการที่กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษาได้จัดอันดับข้อมูลสถิติการชำระหนี้ของสถานศึกษาระดับอุดมศึกษาและระดับอาชีวศึกษาทั่วประเทศที่มีผู้กู้ยืมที่อยู่ระหว่างการชำระเงินคืนกองทุน จึงได้จัดพิธีมอบประกาศเกียรติคุณแก่สถานศึกษาระดับอุดมศึกษาและระดับอาชีวศึกษาที่มีอัตราการชำระหนี้ดีที่สุด 25 อันดับแรกของประเทศ ประจำปี 2566 รวมจำนวนทั้งสิ้น 50 แห่ง เพื่อเป็นการยกย่องเชิดชูเกียรติ และสร้างขวัญกำลังใจในการดำเนินงานของสถานศึกษาที่เข้าร่วมการดำเนินงานกองทุน โดยสถานศึกษาระดับอุดมศึกษาที่มีอัตราการชำระหนี้ดีที่สุดอันดับที่ 1 ได้แก่ มหาวิทยาลัยพะเยา และได้เรียงลำดับรายชื่อสถานศึกษา 25 อันดับ ดังนี้ +1. มหาวิทยาลัยพะเยา +2. มหาวิทยาลัยศิลปากร +3. มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร +4. มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา +5. มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ +6. มหาวิทยาลัยนเรศวร +7. มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง +8. มหาวิทยาลัยมหิดล +9. มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ +10. มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ +11. มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ +12. มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี +13. มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี +14.  มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ +15. มหาวิทยาลัยบูรพา +16. มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี +17. มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ +18. สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ +19. สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง +20. มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก +21. มหาวิทยาลัยขอนแก่น +22. มหาวิทยาลัยทักษิณ +23. มหาวิทยาลัยแม่โจ้ +24. มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน +25. มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ +สำหรับสถานศึกษาระดับอาชีวศึกษาที่มีอัตราการชำระหนี้ดีที่สุดอันดับที่ 1 ได้แก่ วิทยาลัยเทคนิคลำปาง และได้เรียงลำดับรายชื่อสถานศึกษา 25 อันดับ ดังนี้ +1. วิทยาลัยเทคนิคลำปาง +2. วิทยาลัยเทคนิคสว่างแดนดิน +3. วิทยาลัยเทคนิคอุตรดิตถ์ +4. วิทยาลัยเทคนิคเดชอุดม +5. วิทยาลัยเทคนิคเชียงราย +6. วิทยาลัยเทคนิคกันทรลักษ์ +7. วิทยาลัยอาชีวศึกษาลำปาง +8. วิทยาลัยอาชีวศึกษาเชียงราย +9. วิทยาลัยเทคนิคสกลนคร +10. วิทยาลัยเทคนิคชุมแพ +11. วิทยาลัยเทคนิคนางรอง +12. วิทยาลัยเทคนิคน่าน +13. วิทยาลัยเทคนิคสุโขทัย +14. วิทยาลัยเทคนิคแพร่ +15. วิทยาลัยอาชีวศึกษาอุตรดิตถ์ +16. วิทยาลัยเทคนิคเลย +17. วิทยาลัยเทคนิคอุบลราชธานี +18. วิทยาลัยการอาชีพนวมินทราชินีมุกดาหาร +19. วิทยาลัยเทคนิคเพชรบูรณ์ +20. วิทยาลัยอาชีวศึกษาสุโขทัย +21. วิทยาลัยเทคนิคพิจิตร +22. วิทยาลัยเทคนิคระยอง +23. วิทยาลัยเทคนิคกำแพงเพชร +24. วิทยาลัยเทคนิคอำนาจเจริญ +25. วิทยาลัยเทคนิคพะเยา +ทั้งนี้ มีสถานศึกษาที่เข้าร่วมดำเนินงานกับกองทุนทั่วประเทศกว่า 4,000 แห่ง ซึ่งสถานศึกษาทุกแห่งล้วนเป็นกำลังสำคัญในการสร้างคนให้มีความรู้ ความสามารถ อีกทั้ง ยังช่วยปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรมให้แก่นักศึกษา  ผู้กู้ยืมมีจิตสำนึกและความรับผิดชอบในการชำระเงินคืนกองทุน เพื่อส่งต่อโอกาสทางการศึกษาให้ผู้กู้ยืมรุ่นต่อไป โดยกองทุนคาดหวังให้สถานศึกษาทุกแห่งได้มีการรณรงค์ส่งเสริมในเรื่องดังกล่าวอย่างต่อเนื่องอันจะส่งผลให้กองทุนเป็นทุนหมุนเวียนที่ให้โอกาสทางการศึกษา เพื่อพัฒนาทุนมนุษย์และสร้างอนาคตให้คนไทย ซึ่งเป็นกำลังสำคัญให้กับประเทศชาติในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมอย่างยั่งยืนต่อไป” ผู้จัดการกองทุนฯกล่าวในที่สุด +ขอเชิญรับชมการถ่ายทอดสดได้ที่ +https://www.facebook.com/share/v/FReAYXvMURwCY5fb/?mibextid=oFDknk + +ที่มา : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/81059 \ No newline at end of file diff --git "a/data/2024/03/29/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\271\200\340\270\250\340\270\243\340\270\251\340\270\220\340\270\201\340\270\264\340\270\210_8_974d7401-d7c8-4110-a061-84e98e8c701a.txt" "b/data/2024/03/29/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\271\200\340\270\250\340\270\243\340\270\251\340\270\220\340\270\201\340\270\264\340\270\210_8_974d7401-d7c8-4110-a061-84e98e8c701a.txt" new file mode 100644 index 000000000..ef74e8f2f --- /dev/null +++ "b/data/2024/03/29/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\271\200\340\270\250\340\270\243\340\270\251\340\270\220\340\270\201\340\270\264\340\270\210_8_974d7401-d7c8-4110-a061-84e98e8c701a.txt" @@ -0,0 +1,15 @@ +รัฐบาลไทย-ข่าวทำเนียบรัฐบาล-ก.เกษตรฯ เปิดหลักสูตร “วกส. รุ่นที่ 5” ดึง 96 แม่ทัพสุดท็อปวงการเกษตร + + +วันศุกร์ที่ 29 มีนาคม 2567 +ก.เกษตรฯ เปิดหลักสูตร “วกส. รุ่นที่ 5” ดึง 96 แม่ทัพสุดท็อปวงการเกษตร +ก.เกษตรฯ เปิดหลักสูตร “วกส. รุ่นที่ 5” ดึง 96 แม่ทัพสุดท็อปวงการเกษตร ปั้นสุดยอดเครือข่ายยกระดับสินค้าเกษตรไทยออกผงาดตลาดต่างแดน +ก.เกษตรฯ เปิดหลักสูตร “วกส. รุ่นที่ 5” ดึง 96 แม่ทัพสุดท็อปวงการเกษตร ปั้นสุดยอดเครือข่ายยกระดับสินค้าเกษตรไทยออกผงาดตลาดต่างแดน +นายธนสาร ธรรมสอน ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้รับมอบหมายจาก ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้เป็นผู้แทนเข้าร่วมพิธีเปิดการอบรมหลักสูตร “วิทยาการเกษตรระดับสูง (วกส.) รุ่นที่ 5 (Agriculture and Cooperatives Executive Program : ACE) บูรณาการสร้างเครือข่ายคุณภาพร่วมขับเคลื่อนภาคการเกษตรไทย จัดโดย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน) หรือ สวก. ทั้งนี้ ได้รับเกียรติจาก ดร.จรัลธาดา กรรณสูต องคมนตรีในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร เป็นประธานในพิธีเปิด โดยมี นายประยูร อินสกุล ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายนวนิตย์ พลเคน รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายนายอนันต์ สุวรรณรัตน์ ประธานกรรมการมูลนิธิเกษตราธิการและผู้อำนวยการหลักสูตรฯ นายชวลิต ชูขจร ประธานคณะกรรมการสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร และผู้เข้าอบรมหลักสูตร วกส.รุ่นที่ 5 จำนวน 96 คน เข้าร่วมในพิธีเปิดฯ ณ ห้องแคทลียา โรงแรมรามาการ์เด้นส์ +ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวภายหลังการปาฐกถาพิเศษ ว่า หลักสูตร วกส. ปัจจุบันถือเป็นหลักสูตรอันดับหนึ่งด้านการเกษตรของประเทศ ที่คัดเลือกบุคลากรด้านการเกษตรที่สำคัญๆ ในประเทศทั้งจากภาครัฐและเอกชน มาร่วมแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ วิสัยทัศน์ และประสบการณ์ ระหว่างผู้นำภาครัฐ ภาคเอกชนและภาคประชาชนในรูปแบบ “ประชารัฐ” เพื่อมุ่งสู่การทำเกษตรวิถีใหม่ โดยมุ่งเน้นการนำวิทยาการเกษตรเทคโนโลยี และนวัตกรรมสมัยใหม่มาปรับใช้ในการพัฒนาศักยภาพเกษตรกรไทย ให้มีความพร้อมเป็นผู้นำด้านการผลิตสินค้าเกษตรและอาหารระดับนานาชาติ ภายใต้นโยบายด้านการเกษตรของรัฐบาล นำโดย นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่ตั้งเป้าเพิ่มรายได้ภาคการเกษตรเป็น 3 เท่าภายใน 4 ปี ด้วยกลยุทธ์ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้ +สำหรับที่ผ่านมา กระทรวงเกษตรฯ ได้มีการจัดอบรมมาแล้วจำนวน 4 รุ่น ซึ่งภายหลังการอบรมผู้เข้าอบรมสามารถนำองค์ความรู้ที่ได้รับมาบูรณาการเพื่อต่อยอดพัฒนาผลงานวิจัยร่วมกับ สวก. เพื่อกระตุ้นตลาดภาคการเกษตรให้กลับมาคึกคักมากยิ่งขึ้น อาทิ สเปรย์พ่นปากผสมสารสกัดฟ้าทะลายโจร ป้องกันการติดเชื้อไวรัส การวิจัยด้านการจัดการการผลิตมะขามหวานคุณภาพ การพัฒนาเครื่องจักรกลการเกษตรสำหรับการผลิตถั่วลิสง การแก้ปัญหาวิธีการคัดแยกมังคุดเนื้อแก้วยางไหลออกจากมังคุด ฯลฯ +นายประยูร อินสกุล ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวในฐานะตัวแทนผู้เข้าอบรบหลักสูตร วกส.รุ่นที่ 5 ว่า หลักสูตร วกส. เป็นหลักสูตรคุณภาพที่ได้รับความสนใจจากผู้นำและผู้บริหารภาคการเกษตรทั่วประเทศ เนื่องจากปัจจุบันผู้บริโภคหันมาให้ความสนใจกับผลิตภัณฑ์ที่มีการนำนวัตกรรม และเทคโนโลยี มาประยุกต์ใช้อำนวยความสะดวกมากยิ่งขึ้น ดังนั้น การปรับตัวด้วยการพัฒนาองค์ความรู้ ความสามารถ ของเจ้าของธุรกิจ จึงเป็นตัวแปรสำคัญในการพัฒนาธุรกิจให้ประสบความสำเร็จและตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคและตลาดได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังได้เปิดโอกาสให้เกษตรกรเข้าร่วมอบรมเพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์อีกด้วย ซึ่งเชื่อมั่นว่า ผู้เข้ารับการอบรมหลักสูตร วกส. รุ่นที่ 5 จะสามารถนำความรู้ที่ได้รับไปต่อยอดพัฒนากับหน่วยงานและธุรกิจของตน เพื่อสร้าง Start up ใหม่ๆ ออกสู่ตลาดได้อย่างแน่นอน +นายอนันต์ สุวรรณรัตน์ ประธานกรรมการมูลนิธิเกษตราธิการ และผู้อำนวยการหลักสูตรฯ กล่าวว่า หลักสูตรดังกล่าว เกิดขึ้นจากความร่วมมือระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สวก. และมูลนิธิเกษตราธิการ โดยกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 29 มีนาคม – 6 กันยายน 2567 ซึ่งภายในหลักสูตรได้กำหนดเนื้อหาให้ครอบคลุมและเชื่อมโยงในมิติที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาภาคการเกษตร 6 ด้าน ที่ทั้งสอดคล้องกับนโยบายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้แก่ 1) Agriculture and Cooperatives Landscape 2) Agricultural Market Mechanisms 3)Technology and Innovation 4) Current Issues for Agriculture Development 5) Research for the Future และ 6) Leadership and Sustainability +นายชวลิต ชูขจร ประธานคณะกรรมการสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร กล่าวเสริมว่า สำหรับความพิเศษหลักสูตร วกส. รุ่นที่ 5 นี้ ผู้เข้าอบรมจะได้เรียนรู้และแลกเปลี่ยนประสบการณ์จากรุ่นพี่ วกส. ที่มาร่วมแชร์ประสบการณ์อย่างใกล้ชิด รวมไปถึงการบรรยายและการเสวนาจากวิทยากรระดับชั้นนำของประเทศ อาทิ หัวข้อ “เกษตรกรรมมิติใหม่อาชีวศึกษาเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน” โดย พลเอก ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ องคมนตรี หัวข้อ “Gene Editing แก้ปัญหาโลกเดือด“ โดย นายรพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร หัวข้อ “CLEAN & GREEN ENERGY PRODUCER FOR OUR HEALTY COUNTRY“ โดย คุณประชัย เลี่ยวไพรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท ทีพีโอ ไพลิน จำกัด (มหาชน) ฯลฯ นอกจากนี้ยังได้มีการศึกษาดูงานในประเทศ และต่างประเทศ ที่ประสบความสำเร็จและเป็นผู้นำด้านการพัฒนาการเกษตร เพื่อให้ผู้บริหารระดับสูงได้เปิดโลกทัศน์ทางด้านเทคโนโลยีการเกษตร พร้อมได้พูดคุยแลกเปลี่ยนเรียนรู้จากประสบการณ์จริงของเจ้าของธุรกิจที่ประสบความสำเร็จในกิจกรรม “OPEN HOUSE” เพื่อสร้างแรงบันดาลใจ สามารถนำแนวคิดและกรณีศึกษาที่ประสบความสำเร็จมาประยุกต์ใช้ในการขับเคลื่อนองค์กร ตลอดจนกระตุ้นสร้างเศรษฐกิจฐานรากให้มีความเข้มแข็ง สามารถสร้าง Smart Farmer เกษตรกรรุ่นใหม่ ที่ต่อยอดนวัตกรรมการเกษตรยุคใหม่ที่ทันสมัยเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากยิ่งขึ้น + +ที่มา : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/81061 \ No newline at end of file diff --git "a/data/2024/03/29/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\271\200\340\270\250\340\270\243\340\270\251\340\270\220\340\270\201\340\270\264\340\270\210_9_3f413838-35ad-4eaf-81e4-19d8c27f8080.txt" "b/data/2024/03/29/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\271\200\340\270\250\340\270\243\340\270\251\340\270\220\340\270\201\340\270\264\340\270\210_9_3f413838-35ad-4eaf-81e4-19d8c27f8080.txt" new file mode 100644 index 000000000..3ba71c0f7 --- /dev/null +++ "b/data/2024/03/29/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\271\200\340\270\250\340\270\243\340\270\251\340\270\220\340\270\201\340\270\264\340\270\210_9_3f413838-35ad-4eaf-81e4-19d8c27f8080.txt" @@ -0,0 +1,12 @@ +รัฐบาลไทย-ข่าวทำเนียบรัฐบาล-นายวิทยา ยาม่วง รองปลัดกระทรวงคมนาคม เป็นประธานพิธีปิดและมอบประกาศนียบัตรแก่ข้าราชการที่ผ่านการฝึกอบรมหลักสูตร “ฉันคือ...ข้าราชการที่ดี” รุ่นที่ 74 + + +วันศุกร์ที่ 29 มีนาคม 2567 +นายวิทยา ยาม่วง รองปลัดกระทรวงคมนาคม เป็นประธานพิธีปิดและมอบประกาศนียบัตรแก่ข้าราชการที่ผ่านการฝึกอบรมหลักสูตร “ฉันคือ...ข้าราชการที่ดี” รุ่นที่ 74 +... +นายวิทยา ยาม่วง รองปลัดกระทรวงคมนาคม เป็นประธานพิธีปิดและมอบประกาศนียบัตรแก่ข้าราชการที่ผ่านการฝึกอบรมหลักสูตร “ฉันคือ…ข้าราชการที่ดี” รุ่นที่ 74 โดยมีผู้บริหารของสำนักงานปลัดกระทรวงคมนาคม และหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม เข้าร่วมพิธี ในวันที่ 29 มีนาคม 2567 ณ โรงแรม แกรนด์ ฮาวเวิร์ด กรุงเทพมหานคร +นายวิทยา ยาม่วง กล่าวว่า ขอแสดงความยินดีกับข้าราชการที่ผ่านการประเมินและได้รับวุฒิบัตรหลักสูตร “ฉันคือ...ข้าราชการที่ดี” ทั้ง 101 คน ถือว่าเป็นโอกาสอันดีที่ได้เข้ารับการฝึกอบรมหลักสูตรนี้ เนื่องจากวัตถุประสงค์ที่สำคัญของโครงการนี้ คือ การส่งเสริมการทำงานเป็นทีม พัฒนาเครือข่าย และสร้าง    สายสัมพันธ์ที่ดีระหว่างข้าราชการในสังกัดกระทรวงคมนาคม ก่อให้เกิดการเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกัน ได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็น เชื่อว่าข้าราชการที่ผ่านการฝึกอบรมมีความพร้อมที่จะเติบโตสู่การเป็นข้าราชการที่ดี และเป็นกำลังสำคัญของการพัฒนาประเทศในอนาคต และขอให้ตระหนักไว้เสมอว่าการเป็นข้าราชการที่ดี คือ ศักดิ์ศรีของตัวข้าราชการเองจะนำมาซึ่งความน่าเชื่อถือ และความไว้วางใจจากประชาชน ต้องมีความซื่อสัตย์สุจริต รวมถึงเจตนารมณ์และเป้าหมายที่สำคัญในการปฏิบัติราชการ คือ ต้องปฏิบัติราชการเพื่อประโยชน์สุขของประชาชน มุ่งเน้นการทำงานเชิงรุก คิดเชิงยุทธศาสตร์ นำระบบบริหารจัดการสมัยใหม่มาใช้เพื่อให้การปฏิบัติงานมีประสิทธิภาพ ประสิทธิผล สามารถวัดผลความสำเร็จได้อย่างเป็นรูปธรรม เพื่อนำพากระทรวงคมนาคมไปสู่ความเข้มแข็งอย่างยั่งยืน +กระทรวงคมนาคม ได้ดำเนินโครงการฝึกอบรมหลักสูตร “ฉันคือ...ข้าราชการที่ดี” รุ่นที่ 74 +ระหว่างวันที่ 20 - 29 มีนาคม 2567 มีข้าราชการเข้าอบรมทั้งสิ้น 101 คน เนื้อหาหลักสูตรและกิจกรรมต่าง ๆ เป็นไปตามแนวทางและวัตถุประสงค์ที่สำนักงาน ก.พ. กำหนด เพื่อปลูกฝังปรัชญาการเป็นข้าราชการที่ดี เสริมสร้างสมรรถนะและทักษะที่จำเป็นสำหรับการปฏิบัติงานราชการส่งเสริมคุณธรรมและจริยธรรม สร้างสายสัมพันธ์ที่ดี แลกเปลี่ยนความคิดเห็นซึ่งกันและกัน พัฒนาเครือข่ายการทำงานระหว่างหน่วยงาน ทำให้ผู้เข้ารับการอบรม     เกิดกระบวนการเรียนรู้สามารถปรับตัวในการอยู่ร่วมกัน และการทำงานเป็นทีมได้อย่างดี เพื่อนำมาปรับใช้ในการปฏิบัติงานจริงต่อไป + +ที่มา : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/81063 \ No newline at end of file diff --git a/last_num.txt b/last_num.txt index b63f85a86..b02614ea5 100644 --- a/last_num.txt +++ b/last_num.txt @@ -1 +1 @@ -81031 \ No newline at end of file +81076 \ No newline at end of file